เมนู

3. ยุธญฺชยวคฺโค

1. ยุธญฺชยจริยาวณฺณนา

[1] ตติยวคฺคสฺส ปฐเม อมิตยโสติ อปริมิตปริวารวิภโวฯ ราชปุตฺโต ยุธญฺชโยติ รมฺมนคเร สพฺพทตฺตสฺส นาม รญฺโญ ปุตฺโต นาเมน ยุธญฺชโย นามฯ

อยญฺหิ พาราณสี อุทยชาตเก (ชา. 1.11.37 อาทโย) สุรุนฺธนนครํ นาม ชาตาฯ จูฬสุตโสมชาตเก (ชา. 2.17.195 อาทโย) สุทสฺสนํ นาม, โสณนนฺทชาตเก (ชา. 2.20.92 อาทโย) พฺรหฺมวฑฺฒนํ นาม, ขณฺฑหาลชาตเก(ชา. 2.22.982 อาทโย) ปุปฺผวตี นาม, อิมสฺมิํ ปน ยุธญฺชยชาตเก (ชา. 1.11.73 อาทโย) รมฺมนครํ นาม อโหสิ, เอวมสฺส กทาจิ นามํ ปริวตฺตติฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘ราชปุตฺโตติ รมฺมนคเร สพฺพทตฺตสฺส นาม รญฺโญ ปุตฺโต’’ติฯ ตสฺส ปน รญฺโญ ปุตฺตสหสฺสํ อโหสิฯ โพธิสตฺโต เชฏฺฐปุตฺโต, ตสฺส ราชา อุปรชฺชํ อทาสิฯ โส เหฏฺฐา วุตฺตนเยเนว ทิวเส ทิวเส มหาทานํ ปวตฺเตสิฯ เอวํ คจฺฉนฺเต กาเล โพธิสตฺโต เอกทิวสํ ปาโตว รถวรํ อภิรุหิตฺวา มหนฺเตน สิริวิภเวน อุยฺยานกีฬํ คจฺฉนฺโต รุกฺขคฺคติณคฺคสาขคฺคมกฺกฏกสุตฺตชาลาทีสุ มุตฺตาชาลากาเรน ลคฺเค อุสฺสาวพินฺทู ทิสฺวา ‘‘สมฺม สารถิ, กิํ นาเมต’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เอเต, เทว, หิมสมเย ปตนกอุสฺสาวพินฺทู นามา’’ติ สุตฺวา ทิวสภาคํ อุยฺยาเน กีฬิตฺวา สายนฺหกาเล ปจฺจาคจฺฉนฺโต เต อทิสฺวา ‘‘สมฺม สารถิ, กหํ เต อุสฺสาวพินฺทู, น เต อิทานิ ปสฺสามี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เทว, สูริเย อุคฺคจฺฉนฺเต สพฺเพ ภิชฺชิตฺวา วิลยํ คจฺฉนฺตี’’ติ สุตฺวา ‘‘ยถา อิเม อุปฺปชฺชิตฺวา ภิชฺชนฺติ, เอวํ อิเมสํ สตฺตานํ ชีวิตสงฺขาราปิ ติณคฺเค อุสฺสาวพินฺทุสทิสาว, ตสฺมา มยา พฺยาธิชรามรเณหิ อปีฬิเตเนว มาตาปิตโร อาปุจฺฉิตฺวา ปพฺพชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อุสฺสาวพินฺทุเมว อารมฺมณํ กตฺวา อาทิตฺเต วิย ตโย ภเว ปสฺสนฺโต อตฺตโน เคหํ อาคนฺตฺวา อลงฺกตปฏิยตฺตาย วินิจฺฉยสาลาย นิสินฺนสฺส ปิตุ สนฺติกเมว คนฺตฺวา ปิตรํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ฐิโต ปพฺพชฺชํ ยาจิฯ เตน วุตฺตํ –

‘‘อุสฺสาวพินฺทุํ สูริยาตเป, ปติตํ ทิสฺวาน สํวิชิํฯ

[2]

‘‘ตญฺเญวาธิปติํ กตฺวา, สํเวคมนุพฺรูหยิํ;

มาตาปิตู จ วนฺทิตฺวา, ปพฺพชฺชมนุยาจห’’นฺติฯ

ตตฺถ สูริยาตเปติ สูริยาตปเหตุ, สูริยรสฺมิสมฺผสฺสนิมิตฺตํฯ ‘‘สูริยาตเปนา’’ติปิ ปาโฐฯ ปติตํ ทิสฺวานาติ วินฏฺฐํ ปสฺสิตฺวา, ปุพฺเพ รุกฺขคฺคาทีสุ มุตฺตาชาลาทิอากาเรน ลคฺคํ หุตฺวา ทิสฺสมานํ สูริยรสฺมิสมฺผสฺเสน วินฏฺฐํ ปญฺญาจกฺขุนา โอโลเกตฺวาฯ สํวิชินฺติ ยถา เอตานิ, เอวํ สตฺตานํ ชีวิตานิปิ ลหุํ ลหุํ ภิชฺชมานสภาวานีติ อนิจฺจตามนสิการวเสน สํเวคมาปชฺชิํฯ

