เมนู

3. สีวลิตฺเถรอปทานวณฺณนา

ตติยาปทาเน ปทุมุตฺตโร นาม ชิโนติอาทิกํ อายสฺมโต สีวลิตฺเถรสฺส อปทานํฯ อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปุญฺญานิ อุปจินนฺโต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺโต เหฏฺฐา วุตฺตนเยน วิหารํ คนฺตฺวา ปริสาย ปริยนฺเต ฐิโต ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ ลาภีนํ อคฺคฏฺฐาเน ฐเปนฺตํ ทิสฺวา ‘‘มยาปิ อนาคเต เอวรูเปน ภวิตุํ วฏฺฏตี’’ติ ทสพลํ นิมนฺเตตฺวา สตฺตาหํ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขสงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อิมินา อธิการกมฺเมน น อญฺญํ สมฺปตฺติํ ปตฺเถมิ, อนาคเต ปน เอกสฺส พุทฺธสฺส สาสเน อหมฺปิ ตุมฺเหหิ โส เอตทคฺเค ฐปิตภิกฺขุ วิย ลาภีนํ อคฺโค ภเวยฺย’’นฺติ ปตฺถนํ อกาสิฯ สตฺถา ตสฺส อนนฺตรายตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ เต ปตฺถนา อนาคเต โคตมสฺส พุทฺธสฺส สนฺติเก สมิชฺฌิสฺสตี’’ติ พฺยากริตฺวา ปกฺกามิฯ โส กุลปุตฺโต ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุ อุภยสมฺปตฺติโย อนุภวิตฺวา วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล พนฺธุมตีนครโต อวิทูเร เอกสฺมิํ คามเก นิพฺพตฺติ, ตสฺมิํ สมเย พนฺธุมตีนครวาสิโน รญฺญา สทฺธิํ สากจฺฉิตฺวา ทสพลสฺส ทานํ อทํสุฯ

เอกทิวสํ สพฺเพ เอกโต หุตฺวา ทานํ เทนฺตา ‘‘กิํ นุ โข อมฺหากํ ทานคฺเค นตฺถี’’ติ (อ. นิ. อฏฺฐ. 1.1.207; เถรคา. อฏฺฐ. 1.59 สีวลิตฺเถรคาถาวณฺณนา) โอโลเกนฺตา มธุญฺจ คุฬทธิญฺจ นาทฺทสํสุฯ เต ‘‘ยโต กุโตจิ อาหริสฺสามา’’ติ ชนปทโต นครปวิสนมคฺเคสุ ปุริเส ฐเปสุํฯ ตทา เอส กุลปุตฺโต อตฺตโน คามโต คุฬทธิวารกํ คเหตฺวา ‘‘กิญฺจิเทว อาหริสฺสามี’’ติ นครํ คจฺฉนฺโต ‘‘มุขํ โธวิตฺวา โธตหตฺถปาโท ปวิสิสฺสามี’’ติ ผาสุกฏฺฐานํ โอโลเกนฺโต นงฺคลสีสปฺปมาณํ นิมฺมกฺขิกทณฺฑกมธุํ ทิสฺวา ‘‘ปุญฺเญน เม อิทํ อุปฺปนฺน’’นฺติ คเหตฺวา นครํ ปาวิสิฯ นาคเรหิ ฐปิตปุริโส ตํ ทิสฺวา, ‘‘มาริส, กสฺส อิมํ หรสี’’ติ ปุจฺฉิฯ ‘‘น กสฺสจิ, สามิ, วิกฺกายิกํ เม อิท’’นฺติฯ ‘‘เตน หิ อิมํ กหาปณํ คเหตฺวา เอตํ มธุญฺจ คุฬทธิญฺจ เทหี’’ติฯ

