เมนู

แลเห็นเด็กนอนอยู่ภายใต้ท้องโคนั้น หวนกลับได้ความรักเสมือนบุตร
จึงนำไปสู่เรือน ด้วยคิดว่า " เราได้ลูกชายแล้ว." นางกาลี ไปแล้ว
ถูกเศรษฐีถาม จึงเล่าเรื่องนั้น อันเศรษฐีกล่าวว่า "เจ้าจงไป จงให้
ทรัพย์เขา 1 พันแล้ว นำมันกลับมาอีก" ดังนี้แล้ว ให้ทรัพย์ 1 พัน
แล้ว ได้นำกลับมาให้อีก.

นางกาลีนำโฆสกะไปให้เกวียนทับ


ครั้งนั้น เศรษฐีกล่าวกับนางกาลีว่า " แม่กาลี ในเมืองนี้มีพวก
เกวียน 500 เล่ม ลุกขึ้นแต่เช้ามืด ย่อมไปค้าขาย, เจ้าจงเอาเด็กนี้ไป
ให้นอนไว้ที่ทางเกวียน (ทางล้อ ) พวกโคจักเหยียบมันหรือล้อเกวียน
จักตัด (ตัวมัน) พอรู้เรื่องของมันแล้ว จึงกลับมา." นางกาลีนั้น
นำเด็กนั้นไปแล้ว ให้นอนอยู่ที่ทางเกวียน. ในกาลนั้นหัวหน้าเกวียน
ได้ไปข้างหน้า. ครั้งนั้น พวกโคของเขา ถึงที่นั้นแล้ว ต่างพากันสลัด
แอกเสีย. แม้จะถูกหัวหน้ายกขึ้นแล้วขับไปตั้งหลายครั้ง ก็ไม่เดินไป
ข้างหน้า. เมื่อหัวหน้านั้น พยายามอยู่กับโคทั้งสองนั้นอย่างนี้เทียว
อรุณขึ้นแล้ว (ก็พอสว่าง). เขาจึงคิดว่า "โคทั้งสองพากันทำเหตุนี้
เพราะอะไร ? " จึงตรวจตราดูทาง เห็นทารกแล้วก็คิดว่า " กรรมของ
เขาหนักหนอ" ความยินดีว่า "เราได้ลูกชายแล้ว" จึงนำเด็กนั้นไป
สู่เรือน. นางกาลีไปแล้ว อันเศรษฐีถาม จึงบอกความเป็นไปนั้น อัน
เศรษฐีบอกว่า "เจ้าจงไปให้ทรัพย์ (เขา) 1 พันแล้ว จงนำเด็กนั้น
กลับมาอีก" ดังนี้แล้ว ได้กระทำตามนั้นแล้ว.

นางกาลีนำโฆสกะไปทิ้งที่ป่าช้าผีดิบ


ครั้งนั้น เศรษฐีกล่าวกะนางกาลีนั้นว่า "บัดนี้ เจ้าจงนำมัน
ไปยังป่าช้าผีดิบ แล้วเอานอนไว้ในระหว่างพุ่มไม้, มันจักถูกสัตว์มีสุนัข
ป่าเป็นต้นกัด หรือถูกอมนุษย์ประหารตายในที่นั้น, เจ้ารู้ว่ามันตายแล้ว
หรือไม่ตายเทียว จึงกลับมา." นางกาลีนั้นนำเด็กนั้นไป ให้นอนอยู่
ที่ป่าช้าผีดิบแล้ว ได้ยืนอยู่ ณ ที่แห่งหนึ่ง. สุนัขบ้าง กาบ้าง อมนุษย์
บ้าง ไม่อาจเข้าใกล้เด็กนั้นได้. มีคำถามสอดเข้ามาว่า "ก็มารดาบิดา
และบรรดาพี่น้องเป็นต้น ใคร ๆ ชื่อว่าผู้รักษาของเด็กนั้น ไม่มีมิใช่
หรือ ? ใครรักษาตัวเด็กนั้นไว้ ?" แก้ว่า "กรรมสักว่าความเห่าเท่านั้น
ซึ่งเด็กให้เป็นไปแล้ว ด้วยความรักใคร่ในพระปัจเจกพุทธเจ้า ในเวลา
เป็นสุนัข รักษาเด็กไว้." ครั้งนั้น นายอชบาลผู้หนึ่ง ต้อนแม่แพะตั้ง
หลายแสนตัวไปหากิน เดินไปข้างป่าช้า. แม่แพะตัวหนึ่งเคี้ยวกินใบไม้
เป็นต้น เข้าไปสู่พุ่มไม้เห็นทารกแล้ว จึงคุกเข่าให้นมแก่ทารก. แม้
นายอชบาล จะทำเสียงว่า "เห, เห" ก็หาออกไปไม่. เขาคิดว่า
" จักเอาไม้ตีมันไล่ออก" จึงเข้าไปสู่พุ่มไม้ เห็นแม่แพะคุกเข่าให้ทารกน้อย
กินนมอยู่ จึงหวนกลับได้รับความรักในทารกเสมือนบุตร จึงพาเอาหารก
นั้นไป ด้วยคิดว่า " เราได้ลูกชายแล้ว," นางกาลี เห็นเหตุนั้นแล้ว
จึงไป ถูกเศรษฐีถามแล้ว จึงบอกความเป็นไปอันนั้น อันเศรษฐีกล่าวว่า
" เจ้าจงไป ให้ทรัพย์ (เขา) 1 พันแล้ว นำมันกลับมาอีก" ได้
กระทำตามนั้นแล้ว.

นางกาลีเอาโฆสกะไปโยนเหว


ครั้งนั้น เศรษฐี กล่าวกะนางทาสีนั้นว่า "แม่กาลี เจ้าจงเอา