เมนู

7. มิตฺตาเถรีคาถาวณฺณนา

จาตุทฺทสิํ ปญฺจทสินฺติอาทิกา อปราย มิตฺตาย เถริยา คาถาฯ อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล ขตฺติยกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปตฺวา พนฺธุมสฺส รญฺโญ อนฺเตปุริกา หุตฺวา วิปสฺสิสฺส ภควโต สาวิกํ เอกํ ขีณาสวตฺเถริํ ทิสฺวา ปสนฺนมานสา หุตฺวา ตสฺสา หตฺถโต ปตฺตํ คเหตฺวา ปณีตสฺส ขาทนียโภชนียสฺส ปูเรตฺวา มหคฺเฆน สาฏกยุเคน สทฺธิํ อทาสิฯ สา เตน ปุญฺญกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท กปิลวตฺถุสฺมิํ สกฺยราชกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺธา อุปาสิกา อโหสิฯ สา อปรภาเค มหาปชาปติโคตมิยา สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา กตปุพฺพกิจฺจา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี น จิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี 2.1.46-59) –

‘‘นคเร พนฺธุมติยา, พนฺธุมา นาม ขตฺติโย;

ตสฺส รญฺโญ อหุํ ภริยา, เอกชฺฌํ จารยามหํฯ

‘‘รโหคตา นิสีทิตฺวา, เอวํ จินฺเตสหํ ตทา;

อาทาย คมนียญฺหิ, กุสลํ นตฺถิ เม กตํฯ

‘‘มหาภิตาปํ กฏุกํ, โฆรรูปํ สุทารุณํ;

นิรยํ นูน คจฺฉามิ, เอตฺถ เม นตฺถิ สํสโยฯ

‘‘ราชานํ อุปสงฺกมฺม, อิทํ วจนมพฺรวิํ;

เอกํ เม สมณํ เทหิ, โภชยิสฺสามิ ขตฺติยฯ

‘‘อทาสิ เม มหาราชา, สมณํ ภาวิตินฺทฺริยํ;

ตสฺส ปตฺตํ คเหตฺวาน, ปรมนฺเนน ปูรยิํฯ

‘‘ปูรยิตฺวา ปรมนฺนํ, คนฺธาเลปํ อกาสหํ;

ชาเลน ปิทหิตฺวาน, วตฺถยุเคน ฉาทยิํฯ

‘‘อารมฺมณํ มมํ เอตํ, สรามิ ยาวชีวิตํ;

ตตฺถ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, ตาวติํสมคจฺฉหํฯ

‘‘ติํสานํ เทวราชูนํ, มเหสิตฺตมการยิํ;

มนสา ปตฺถิตํ มยฺหํ, นิพฺพตฺตติ ยถิจฺฉิตํฯ

‘‘วีสานํ จกฺกวตฺตีนํ, มเหสิตฺตมการยิํ;

โอจิตตฺตาว หุตฺวาน, สํสรามิ ภเวสฺวหํฯ

‘‘สพฺพพนฺธนมุตฺตาหํ , อเปตา เม อุปาทิกา;

สพฺพาสวปริกฺขีณา, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโวฯ

‘‘เอกนวุติโต กปฺเป, ยํ ทานมททิํ ตทา;

ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, ปิณฺฑปาตสฺสิทํ ผลํฯ

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ (อป. เถรี 2.1.46-59);

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺติํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปีติโสมนสฺสชาตา อุทานวเสน –

[31]

‘‘จาตุทฺทสิํ ปญฺจทสิํ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺฐมี;

ปาฏิหาริยปกฺขญฺจ, อฏฺฐงฺคสุสมาคตํฯ

[32]

‘‘อุโปสถํ อุปาคจฺฉิํ, เทวกายาภินนฺทินี;

สาชฺช เอเกน ภตฺเตน, มุณฺฑา สงฺฆาฏิปารุตา;

เทวกายํ น ปตฺเถหํ, วิเนยฺย หทเย ทร’’นฺติฯ – อิมา ทฺเว คาถา อภาสิ;