โส จินฺเตสิ – ‘‘อิทํ เม น พหุํ อคฺฆติ, อยญฺจ เอกปฺปหาเรเนว พหุํ เทติ, วีมํสิสฺสามี’’ติฯ ตโต นํ อาห – ‘‘นาหํ เอกกหาปเณน เทมี’’ติฯ ‘‘ยทิ เอวํ ทฺเว กหาปเณ คเหตฺวา เทหี’’ติฯ ‘‘ทฺวีหิปิ น เทมี’’ติฯ เอเตนุปาเยน วฑฺเฒตฺวา ยาว สหสฺสํ ปาปุณิ, โส จินฺเตสิ – ‘‘อติอญฺฉิตุํ น วฏฺฏติ, โหตุ ตาว อิมินา กตฺตพฺพกมฺมํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ ฯ อถ นํ อาห – ‘‘น อิทํ พหุอคฺฆนกํ, ตฺวํ ปน พหุํ เทสิ, เกน กมฺเมน อิทํ คณฺหสี’’ติฯ ‘‘อิธ, โภ, นครวาสิโน รญฺญา สทฺธิํ ปฏิวิรุชฺฌิตฺวา วิปสฺสิสมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ทานํ เทนฺตา อิทํ ทฺวยํ ทานคฺเค อปสฺสนฺตา มํ ปริเยสาเปนฺติฯ สเจ อิทํ ทฺวยํ น ลภิสฺสนฺติ, นาครานํ ปราชโย ภวิสฺสติฯ ตสฺมา สหสฺสํ ทตฺวา คณฺหามี’’ติฯ ‘‘กิํ ปเนตํ นาครานํ เอว วฏฺฏติ, อุทาหุ อญฺเญสมฺปิ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘ยสฺส กสฺสจิ ทาตุํ อวาริตเมต’’นฺติฯ ‘‘อตฺถิ ปน โกจิ นาครานํ ทาเน เอกทิวสํ สหสฺสํ ทาตา’’ติ? ‘‘นตฺถิ, สมฺมา’’ติฯ ‘‘อิเมสํ เม ทฺวินฺนํ สหสฺสคฺฆนกภาวํ ชานาสี’’ติ? ‘‘อาม, ชานามี’’ติฯ ‘‘เตน หิ คจฺฉ, นาครานํ อาโรเจหิ – ‘เอโก ปุริโส อิมานิ ทฺเว มูเลน น เทติ, ตุมฺเหหิ สทฺธิํ สหตฺเถเนว ทาตุกาโม, ตุมฺเห อิเมสํ ทฺวินฺนํ การณา นิพฺพิตกฺกา โหถา’’ติฯ

‘‘ตฺวํ อิมสฺมิํ ทาเน เชฏฺฐกภาคสฺส กายสกฺขี โหหี’’ติ วตฺวา คโตฯ โส ปน กุลปุตฺโต คามโต ปริพฺพยตฺถํ คหิตกหาปเณน ปญฺจกฏุกํ คเหตฺวา จุณฺณํ กตฺวา ทธิโต กญฺจิยํ วาเหตฺวา ตตฺถ มธุปฏลํ ปีเฬตฺวา ปญฺจกฏุกจุณฺเณน โยเชตฺวา ปทุมินิปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา ตํ สํวิทหิตฺวา อาทาย ทสพลสฺส อวิทูเร นิสีทิฯ มหาชเนหิ อาหริยมานสฺส สกฺการสฺส อนฺตเร อตฺตโน ปตฺตวารํ โอโลเกนฺโต โอกาสํ ญตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อยํ เม ทุคฺคตสกฺกาโร, อิมํ เม อนุกมฺปํ ปฏิจฺจ ปฏิคฺคณฺหถา’’ติฯ สตฺถา ตสฺสานุกมฺปํ ปฏิจฺจ จตุมหาราเชหิ ทตฺติเยน เสลมยปตฺเตน ตํ ปฏิคฺคเหตฺวา ยถา อฏฺฐสฏฺฐิยา ภิกฺขุสตสหสฺสสฺส ทิยฺยมานํ น ขียติ, เอวํ อธิฏฺฐาสิฯ

โส กุลปุตฺโต นิฏฺฐิตภตฺตกิจฺจํ ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน อาห – ‘‘ทิฏฺโฐ เม, ภนฺเต ภควา, อชฺช พนฺธุมตีนครวาสีหิ ตุมฺหากํ สกฺกาโร อาหริยมาโน, อหมฺปิ อิมสฺส นิสฺสนฺเทน นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตภเว ลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺโต ภเวยฺย’’นฺติฯ สตฺถา ‘‘เอวํ โหตุ กุลปุตฺตา’’ติ วตฺวา ตสฺส จ นครวาสีนญฺจ ภตฺตานุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิฯ โส กุลปุตฺโต ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท สุปฺปวาสาย ราชธีตุยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธิํ คณฺหิฯ ตสฺส ปฏิสนฺธิคฺคหณกาลโต ปฏฺฐาย สายํ ปาตญฺจ ปญฺจปณฺณาการสตานิ สุปฺปวาสาย อุปนียนฺติฯ อถสฺส สา ปุญฺญวีมํสนตฺถํ หตฺเถน พีชปจฺฉิํ ผุสาเปนฺตี อฏฺฐาสิฯ เอเกกพีชโต สลากสตํ สลากสหสฺสมฺปิ นิคฺคจฺฉติ, เอเกกกรีสเขตฺตโต ปณฺณาสมฺปิ สฏฺฐิปิ สกฏปมาณานิ อุปฺปชฺชนฺติฯ โกฏฺฐปูรณกาเลปิสฺสา โกฏฺฐทฺวารํ หตฺเถน ผุสนฺติยา ราชธีตาย ปุญฺเญน คณฺหนฺตานํ คหิตคหิตํ ปุน ปูรติฯ ปริปุณฺณภตฺตกุมฺภิโตปิ ‘‘ราชธีตาย ปุญฺญ’’นฺติ วตฺวา ยสฺส กสฺสจิ เทนฺตา นํ ยาว น อุกฺกฑฺฒนฺติ, น ตาว ภตฺตํ ขียติฯ ทารเก กุจฺฉิคเตเยว สตฺต วสฺสานิ อติกฺกมิํสุฯ

