เมนู

เศรษฐี. เขาอยู่ที่ไหน ?
นายเสมียน. เขายืนอยู่ที่ปลายเท้า.
ครั้งนั้น เศรษฐีเห็นบุตรชายนั้นแล้ว จึงให้เรียกนายเสมียน
มาแล้ว ถามว่า " ในเรือนของฉันมีทรัพย์อยู่เท่าไร ?" เมื่อนายเสมียน
เรียนว่า " นาย มีอยู่ 40 โกฏิเท่านั้น, แต่เครื่องอุปโภคบริโภคและ
บ้าน นา สัตว์ 2 เท้า 4 เท้า ยานพาหนะ มีอยู่จำนวนเท่านี้ ๆ,"
ใคร่จะพูดว่า "ฉันไม่ให้ทรัพย์ มีประมาณเท่านี้แก่โฆสกะบุตรของฉัน,"
(กลับ) พูดว่า " ฉันให้." ลูกสาวเศรษฐีฟังคำนั้นแล้วคิดว่า " เศรษฐีนี้
เมื่อพูด พึงพูดคำอะไรอื่น" เป็นเหมือนเร่าร้อนด้วยความโศก สยายผม
ร้องไห้กล่าวว่า "คุณพ่อ พูดอะไรนี่, พวกเราฟังคำของท่าน ชื่อแม้นี้,
พวกเราไม่มีบุญหนอ" ดังนี้แล้ว จึงเอาศีรษะประหารเศรษฐีนั่นที่ท่าน-
กลางอก ล้มลงเอาศีรษะกลิ้งเกลือกอยู่ที่ท่ามกลางอกของเศรษฐีนั้น
แสดงอาการคร่ำครวญ จนเศรษฐีไม่อาจพูดได้อีก. แม้เศรษฐี ก็ได้ทำ
กาละในขณะนั้นเอง.

พระเจ้าอุเทนประทานตำแหน่งเศรษฐีแก่นายโฆสกะ


ชนทั้งหลายสดับว่า " เศรษฐีถึงอนิจกรรมแล้ว" จึงไปกราบทูล
พระเจ้าอุเทน. พระเจ้าอุเทน ทรงให้ทำฌาปนกิจสรีระของเศรษฐีนั้นแล้ว
ตรัสถามว่า " ก็ลูกชายหรือลูกหญิงของเศรษฐีนั้น มีอยู่หรือ ?"
ชนทั้งหลายกราบทูลว่า "มีอยู่ พระเจ้าข้า ลูกชายของเศรษฐีนั้น
ชื่อว่า โฆสกะ, เศรษฐีนั้น มอบหมายทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้แก่โฆสกะ
นั้นแล้ว ก็ถึงแก่อนิจกรรม พระเจ้าข้า." พระราชาทรงให้เรียกตัวเศรษฐี-