ตญฺเญวาธิปติํ กตฺวา, สํเวคมนุพฺรูหยินฺติ ตญฺเญว อุสฺสาวพินฺทูนํ อนิจฺจตํ อธิปติํ มุขํ ปุพฺพงฺคมํ ปุเรจาริกํ กตฺวา ตเถว สพฺพสงฺขารานํ อิตฺตรฏฺฐิติกตํ ปริตฺตกาลตํ มนสิกโรนฺโต เอกวารํ อุปฺปนฺนํ สํเวคํ ปุนปฺปุนํ อุปฺปาทเนน อนุวฑฺเฒสิํฯ ปพฺพชฺชมนุยาจหนฺติ ‘‘ติณคฺเค อุสฺสาวพินฺทู วิย น จิรฏฺฐิติเก สตฺตานํ ชีวิเต มยา พฺยาธิชรามรเณหิ อนภิภูเตเนว ปพฺพชิตฺวา ยตฺถ เอตานิ น สนฺติ, ตํ อมตํ มหานิพฺพานํ คเวสิตพฺพ’’นฺติ จินฺเตตฺวา มาตาปิตโร อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘ปพฺพชฺชํ เม อนุชานาถา’’ติ เต อหํ ปพฺพชฺชํ ยาจิํฯ เอวํ มหาสตฺเตน ปพฺพชฺชาย ยาจิตาย สกลนคเร มหนฺตํ โกลาหลมโหสิ – ‘‘อุปราชา กิร ยุธญฺชโย ปพฺพชิตุกาโม’’ติ

เตน จ สมเยน กาสิรฏฺฐวาสิโน ราชานํ ทฏฺฐุํ อาคนฺตฺวา รมฺมเก ปฏิวสนฺติฯ เต สพฺเพปิ สนฺนิปติํสุฯ อิติ สปริโส ราชา เนคมา เจว ชานปทา จ โพธิสตฺตสฺส มาตา เทวี จ สพฺเพ จ โอโรธา มหาสตฺตํ ‘‘มา โข ตฺวํ, ตาต กุมาร, ปพฺพชี’’ติ นิวาเรสุํฯ ตตฺถ ราชา ‘‘สเจ เต กาเมหิ อูนํ, อหํ เต ปริปูรยามิ, อชฺเชว รชฺชํ ปฏิปชฺชาหี’’ติ อาหฯ ตสฺส มหาสตฺโต –

‘‘มา มํ เทว นิวาเรหิ, ปพฺพชนฺตํ รเถสภ;

มาหํ กาเมหิ สมฺมตฺโต, ชราย วสมนฺวคู’’ติฯ (ชา. 1.11.77) –

อตฺตโน ปพฺพชฺชาฉนฺทเมว วตฺวา ตํ สุตฺวา สทฺธิํ โอโรเธหิ มาตุยา กรุณํ ปริเทวนฺติยา –

‘‘อุสฺสาโวว ติณคฺคมฺหิ, สูริยุคฺคมนํ ปติ;

เอวมายุ มนุสฺสานํ, มา มํ อมฺม นิวารยา’’ติฯ (ชา. 1.11.79) –

อตฺตโน ปพฺพชฺชาการณํ กเถตฺวา นานปฺปการํ เตหิ ยาจิยมาโนปิ อภิสํวฑฺฒมานสํเวคตฺตา อโนสกฺกิตมานโส ปิยตเร มหติ ญาติปริวฏฺเฏ อุฬาเร ราชิสฺสริเย จ นิรเปกฺขจิตฺโต ปพฺพชิฯ เตน วุตฺตํ –

[3]

‘‘ยาจนฺติ มํ ปญฺชลิกา, สเนคมา สรฏฺฐกา;

อชฺเชว ปุตฺต ปฏิปชฺช, อิทฺธํ ผีตํ มหามหิํฯ

[4]

‘‘สราชเก สโหโรเธ, สเนคเม สรฏฺฐเก;