คพฺเภ ปน ปริปกฺเก สตฺตาหํ มหาทุกฺขํ อนุโภสิฯ

สา สามิกํ อามนฺเตตฺวา – ‘‘ปุเร มรณา ชีวมานา ทานํ ทสฺสามี’’ติ สตฺถุ สนฺติกํ เปเสสิ – ‘‘คจฺฉ, สามิ, อิมํ ปวตฺติํ สตฺถุ อาโรเจตฺวา สตฺถารํ นิมนฺเตหิ, ยญฺจ สตฺถา วทติ, ตํ สาธุกํ อุปลกฺเขตฺวา อาคนฺตฺวา มยฺหํ กเถหี’’ติฯ โส คนฺตฺวา ตสฺสา สาสนํ สตฺถุ อาโรเจสิ – ‘‘สตฺถุ ภนฺเต, โกฬิยธีตา ปาเท วนฺทตี’’ติฯ สตฺถา ตสฺสา อนุกมฺปํ ปฏิจฺจ – ‘‘สุขินี โหตุ สุปฺปวาสา โกฬิยธีตา อโรคา, อโรคํ ปุตฺตํ วิชายตู’’ติ อาหฯ โส ตํ สุตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา อตฺตโน คามาภิมุโข ปายาสิฯ ตสฺส ปุเร อาคมนาเยว สุปฺปวาสาย กุจฺฉิโต ธมฺมกรณโต อุทกํ วิย คพฺโภ นิกฺขมิ, ปริวาเรตฺวา นิสินฺนชโน อสฺสุมุโข โรทิตุํ อารทฺโธ หฏฺฐตุฏฺโฐว ตสฺสา สามิกสฺส ตุฏฺฐิสาสนํ อาโรเจตุํ อคมาสิฯ โส เตสํ อิงฺคิตํ ทิสฺวา – ‘‘ทสพเลน กถิตกถา นิปฺผนฺนา ภวิสฺสติ มญฺเญ’’ติ จินฺเตสิฯ โส อาคนฺตฺวา สตฺถุ กถํ ราชธีตาย กเถสิฯ ราชธีตา ตยา นิมนฺติตํ ชีวภตฺตเมว มงฺคลภตฺตํ ภวิสฺสติ, คจฺฉ สตฺตาหํ ทสพลํ นิมนฺเตหีติฯ โส ตถา อกาสิฯ สตฺตาหํ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ปวตฺตยิํสุฯ โส ทารโก ญาตีนํ สนฺตตฺตจิตฺตํ นิพฺพาเปนฺโต สีตลภาวํ กุรุมาโน ชาโตติ, สีวลิตฺเวว นามํ กริํสุฯ โส สตฺต วสฺสานิ คพฺเภ วสิตตฺตา ชาตกาลโต ปฏฺฐาย สพฺพกมฺมกฺขโม อโหสิฯ ธมฺมเสนาปติ สาริปุตฺตตฺเถโร สตฺตเม ทิวเส เตน สทฺธิํ กถาสลฺลาปมกาสิฯ สตฺถาปิ อิมํ คาถํ อภาสิ –

‘‘โยมํ ปลิปถํ ทุคฺคํ, สํสารํ โมหมจฺจคา;

ติณฺโณ ปารงฺคโต ฌายี, อเนโช อกถํกถี;

อนุปาทาย นิพฺพุโต, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณ’’นฺติฯ (ธ. ป. 414; สุ. นิ. 643);

อถ นํ เถโร เอวมาห – ‘‘กิํ ปน ตยา เอวรูปํ ทุกฺขํ อนุภวิตฺวา ปพฺพชิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘ลภนฺโต ปพฺพเชยฺยํ, ภนฺเต’’ติฯ สุปฺปวาสา ตํ เถเรน สทฺธิํ กเถนฺตํ ทิสฺวา – ‘‘กิํ นุ โข เม ปุตฺโต ธมฺมเสนาปตินา กเถตี’’ติ เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘มยฺหํ ปุตฺโต ตุมฺเหหิ สทฺธิํ กิํ กเถติ, ภนฺเต’’ติ? อตฺตนา อนุภุตฺตคพฺภวาสทุกฺขํ กเถตฺวา – ‘‘ตุมฺเหหิ อนุญฺญาโต ปพฺพชิสฺสามี’’ติ วทตีติฯ ‘‘สาธุ ภนฺเต, ปพฺพาเชถ น’’นฺติฯ

