เมนู

พระเทวทัตนุ่งห่มผ้าไม่สมควรแก่ตน


พระเทวทัต ตัดผ้านั้นแล้ว เย็บ ย้อม นุ่งห่มเที่ยวไป. พวก
มนุษย์เห็นท่านแล้ว จึงพูดกันว่า "ผ้าผืนนี้หาสมควรแก่พระเทวทัตไม่
ควรแก่พระสารีบุตรเถระ, พระเทวทัตนุ่งห่มผ้าอันไม่สมควรแก่ตนเที่ยว
ไป."
ขณะนั้น ภิกษุผู้อยู่ต่างทิศรูปหนึ่ง ( ออก ) จากกรุงราชคฤห์
ไปสู่กรุงสาวัตถี ถวายบังคมพระศาสดา เป็นผู้อันพระศาสดาทรงทำ
ปฏิสันถาร ตรัสถามถึงการอยู่ผาสุกของพระอัครสาวกทั้งสองแล้ว จึง
กราบทูลเรื่องนั้นทั้งหมดจำเดิมแต่ต้น.
พระศาสดา ตรัสว่า "ภิกษุ เทวทัตนั้นทรงผ้าที่ไม่สมควรแก่
ตนในบัดนี้เท่านั้นก็หามิได้, แม้ในกาลก่อน เธอก็ทรงแล้วเหมือนกัน"
ดังนี้แล้ว ทรงนำอดีตนิทานมา (ตรัสว่า)

ครั้งก่อนพระเทวทัตเป็นนายพรานช้าง


ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติ ในพระนคร
พาราณสี, นายพรานช้าง ชาวพระนครพาราณสีผู้หนึ่ง ล้มช้างแล้ว
นำงา หนัง ไส้ใหญ่และเนื้อล่ำมาแล้วขายเลี้ยงชีวิต. ครั้งนั้นช้างหลาย
พันเชือกเดินหากินอยู่ในป่าแห่งหนึ่ง พบพระปัจเจกพุทธะหลายองค์
จำเดิมแต่กาลนั้น เมื่อไป หมอบลงด้วยเข่าทั้งสองแล้วจบ1ในกาลที่ไป
และมา ( ทุกครั้ง) แล้วจึงผ่านไป. วันหนึ่ง นายพรานช้างเห็นกิริยา
นั้นแล้ว คิดว่า "เราล้มช้างเหล่านี้ได้โดยยาก, ก็ในกาลไปและมา

1. กิริยาของช้างที่ทำความเคารพ ตรงกับคำว่า ไหว้.
.