บุตรมาแล้วในกาลอื่น. ก็ในวันนั้นฝนตก, ที่พระลานหลวงมีน้ำขังอยู่
ในที่นั้น ๆ เศรษฐีบุตรไปแล้วด้วยหวังว่า " จักเฝ้าพระราชา." พระราชา
ทรงเปิดพระแกล ทอดพระเนตรดูนายโฆสกะนั้นเดินมาอยู่ ทรงเห็นเขา
โดดน้ำที่พระลานหลวงเดินมา จึงตรัสถามเขา ซึ่งมาถวายบังคมแล้วยืนอยู่
ว่า " พ่อ เจ้าชื่อโฆสกะหรือ ?" เมื่อเขาทูลว่า " ถูกแล้วพระเจ้าข้า"
ทรงปลอบเขาว่า " เจ้าอย่าเสียใจว่า ' บิดาของเราถึงอนิจกรรมแล้ว '
เราจักให้ตำแหน่งเศรษฐีอันเป็นของบิดาของเจ้าแก่เจ้านั่นเอง" ดังนี้แล้ว
ทรงส่งเขาไปว่า " จงไปเถิด พ่อ" และพระราชาได้ประทับยืนทอด
พระเนตรดูเขาซึ่งไปอยู่เทียว. เขาไม่โดดน้ำที่เขาโดดในเวลาที่มา ได้ลง
ไปค่อย ๆ.
ครั้งนั้น พระราชาตรัสสั่งให้เรียกนายโฆสกะนั้นมาจากที่นั้นแล
แล้วตรัสถามว่า " เพราะเหตุไรหนอ ? พ่อ ท่านเมื่อมาสู่สำนักของเรา
จึงโดดน้ำมาแล้ว, เมื่อไป เดี๋ยวนี้ลงไปแล้ว จึงค่อย ๆ เดินไป."
นายโฆสกะ ทูลว่า "เป็นอย่างนั้น พระเจ้าข้า ข้าพระพุทธเจ้า ยังเป็นเด็ก
ในขณะนั้น, นี้ชื่อว่า เป็นเวลาเล่น. ก็ในกาลนี้ ข้าพระพุทธเจ้า ได้รับ
ทราบตำแหน่งจากพระองค์แล้ว . เพราะฉะนั้น การที่ข้าพระองค์ไม่เที่ยว
เหมือนในกาลก่อน แล้วค่อย ๆ ไป จึงควรในเดี๋ยวนี้."
พระราชาทรงสดับคำนั้นแล้ว ทรงดำริว่า "ชายผู้นี้มีปัญญา,
เราจักให้ตำแหน่งเศรษฐีแก่เขาในบัดนี้ เถิด" ดังนี้แล้ว ประทานโภคะ
ที่บิดาบริโภคแล้ว ได้ประทานตำแหน่งเศรษฐี พร้อมด้วยสรรพวัตถุ
100 อย่าง.

นายโฆสกะรับตำแหน่งเศรษฐี


นายโฆสกะนั้นยืนอยู่บนรถ ได้การทำประทักษิณพระนครแล้ว.
ที่อันนายโฆสกะนั้นแลดูแล้ว ๆ ย่อมหวั่นไหว. แม้ลูกสาวของเศรษฐี
นั่งปรึกษากับนางกาลีสาวใช้ว่า " แม่กาลี สมบัติมีประมาณเท่านี้ สำเร็จ
แล้วแก่บุตรของท่าน ก็เพราะอาศัยเรา."
กาลี. เพราะเหตุไร ? แม่.
เศรษฐีธิดา. เพราะโฆสกะนี้ ผูกจดหมายฆ่าตัวตายไว้ที่ชายผ้า
มาสู่เรือนของพวกเรา, ครั้งนั้น ฉันฉีกจดหมายฉบับนั้นของเขา เขียน
จดหมายฉบับอื่น เพื่อให้ทำมงคลกับฉัน ทำอารักขาในเขาสิ้นกาลเท่านี้.
กาลี. แม่ ท่านรู้เห็นเพียงเท่านี้, แต่เศรษฐีมุ่งแต่จะฆ่าเขาตั้งแต่
เขาเป็นเด็ก ก็ไม่อาจเพื่อจะฆ่าได้, อาศัยนายโฆสกะนี้อย่างเดียว สิ้นทรัพย์
ไปมากมาย.
เศรษฐีธิดา. แม่ เศรษฐีทำกรรมหนักหนอ.
เศรษฐีธิดานั้นเห็นนายโฆสกะนั้น ระทำประทักษิณพระนคร เข้า
ไปสู่เรือน จึงหัวเราะ ด้วยคิดว่า " สมบัติมีประมาณเท่านี้ ๆ สำเร็จแล้ว
ก็เพราะอาศัยเรา."
ครั้งนั้น เศรษฐีบุตรเห็นอาการนั้น จึงถามว่า " ท่านหัวเราะ
ทำไม ?"
เศรษฐีธิดา. เพราะอาศัยเหตุอันหนึ่ง.
เศรษฐีบุตร. จงบอกเหตุนั้น.
เศรษฐีธิดานั้น ไม่บอกแล้ว.
เศรษฐีบุตรนั้น จึงขู่ว่า " ถ้าไม่บอก จะฟันเจ้าให้เป็น 2 ท่อน"