เถโร ตํ วิหารํ เนตฺวา ตจปญฺจกกมฺมฏฺฐานํ ทตฺวา ปพฺพาเชนฺโต, ‘‘สีวลิ , ตุยฺหํ อญฺเญน โอวาเทน กมฺมํ นตฺถิ, ตยา สตฺต วสฺสานิ อนุภุตฺตทุกฺขเมว ปจฺจเวกฺขาหี’’ติฯ ‘‘ภนฺเต, ปพฺพชฺชาเยว ตุมฺหากํ ภาโร, ยํ ปน มยา สกฺกา กาตุํ, ตมหํ ชานิสฺสามี’’ติฯ โส ปน ปฐมเกสวฏฺฏิยา โอโรปิตกฺขเณเยว โสตาปตฺติผเล ปติฏฺฐาสิ, ทุติยาย โอโรปิตกฺขเณ สกทาคามิผเล, ตติยาย อนาคามิผเล ปติฏฺฐาสิฯ สพฺเพสํเยว เกสานํ โอโรปนญฺจ อรหตฺตผลสจฺฉิกิริยา จ อปุเร อปจฺฉา อโหสิฯ

อถ ภิกฺขุสงฺเฆ กถา อุทปาทิ – ‘‘อโห เอวํ ปุญฺญวาปิ เถโร สตฺตมาสาธิกานิ สตฺต สํวจฺฉรานิ มาตุคพฺเภ วสิตฺวา สตฺต ทิวสานิ มูฬฺหคพฺเภ วสี’’ติฯ สตฺถา อาคนฺตฺวา – ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา – ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต – ‘‘น, ภิกฺขเว, อิมินา กุลปุตฺเตน อิมาย ชาติยา กตกมฺม’’นฺติ วตฺวา อตีตํ อาหริตฺวา อตีเต, ภิกฺขเว, พุทฺธุปฺปาทโต ปุเรตรเมว เอส กุลปุตฺโต พาราณสิยํ ราชกุเล นิพฺพตฺโต, ปิตุ อจฺจเยน รชฺเช ปติฏฺฐาย วิภวสมฺปนฺโน ปากโฏ อโหสิฯ ตทา เอโก ปจฺจนฺตราชา ‘‘รชฺชํ คณฺหิสฺสามี’’ติ อาคนฺตฺวา นครํ อุปรุนฺธิตฺวา ขนฺธาวารํ กาเรตฺวา วิหาสิฯ อถ ราชา มาตุยา สทฺธิํ สมานจฺฉนฺโท หุตฺวา สตฺตาหํ ขนฺธาวารนคเร จตูสุ ทิสาสุ ทฺวารํ ปิธาเปสิ, นิกฺขมนฺตานํ ปวิสนฺตานญฺจ ทฺวารมูฬฺหํ อโหสิฯ อถ มิคทายวิหาเร ปจฺเจกพุทฺธา อุคฺโฆเสสุํฯ ราชา สุตฺวา ทฺวารํ วิวราเปสีติฯ ปจฺจนฺตราชาปิ ปลายิฯ โส เตน กมฺมวิปาเกน นรกาทีสุ ทุกฺขมนุภวิตฺวา อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท ราชกุเล นิพฺพตฺโตปิ มาตุยา สทฺธิํ อิมํ เอวรูปํ ทุกฺขมนุภวิฯ ตสฺส ปน ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺฐาย ภิกฺขุสงฺฆสฺส จตฺตาโร ปจฺจยา ยทิจฺฉกํ อุปฺปชฺชนฺติฯ เอวํ เอตฺถ วตฺถุ สมุฏฺฐิตํฯ

อปรภาเค สตฺถา สาวตฺถิํ อคมาสิฯ เถโร ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา, ‘‘ภนฺเต, มยฺหํ ปุญฺญพลํ วีมํสิสฺสามิ, ปญฺจภิกฺขุสตานิ เทถา’’ติฯ ‘‘คณฺห, สีวลี’’ติฯ โส ปญฺจสเต ภิกฺขู คเหตฺวา หิมวนฺตาภิมุขํ คจฺฉนฺโต อฏวิมคฺคํ คจฺฉติฯ ตสฺส ปฐมํ ทิฏฺฐนิคฺโรเธ อธิวตฺถา เทวตา สตฺต ทิวสานิ ทานํ อทาสิฯ อิติ โส –

‘‘นิคฺโรธํ ปฐมํ ปสฺสิ, ทุติยํ ปณฺฑวปพฺพตํ;

ตติยํ อจิรวติยํ, จตุตฺถํ วรสาครํฯ

‘‘ปญฺจมํ หิมวนฺตํ โส, ฉฏฺฐํ ฉทฺทนฺตุปาคมิ;

สตฺตมํ คนฺธมาทนํ, อฏฺฐมํ อถ เรวต’’นฺติฯ (อ. นิ. อฏฺฐ. 1.1.207; เถรคา. อฏฺฐ. 1.59 สีวลิตฺเถรคาถาวณฺณนา) –