กรุณํ ปริเทวนฺเต, อนเปกฺโข ปริจฺจชิ’’นฺติฯ

ตตฺถ ปญฺชลิกาติ ปคฺคหิตอญฺชลิกาฯ สเนคมา สรฏฺฐกาติ เนคเมหิ เจว รฏฺฐวาสีหิ จ สทฺธิํ สพฺเพ ราชปุริสา ‘‘มา โข, ตฺวํ เทว, ปพฺพชี’’ติ มํ ยาจนฺติฯ มาตาปิตโร ปน อชฺเชว ปุตฺต ปฏิปชฺช, คามนิคมราชธานิอภิวุทฺธิยา เวปุลฺลปฺปตฺติยา จ, อิทฺธํ วิภวสารสมฺปตฺติยา สสฺสาทินิปฺผตฺติยา จ, ผีตํ อิมํ มหามหิํ อนุสาส, ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา รชฺชํ กาเรหีติ ยาจนฺติฯ เอวํ ปน สห รญฺญาติ สราชเก, ตถา สโหโรเธ สเนคเม สรฏฺฐเก มหาชเน ยถา สุณนฺตานมฺปิ ปเคว ปสฺสนฺตานํ มหนฺตํ การุญฺญํ โหติ, เอวํ กรุณํ ปริเทวนฺเต ตตฺถ ตตฺถ อนเปกฺโข อลคฺคจิตฺโต ‘‘อหํ ตทา ปพฺพชิ’’นฺติ ทสฺเสติฯ

[5-6] อิทานิ ยทตฺถํ จกฺกวตฺติสิริสทิสํ รชฺชสิริํ ปิยตเร ญาติพนฺธเว ปหาย สินิทฺธํ ปริคฺคหปริชนํ โลกาภิมตํ มหนฺตํ ยสญฺจ นิรเปกฺโข ปริจฺจชินฺติ ทสฺเสตุํ ทฺเว คาถา อภาสิฯ

ตตฺถ เกวลนฺติ อนวเสสํ อิตฺถาคารํ สมุทฺทปริยนฺตญฺจ ปถวิํ ปพฺพชฺชาธิปฺปาเยน จชมาโน เอวํ เม สมฺมาสมฺโพธิ สกฺกา อธิคนฺตุนฺติ โพธิยาเยว การณา น กิญฺจิ จินฺเตสิํ, น ตตฺถ อีสกํ ลคฺคํ ชเนสินฺติ อตฺโถฯ

ตสฺมาติ ยสฺมา มาตาปิตโร ตญฺจ มหายสํ รชฺชญฺจ เม น เทสฺสํ , ปิยเมว, ตโต ปน สตคุเณน สหสฺสคุเณน สตสหสฺสคุเณน สพฺพญฺญุตญฺญาณเมว มยฺหํ ปิยตรํ, ตสฺมา มาตาทีหิ สทฺธิํ รชฺชํ อหํ ตทา ปริจฺจชินฺติฯ

ตเทตํ สพฺพํ ปริจฺจชิตฺวา ปพฺพชฺชาย มหาสตฺเต นิกฺขมนฺเต ตสฺส กนิฏฺฐภาตา ยุธิฏฺฐิลกุมาโร นาม ปิตรํ วนฺทิตฺวา ปพฺพชฺชํ อนุชานาเปตฺวา โพธิสตฺตํ อนุพนฺธิฯ เต อุโภปิ นครา นิกฺขมฺม มหาชนํ นิวตฺเตตฺวา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา มโนรเม ฐาเน อสฺสมปทํ กตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ฌานาภิญฺญาโย นิพฺพตฺเตตฺวา วนมูลผลาทีหิ ยาวชีวํ ยาเปตฺวา พฺรหฺมโลกปรายนา อเหสุํฯ เตนาห ภควา –

‘‘อุโภ กุมารา ปพฺพชิตา, ยุธญฺชโย ยุธิฏฺฐิโล;

ปหาย มาตาปิตโร, สงฺคํ เฉตฺวาน มจฺจุโน’’ติฯ (ชา. 1.11.83);

ตตฺถ สงฺคํ เฉตฺวาน มจฺจุโนติ มจฺจุมารสฺส สหการิการณภูตตฺตา สนฺตกํ ราคโทสโมหสงฺคํ วิกฺขมฺภนวเสน ฉินฺทิตฺวา อุโภปิ ปพฺพชิตาติฯ

ตทา มาตาปิตโร มหาราชกุลานิ อเหสุํ, ยุธิฏฺฐิลกุมาโร อานนฺทตฺเถโร, ยุธญฺชโย โลกนาโถฯ