ตตฺถ จาตุทฺทสิํ ปญฺจทสินฺติ จตุทฺทสนฺนํ ปูรณี จาตุทฺทสี, ปญฺจทสนฺนํ ปูรณี ปญฺจทสี, ตํ จาตุทฺทสิํ ปญฺจทสิญฺจ, ปกฺขสฺสาติ สมฺพนฺโธฯ อจฺจนฺตสํโยเค เจตํ อุปโยควจนํฯ ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺฐมี, ตญฺจาติ โยชนาฯ ปาฏิหาริยปกฺขญฺจาติ ปริหรณกปกฺขญฺจ จาตุทฺทสีปญฺจทสีอฏฺฐมีนํ ยถากฺกมํ อาทิโต อนฺตโต วา ปเวสนิคฺคมวเสน อุโปสถสีลสฺส ปริหริตพฺพปกฺขญฺจ เตรสีปาฏิปทสตฺตมีนวมีสุ จาติ อตฺโถฯ อฏฺฐงฺคสุสมาคตนฺติ ปาณาติปาตา เวรมณิอาทีหิ อฏฺฐหิ องฺเคหิ สุฏฺฐุ สมนฺนาคตํฯ อุโปสถํ อุปาคจฺฉินฺติ อุปวาสํ อุปคมิํ, อุปวสินฺติ อตฺโถฯ ยํ สนฺธาย วุตฺตํ –

‘‘ปาณํ น หเน น จาทินฺนมาทิเย, มุสา น ภาเส น จ มชฺชโป สิยา;

อพฺรหฺมจริยา วิรเมยฺย เมถุนา, รตฺติํ น ภุญฺเชยฺย วิกาลโภชนํฯ

‘‘มาลํ น ธาเร น จ คนฺธมาจเร, มญฺเจ ฉมายํ ว สเยถ สนฺถเต;

เอตญฺหิ อฏฺฐงฺคิกมาหุโปสถํ, พุทฺเธน ทุกฺขนฺตคุนา ปกาสิต’’นฺติฯ (สุ. นิ. 402-403);

เทวกายาภินนฺทินีติ ตตฺรูปปตฺติอากงฺขาวเสน จาตุมหาราชิกาทิํ เทวกายํ อภิปตฺเถนฺตี อุโปสถํ อุปาคจฺฉินฺติ โยชนาฯ

สาชฺช เอเกน ภตฺเตนาติ สา อหํ อชฺช อิมสฺมิํเยว ทิวเส เอเกน ภตฺตโภชนกฺขเณนฯ มุณฺฑา สงฺฆาฏิปารุตาติ มุณฺฑิตเกสา สงฺฆาฏิปารุตสรีรา จ หุตฺวา ปพฺพชิตาติ อตฺโถฯ เทวกายํ น ปตฺเถหนฺติ อคฺคมคฺคสฺส อธิคตตฺตา กญฺจิ เทวนิกายํ อหํ น ปตฺถเยฯ เตเนวาห – ‘‘วิเนยฺย หทเย ทร’’นฺติ, จิตฺตคตํ กิเลสทรถํ สมุจฺเฉทวเสน วิเนตฺวาติ อตฺโถฯ อิทเมว จสฺสา อญฺญาพฺยากรณํ อโหสิฯ

มิตฺตาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

8. อภยมาตุเถรีคาถาวณฺณนา

อุทฺธํ ปาทตลาติอาทิกา อภยมาตาย เถริยา คาถาฯ อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุญฺญานิ อุปจินนฺตี ติสฺสสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปตฺวา เอกทิวสํ สตฺถารํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานสา ปตฺตํ คเหตฺวา กฏจฺฉุมตฺตํ ภิกฺขํ อทาสิฯ สา เตน ปุญฺญกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท ตาทิเสน กมฺมนิสฺสนฺเทน อุชฺเชนิยํ ปทุมวตี นาม นครโสภิณี อโหสิฯ ราชา พิมฺพิสาโร ตสฺสา รูปสมฺปตฺติอาทิเก คุเณ สุตฺวา ปุโรหิตสฺส อาจิกฺขิ – ‘‘อุชฺเชนิยํ กิร ปทุมวตี นาม คณิกา อโหสิ, ตมหํ ทฏฺฐุกาโมมฺหี’’ติฯ ปุโรหิโต ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ มนฺตพเลน กุมฺภีรํ นาม ยกฺขํ อาวเหตฺวา ยกฺขานุภาเวน ราชานํ ตาวเทว อุชฺเชนีนครํ เนสิฯ ราชา ตาย สทฺธิํ เอกรตฺติํ สํวาสํ กปฺเปสิฯ สา เตน คพฺภํ คณฺหิฯ รญฺโญ จ อาโรเจสิ – ‘‘มม กุจฺฉิยํ คพฺโภ ปติฏฺฐหี’’ติฯ ตํ สุตฺวา ราชา นํ ‘‘สเจ ปุตฺโต ภเวยฺย, วฑฺเฒตฺวา มมํ ทสฺเสหี’’ติ วตฺวา นามมุทฺทิกํ ทตฺวา อคมาสิฯ สา ทสมาสจฺจเยน ปุตฺตํ วิชายิตฺวา นามคฺคหณทิวเส อภโยติ นามํ อกาสิฯ ปุตฺตญฺจ สตฺตวสฺสิกกาเล ‘‘ตว ปิตา พิมฺพิสารมหาราชา’’ติ รญฺโญ สนฺติกํ ปหิณิฯ ราชา ตํ ปุตฺตํ ปสฺสิตฺวา ปุตฺตสิเนหํ ปฏิลภิตฺวา กุมารกปริหาเรน วฑฺเฒสิฯ ตสฺส สทฺธาปฏิลาโภ ปพฺพชฺชา วิเสสาธิคโม จ เหฏฺฐา อาคโตเยวฯ ตสฺส มาตา อปรภาเค ปุตฺตสฺส อภยตฺเถรสฺส สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺธา ภิกฺขุนีสุ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี นจิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี 2.1.60-70) –

‘‘ปิณฺฑจารํ จรนฺตสฺส, ติสฺสนามสฺส สตฺถุโน;

กฏจฺฉุภิกฺขํ ปคฺคยฺห, พุทฺธเสฏฺฐสฺสทาสหํฯ

‘‘ปฏิคฺคเหตฺวา สมฺพุทฺโธ, ติสฺโส โลกคฺคนายโก;

วีถิยา สณฺฐิโต สตฺถา, อกา เม อนุโมทนํฯ

‘‘กฏจฺฉุภิกฺขํ ทตฺวาน, ตาวติํสํ คมิสฺสสิ;

ฉตฺติํสเทวราชูนํ, มเหสิตฺตํ กริสฺสสิฯ

‘‘ปญฺญาสํ จกฺกวตฺตีนํ, มเหสิตฺตํ กริสฺสสิ;

มนสา ปตฺถิตํ สพฺพํ, ปฏิลจฺฉสิ สพฺพทาฯ

‘‘สมฺปตฺติํ อนุโภตฺวาน, ปพฺพชิสฺสสิ กิญฺจนา;

สพฺพาสเว ปริญฺญาย, นิพฺพายิสฺสสินาสวาฯ

‘‘อิทํ วตฺวาน สมฺพุทฺโธ, ติสฺโส โลกคฺคนายโก;

นภํ อพฺภุคฺคมี วีโร, หํสราชาว อมฺพเรฯ

‘‘สุทินฺนํ เม ทานวรํ, สุยิฏฺฐา ยาคสมฺปทา;

กฏจฺฉุภิกฺขํ ทตฺวาน, ปตฺตาหํ อจลํ ปทํฯ

‘‘ทฺเวนวุเต อิโต กปฺเป, ยํ ทานมททิํ ตทา;

ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, ภิกฺขาทานสฺสิทํ ผลํฯ

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปุตฺเตน อภยตฺเถเรน ธมฺมํ กเถนฺเตน โอวาทวเสน ยา คาถา ภาสิตา, อุทานวเสน สยมฺปิ ตา เอว ปจฺจุทาหรนฺตี –

[33]

‘‘อุทฺธํ ปาทตลา อมฺม, อโธ เว เกสมตฺถกา;

ปจฺจเวกฺขสฺสุมํ กายํ, อสุจิํ ปูติคนฺธิกํฯ

[34]

‘‘เอวํ วิหรมานาย, สพฺโพ ราโค สมูหโต;

ปริฬาโห สมุจฺฉินฺโน, สีติภูตามฺหิ นิพฺพุตา’’ติฯ – อาห;