สพฺพฏฺฐาเนสุ สตฺต สตฺต ทิวสาเนว ทานํ อทํสุฯ คนฺธมาทนปพฺพเต ปน นาคทตฺตเทวราชา สตฺตสุ ทิวเสสุ เอกทิวสํ ขีรปิณฺฑปาตํ อทาสิ, เอกทิวสํ สปฺปิปิณฺฑปาตํ อทาสิฯ อถ นํ ภิกฺขุสงฺโฆ อาห – ‘‘อาวุโส, อิมสฺส เทวรญฺโญ เนว เธนุโย ทุยฺหมานา ปญฺญายนฺติ, น ทธินิมฺมถนํ, กุโต เต, เทวราช, อิทํ อุปฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘ภนฺเต, กสฺสปทสพลสฺส กาเล ขีรสลากภตฺตทานสฺเสตํ ผล’’นฺติ เทวราชา อาหฯ

อปรภาเค สตฺถา ขทิรวนิยเรวตตฺเถรสฺส ปจฺจุคฺคมนํ อกาสิฯ กถํ? อถายสฺมา สาริปุตฺโต สตฺถารํ อาห – ‘‘ภนฺเต, มยฺหํ กิร กนิฏฺฐภาตา เรวโต ปพฺพชิโต, โส อภิรเมยฺย วา น วา, คนฺตฺวา นํ ปสฺสิสฺสามี’’ติฯ ภควา เรวตสฺส อารทฺธวิปสฺสกภาวํ ญตฺวา ทฺเว วาเร ปฏิกฺขิปิตฺวา ตติยวาเร ยาจิโต อรหตฺตปฺปตฺตภาวํ ญตฺวา – สาริปุตฺต, อหมฺปิ คมิสฺสามิ ภิกฺขูนํ อาโรเจหีติฯ เถโร ภิกฺขู สนฺนิปาตาเปตฺวา – ‘‘อาวุโส, สตฺถา จาริกํ จริตุกาโม, คนฺตุกามา อาคจฺฉนฺตู’’ติ สพฺเพสํเยว อาโรเจสิฯ ทสพลสฺส จาริกตฺถาย คมนกาเล โอหิยฺยมานกภิกฺขู นาม อปฺปกา โหนฺติ, ‘‘สตฺถุ สุวณฺณวณฺณํ สรีรํ ปสฺสิสฺสาม, มธุรธมฺมกถํ วา สุณิสฺสามา’’ติ เยภุยฺเยน คนฺตุกามา พหุตราว โหนฺติฯ อิติ สตฺถา มหาภิกฺขุสงฺฆปริวาโร ‘‘เรวตํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ นิกฺขนฺโตฯ

อเถกสฺมิํ ปเทเส อานนฺทตฺเถโร ทฺเวธาปถํ ปตฺวา ภควนฺตํ ปุจฺฉิ – ‘‘ภนฺเต, อิมสฺมิํ ฐาเน ทฺเวธาปโถ, กตรมคฺเคน ภิกฺขุสงฺโฆ คจฺฉตู’’ติ? ‘‘กตรมคฺโค, อานนฺท, อุชุโก’’ติ? ‘‘ภนฺเต, อุชุมคฺโค ติํสโยชนิโก อมนุสฺสปโถฯ ปริหารมคฺโค ปน สฏฺฐิโยชนิโก เขโม สุภิกฺโข’’ติฯ ‘‘อานนฺท, สีวลิ, อมฺเหหิ สทฺธิํ อาคโต’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, อาคโต’’ติฯ ‘‘เตน หิ สงฺโฆ อุชุมคฺคเมว คจฺฉตุ, สีวลิสฺส ปุญฺญํ วีมํสิสฺสามา’’ติฯ สตฺถา ภิกฺขุสงฺฆปริวาโร สีวลิตฺเถรสฺส ปุญฺญวีมํสนตฺถํ ติํสโยชนมคฺคํ อภิรุหิ (อ. นิ. อฏฺฐ. 1.1.203)ฯ

มคฺคํ อภิรุหนฏฺฐานโต ปฏฺฐาย เทวสงฺโฆ โยชเน โยชเน ฐาเน นครํ มาเปตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส วสนตฺถาย วิหาเร ปฏิยาเทสิฯ เทวปุตฺตา รญฺญา เปสิตกมฺมการา วิย หุตฺวา ยาคุขชฺชกาทีนิ คเหตฺวา – ‘‘กหํ, อยฺโย สีวลี’’ติ ปุจฺฉนฺตา คจฺฉนฺติฯ เถโร สกฺการสมฺมานํ คาหาเปตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ คจฺฉติฯ สตฺถา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ ปริภุญฺชิฯ อิมินาว นิยาเมน สตฺถา สกฺการํ อนุภวนฺโต เทวสิกํ โยชนปรมํ คนฺตฺวา ติํสโยชนิกํ กนฺตารํ อติกฺกมฺม ขทิรวนิยเรวตตฺเถรสฺส วสนฏฺฐานํ ปตฺโต, เถโร สตฺถุ อาคมนํ ญตฺวา อตฺตโน วสนฏฺฐาเน พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปโหนกวิหาเร ทสพลสฺส คนฺธกุฏิํ รตฺติฏฺฐานทิวาฏฺฐานานิ จ อิทฺธิยา มาเปตฺวา ตถาคตสฺส ปจฺจุคฺคมนํ คโตฯ สตฺถา อลงฺกตปฏิยตฺเตน มคฺเคน วิหารํ ปาวิสิฯ อถ ตถาคเต คนฺธกุฏิํ ปวิฏฺเฐ ภิกฺขู วสฺสคฺเคน ปตฺตเสนาสนานิ ปวิสิํสุฯ เทวตา ‘‘อกาโล อาหารสฺสา’’ติ อฏฺฐวิธํ ปานกํ อาหริํสุฯ สตฺถา สงฺเฆน สทฺธิํ ปานกํ ปิวิฯ อิมินา นิยาเมเนว ตถาคตสฺส สกฺการสมฺมานํ อนุภวนฺตสฺเสว อทฺธมาโส อติกฺกนฺโตฯ