ตสฺส ปพฺพชฺชโต ปุพฺเพ ปวตฺติตมหาทานานิ เจว รชฺชาทิปริจฺจาโค จ ทานปารมี, กายวจีสํวโร สีลปารมี, ปพฺพชฺชา จ ฌานาธิคโม จ เนกฺขมฺมปารมี, อนิจฺจโต มนสิการํ อาทิํ กตฺวา อภิญฺญาธิคมปริโยสานา ปญฺญา ทานาทีนํ อุปการานุปการธมฺมปริคฺคณฺหนปญฺญา จ ปญฺญาปารมี, สพฺพตฺถ ตทตฺถสาธนํ วีริยํ วีริยปารมี , ญาณขนฺติ อธิวาสนขนฺติ จ ขนฺติปารมี, ปฏิญฺญาย อวิสํวาทนํ สจฺจปารมี, สพฺพตฺถ อจลสมาทานาธิฏฺฐานํ อธิฏฺฐานปารมี, สพฺพสตฺเตสุ หิตจิตฺตตาย เมตฺตาพฺรหฺมวิหารวเสน จ เมตฺตาปารมี, สตฺตสงฺขารกตวิปฺปการอุเปกฺขนวเสน อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหารวเสน จ อุเปกฺขาปารมีติ ทส ปารมิโย ลพฺภนฺติฯ วิเสสโต ปน เนกฺขมฺมปารมีติ เวทิตพฺพาฯ ตถา อกิตฺติจริยายํ วิย อิธาปิ มหาปุริสสฺส อจฺฉริยคุณา ยถารหํ นิทฺธาเรตพฺพาฯ เตน วุจฺจติ ‘‘เอวํ อจฺฉริยา เหเต, อพฺภุตา จ มเหสิโน…เป.… ธมฺมสฺส อนุธมฺมโต’’ติฯ

ยุธญฺชยจริยาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

2. โสมนสฺสจริยาวณฺณนา

[7] ทุติเย อินฺทปตฺเถ ปุรุตฺตเมติ เอวํนามเก นครวเรฯ กามิโตติ มาตาปิตุอาทีหิ ‘‘อโห วต เอโก ปุตฺโต อุปฺปชฺเชยฺยา’’ติ เอวํ จิรกาเล ปตฺถิโตฯ ทยิโตติ ปิยายิโตฯ โสมนสฺโสติ วิสฺสุโตติ ‘‘โสมนสฺโส’’ติ เอวํ ปกาสนาโมฯ

[8] สีลวาติ ทสกุสลกมฺมปถสีเลน เจว อาจารสีเลน จ สมนฺนาคโตฯ คุณสมฺปนฺโนติ สทฺธาพาหุสจฺจาทิคุเณหิ อุเปโต, ปริปุณฺโณ วาฯ กลฺยาณปฏิภานวาติ ตํตํอิติกตฺตพฺพสาธเนน อุปายโกสลฺลสงฺขาเตน จ สุนฺทเรน ปฏิภาเนน สมนฺนาคโตฯ วุฑฺฒาปจายีติ มาตาปิตโร กุเล เชฏฺฐาติ เอวํ เย ชาติวุฑฺฒา, เย จ สีลาทิคุเณหิ วุฑฺฒา, เตสํ อปจายนสีโลฯ หิรีมาติ ปาปชิคุจฺฉนลกฺขณาย หิริยา สมนฺนาคโตฯ สงฺคเหสุ จ โกวิโทติ ทานปิยวจนอตฺถจริยาสมานตฺตตาสงฺขาเตหิ จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ ยถารหํ สตฺตานํ สงฺคณฺหเนสุ กุสโลฯ เอวรูโป เรณุสฺส นาม กุรุราชสฺส ปุตฺโต โสมนสฺโสติ วิสฺสุโต ยทา โหมีติ สมฺพนฺโธฯ

[9] ตสฺส รญฺโญ ปติกโรติ เตน กุรุราเชน ปติ อภิกฺขณํ อุปกตฺตพฺพภาเวน ปติกโร วลฺลโภฯ กุหกตาปโสติ อสนฺตคุณสมฺภาวนลกฺขเณน โกหญฺเญน ชีวิตกปฺปนโก เอโก ตาปโส, ตสฺส รญฺโญ สกฺกาตพฺโพ อโหสิฯ อารามนฺติ ผลารามํ, ยตฺถ เอฬาลุกลาพุกุมฺภณฺฑติปุสาทิวลฺลิผลานิ เจว ตณฺฑุเลยฺยกาทิสากญฺจ โรปียติฯ มาลาวจฺฉนฺติ ชาติอติมุตฺตกาทิปุปฺผคจฺฉํ, เตน ปุปฺผารามํ ทสฺเสติฯ เอตฺถ จ อารามํ กตฺวา ตตฺถ มาลาวจฺฉญฺจ ยถาวุตฺตผลวจฺฉญฺจ โรเปตฺวา ตโต ลทฺธธนํ สํหริตฺวา ฐเปนฺโต ชีวตีติ อตฺโถ เวทิตพฺโพฯ