เมนู

พระจูฬปันถกเจริญภาวนาบรรลุพระอรหัต


ฝ่ายพระจูฬปันถกนั่งแลดูพระอาทิตย์ พลางลูบผ้าท่อนนั้น บริกรรม
ว่า " รโชหรณํ " รโชหรณํ." เมื่อท่านลูบท่อนผ้านั้นอยู่, ท่อนผ้าได้
เศร้าหมองแล้ว. ลำดับนั้น จึงคิดว่า " ท่อนผ้านี้สะอาดแท้ๆ แต่อาศัย
อัตภาพนี้จึงละปกติเดิมเสีย กลายเป็นของเศร้าหมองอย่างนี้ไปได้, สังขาร
ทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ ? ( ครั้นแล้ว ) เริ่มตั้งความสิ้นและความเสื่อม
เจริญวิปัสสนา.
พระศาสดาทรงทราบว่า " จิตของพระจูฬปันถกขึ้นสู่วิปัสสนาแล้ว "
จึงตรัสว่า " จูฬปันถก เธออย่าทำความหมายเฉพาะท่อนผ้านั้น ว่า
' เศร้าหมองแล้ว ติดธุลี; ' ก็ธุลีทั้งหลาย มีธุลีคือราคะเป็นต้น มีอยู่ใน
ภายในของเธอ, เธอจงนำ (คือกำจัด) มันออกเสีย" ดังนี้แล้ว ทรง
เปล่งพระรัศมี เป็นผู้มีพระรูปปรากฏดุจประทับนั่งตรงหน้า ได้ทรงภาษิต
คาถาเหล่านี้ว่า
"ราคะ ชื่อว่าธุลี, แต่เรณู (ละออง) ท่านหา
เรียกว่า (ธุลี) ไม่: คำว่า "ธุลี" นั่นเป็นชื่อ
ของราคะ; ภิกษุเหล่านั้น ละธุลีนั่นได้ขาดแล้ว
อยู่ในศาสนาของพระพุทธเจ้าผู้ปราศจากธุลี.
โทสะ ชื่อว่าธุลี, แต่เรณู (ละออง) ท่านหา
เรียกว่า ( ธุลี) ไม่: คำว่า "ธุลี" นั่นเป็นชื่อ
ของโทสะ; ภิกษุเหล่านั่น ละธุลีนั่นได้ขาดแล้ว
อยู่ในศาสนาของพระพุทธเจ้าผู้ปราศจากธุลี.