อเถกจฺเจ อุกฺกณฺฐิตภิกฺขู เอกสฺมิํ ฐาเน นิสีทิตฺวา กถํ อุปฺปาทยิํสุ – ‘‘ทสพโล ‘มยฺหํ อคฺคสาวกสฺส กนิฏฺฐภาตา’ติ วตฺวา เอวรูปํ นวกมฺมิกํ ภิกฺขุํ ปสฺสิตุํ อาคโต, อิมสฺส วิหารสฺส สนฺติเก เชตวนวิหาโร วา เวฬุวนวิหาราทโย วา กิํ กริสฺสนฺติ? อยมฺปิ ภิกฺขุ เอวรูปสฺส นวกมฺมสฺส การโก, กิํ นาม สมณธมฺมํ กริสฺสตี’’ติ? อถ สตฺถา จินฺเตสิ – ‘‘มยิ อิธ จิรํ วสนฺเต อิทํ ฐานํ อากิณฺณํ ภวิสฺสติ, อารญฺญกา นาม ภิกฺขู ปวิเวกตฺถิกา โหนฺติ, เรวตสฺส ผาสุวิหาโร น ภวิสฺสตี’’ติฯ ตโต เถรสฺส ทิวาฏฺฐานํ คโตฯ เถโรปิ เอกโกว จงฺกมนโกฏิยํ อาลมฺพนผลกํ นิสฺสาย ปาสาณผลเก นิสินฺโน สตฺถารํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ปจฺจุคฺคนฺตฺวา วนฺทิฯ

อถ นํ สตฺถา ปุจฺฉิ – ‘‘เรวต, อิทํ วาฬมิคฏฺฐานํ, จณฺฑานํ หตฺถิอสฺสาทีนํ สทฺทํ สุตฺวา กิํ กโรสี’’ติ? ‘‘เตสํ เม, ภนฺเต, สทฺทํ สุณโต อรญฺญปีติ นาม อุปฺปนฺนา’’ติฯ

สตฺถา อิมสฺมิํ ฐาเน เรวตตฺเถรสฺส ปญฺจหิ คาถาสเตหิ อรญฺญานิสํสํ นาม กเถตฺวา ปุนทิวเส อวิทูรฏฺฐาเน ปิณฺฑาย จริตฺวา เรวตตฺเถรํ อามนฺเตตฺวา เยหิ ภิกฺขูหิ เถรสฺส อวณฺโณ กถิโต, เตสํ กตฺตรยฏฺฐิอุปาหนเตลนาฬิฉตฺตานํ ปมุสฺสนภาวมกาสิฯ เต อตฺตโน ปริกฺขารตฺถาย นิวตฺตา อาคตมคฺเคเนว คจฺฉนฺตาปิ ตํ ฐานํ สลฺลกฺเขตุํ น สกฺโกนฺติฯ ปฐมญฺหิ เต อลงฺกตปฏิยตฺเตน มคฺเคน คนฺตฺวา, ตํทิวสํ ปน วิสมมคฺเคน คจฺฉนฺตา ตสฺมิํ ตสฺมิํ ฐาเน อุกฺกุฏิกํ นิสีทนฺตา ชณฺณุเกหิ คจฺฉนฺติฯ เต คุมฺเพ จ คจฺเฉ จ กณฺฑเก จ มทฺทนฺตา อตฺตนา วสิตสภาคฏฺฐานํ คนฺตฺวา ตสฺมิํ ตสฺมิํ ขทิรขาณุเก ลคฺคิตํ อตฺตโน ฉตฺตํ สญฺชานนฺติ, อุปาหนํ กตฺตรยฏฺฐิํ เตลนาฬิญฺจ สญฺชานนฺติฯ เต ตสฺมิํ สมเย ‘‘อิทฺธิมา อยํ ภิกฺขู’’ติ ญตฺวา อตฺตโน ปริกฺขารมาทาย ‘‘ทสพลสฺส ปฏิยตฺตสกฺกาโร นาม เอวรูโป โหตี’’ติ วทนฺตา อคมํสุฯ

ปุรโต อาคเต ภิกฺขู, วิสาขา อุปาสิกา, อตฺตโน เคเห นิสินฺนกาเล ปุจฺฉิ – ‘‘มนาปํ นุ โข, ภนฺเต, เรวตสฺส วสนฏฺฐาน’’นฺติ? ‘‘มนาปํ, อุปาสิเก, นนฺทวนจิตฺตลตาวนปฏิภาคํ ตํ เสนาสน’’นฺติฯ อถ เตสํ ปจฺฉโต อาคเต ภิกฺขู ปุจฺฉิ – ‘‘มนาปํ, อยฺยา, เรวตสฺส วสนฏฺฐาน’’นฺติ? ‘‘มา ปุจฺฉ, อุปาสิเก, กเถตุํ อยุตฺตฏฺฐานํ, เอตํ อุชฺชงฺคลสกฺขรปาสาณวิสมขทิรวนํ เอว, ตตฺถ โส ภิกฺขุ วสตี’’ติฯ

วิสาขา ปุริมานํ ปจฺฉิมานญฺจ ภิกฺขูนํ กถํ สุตฺวา, ‘‘เกสํ นุ โข กถา สจฺจา’’ติ ปจฺฉาภตฺตํ คนฺธมาลํ อาทาย ทสพลสฺส อุปฏฺฐานํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺนา สตฺถารํ ปุจฺฉิ – ‘‘ภนฺเต, เรวตตฺเถรสฺส วสนฏฺฐานํ เอกจฺเจ อยฺยา วณฺเณนฺติ, เอกจฺเจ นินฺทนฺติ, กิเมตํ, ภนฺเต’’ติ? ‘‘วิสาเข, รมณิยํ วา โหตุ มา วา, ยสฺมิํ ฐาเน อริยานํ จิตฺตํ รมติ, ตเทว ฐานํ รมณิยํ นามา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘คาเม วา ยทิ วารญฺเญ, นินฺเน วา ยทิ วา ถเล;

ยตฺถ อรหนฺโต วิหรนฺติ, ตํ ภูมิรามเณยฺยก’’นฺติฯ (ธ. ป. 98; เถรคา. 991; สํ. นิ. 1.261);

อปรภาเค ภควา อริยคณมชฺเฌ นิสินฺโน เถรํ ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ลาภีนํ ยทิทํ, สีวลี’’ติ (อ. นิ. 1.198, 207) เอตทคฺเค ฐเปสิฯ

[54] อถายสฺมา สีวลิตฺเถโร อรหตฺตํ ปตฺวา ปตฺตเอตทคฺคฏฺฐาโน อตฺตโน ปุพฺพกมฺมํ สริตฺวา โสมนสฺสชาโต ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสนฺโต ปทุมุตฺตโร นาม ชิโนติอาทิมาหฯ อนุตฺตานตฺถปทวณฺณนเมว กริสฺสามฯ

[55] สีลํ ตสฺส อสงฺเขยฺยนฺติ ตสฺส ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต สีลํ อสงฺเขยฺยํฯ

‘‘นว โกฏิสหสฺสานิ, อสีติสตโกฏิโย;

ปญฺญาสสตสหสฺสานิ, ฉตฺติํสา จ ปุนาปเรฯ

‘‘เอเต สํวรวินยา, สมฺพุทฺเธน ปกาสิตา;

เปยฺยาลมุเขน นิทฺทิฏฺฐา, สิกฺขาวินยสํวเร’’ติฯ (วิสุทฺธิ. 1.20; ปฏิ. ม. อฏฺฐ. 1.1.37) –

เอวํ วุตฺตสิกฺขาปทานิ ภิกฺขูนํ สาวกปญฺญตฺติวเสน วุตฺตานิฯ ภควโต ปน สีลํ อสงฺเขยฺยเมว สํขาตุํ คเณตุํ อสกฺกุเณยฺยนฺติ อตฺโถฯ สมาธิวชิรูปโม ยถา วชิรํ อินฺทนีลมณิเวฬุริยมณิผลิกมสารคลฺลาทีนิ รตนานิ วิชฺฌติ ฉิทฺทาวฉิทฺทํ กโรติ, เอวเมว ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต โลกุตฺตรมคฺคสมาธิ ปฏิปกฺขปจฺจนีกธมฺเม วิชฺฌติ ภินฺทติ สมุจฺฉินฺทตีติ อตฺโถฯ อสงฺเขยฺยํ ญาณวรํ ตสฺส พุทฺธสฺส จตฺตาริ สจฺจานิ สตฺตติํสโพธิปกฺขิยธมฺเม สงฺขตาสงฺขตธมฺเม จ ชานิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ สมตฺถํ สยมฺภูญาณสพฺพญฺญุตญฺญาณาทิญาณสมูหํ อสงฺเขยฺยํ, อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนาทิเภเทน สํขาวิรหิตนฺติ อตฺโถฯ วิมุตฺติ จ อโนปมาติ สํกิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา โสตาปตฺติผลาทิกา จตสฺโส วิมุตฺติโย อนุปมา อุปมารหิตา ‘‘อิมา วิย ภูตา’’ติ อุปเมตุํ น สกฺกาติ อตฺโถฯ เสสํ อุตฺตานตฺถเมวาติฯ

สีวลิตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตาฯ

4. วงฺคีสตฺเถรอปทานวณฺณนา

จตุตฺถาปทาเน ปทุมุตฺตโร นาม ชิโนติอาทิกํ อายสฺมโต วงฺคีสตฺเถรสฺส อปทานํฯ อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปุญฺญานิ อุปจินนฺโต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร มหาโภคกุเล นิพฺพตฺโต วุทฺธิปฺปตฺโต ธมฺมํ โสตุํ คจฺฉนฺเตหิ นครวาสีหิ สทฺธิํ วิหารํ คนฺตฺวา ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกภิกฺขุํ ปฏิภานวนฺตานํ อคฺคฏฺฐาเน ฐเปนฺตํ ทิสฺวา สตฺถุ อธิการกมฺมํ กตฺวา – ‘‘อหมฺปิ อนาคเต ปฏิภานวนฺตานํ อคฺโค ภเวยฺย’’นฺติ ปตฺถนํ กตฺวา สตฺถารา พฺยากโต ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุ อุภยสมฺปตฺติโย อนุภวิตฺวา อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา มาตุ ปริพฺพาชิกาภาเวน อปรภาเค ปริพฺพาชโกติ ปากโฏ วงฺคีโสติ จ ลทฺธนาโม ตโย เวเท อุคฺคณฺหิตฺวา ตโต อาจริยํ อาราเธตฺวา ฉวสีสชานนมนฺตํ นาม สิกฺขิตฺวา ฉวสีสํ นเขน อาโกเฏตฺวา – ‘‘อยํ สตฺโต อสุกโยนิยํ นิพฺพตฺโต’’ติ ชานาติฯ

พฺราหฺมณา ‘‘อยํ อมฺหากํ ชิวิกาย มคฺโค’’ติ วงฺคีสํ คเหตฺวา คามนิคมราชธานิโย วิจริํสุฯ วงฺคีโส ติวสฺสมตฺถเก มตานมฺปิ สีสํ อาหราเปตฺวา นเขน อาโกเฏตฺวา – ‘‘อยํ สตฺโต อสุกโยนิยํ นิพฺพตฺโต’’ติ วตฺวา มหาชนสฺส กงฺขาจฺเฉทนตฺถํ เต เต ชเน อาวาเหตฺวา อตฺตโน อตฺตโน คติํ กถาเปติฯ เตน ตสฺมิํ มหาชโน อภิปฺปสีทติฯ โส ตํ นิสฺสาย มหาชนสฺส หตฺถโต สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ ลภติฯ พฺราหฺมณา วงฺคีสํ อาทาย ยถารุจิ วิจริํสุฯ วงฺคีโส สตฺถุ คุเณ สุตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตุกาโม อโหสิฯ พฺราหฺมณา ‘‘สมโณ โคตโม มายาย ตํ อาวฏฺเฏสฺสตี’’ติ ปฏิกฺขิปิํสุฯ

วงฺคีโส เตสํ วจนํ อนาทิยิตฺวา, สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา, ปฏิสนฺถารํ กตฺวา, เอกมนฺตํ นิสีทิฯ สตฺถา ตํ ปุจฺฉิ – ‘‘วงฺคีส, กิญฺจิ สิปฺปํ ชานาตี’’ติ? ‘‘อาม, โภ โคตม, ฉวสีสมนฺตํ นาเมกํ ชานามิ, เตน ติวสฺสมตฺถเก มตานมฺปิ สีสํ นเขน อาโกเฏตฺวา นิพฺพตฺตฏฺฐานํ ชานามี’’ติฯ อถ สตฺถา ตสฺส เอกํ นิรเย นิพฺพตฺตสฺส สีสํ, เอกํ มนุสฺเสสุ, เอกํ เทเวสุ, เอกํ ปรินิพฺพุตสฺส สีสํ อาหราเปตฺวา ทสฺเสสิฯ โส ปฐมสีสํ อาโกเฏตฺวา, ‘‘โภ โคตม, อยํ สตฺโต นิรเย นิพฺพตฺโต’’ติ อาหฯ สาธุ วงฺคีส, สุฏฺฐุ ตยา ทิฏฺฐํ, ‘‘อยํ สตฺโต กุหิํ นิพฺพตฺโต’’ติ ปุจฺฉิฯ ‘‘มนุสฺสโลเก’’ติฯ ‘‘อยํ กุหิ’’นฺติ? ‘‘เทวโลเก’’ติฯ ติณฺณนฺนมฺปิ นิพฺพตฺตฏฺฐานํ กเถสิฯ