เมนู

12. โสฬสนิปาโต

1. ปุณฺณาเถรีคาถาวณฺณนา

โสฬสนิปาเต อุทหารี อหํ สีเตติอาทิกา ปุณฺณาย เถริยา คาถาฯ อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปตฺวา เหตุสมฺปนฺนตาย สญฺชาตสํเวคา ภิกฺขุนีนํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา ลทฺธปฺปสาทา ปพฺพชิตฺวา ปริสุทฺธสีลา ตีณิ ปิฏกานิ อุคฺคเหตฺวา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมกถิกา จ อโหสิฯ ยถา จ วิปสฺสิสฺส ภควโต สาสเน, เอวํ สิขิสฺส เวสฺสภุสฺส กกุสนฺธสฺส โกณาคมนสฺส กสฺสปสฺส จ ภควโต สาสเน ปพฺพชิตฺวา สีลสมฺปนฺนา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมกถิกา จ อโหสิฯ มานธาตุกตฺตา ปน กิเลเส สมุจฺฉินฺทิตุํ นาสกฺขิฯ มาโนปนิสฺสยวเสน กมฺมสฺส กตตฺตา อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท อนาถปิณฺฑิกสฺส เสฏฺฐิโน ฆรทาสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, ปุณฺณาติสฺสา นามํ อโหสิฯ สา สีหนาทสุตฺตนฺตเทสนาย (ม. นิ. 1.146 อาทโย) โสตาปนฺนา หุตฺวา ปจฺฉา อุทกสุทฺธิกํ พฺราหฺมณํ ทเมตฺวา เสฏฺฐินา สมฺภาวิตา หุตฺวา เตน ภุชิสฺสภาวํ ปาปิตา ตํ ปพฺพชฺชํ อนุชานาเปตฺวา ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี น จิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี 2.4.184-203) –

‘‘วิปสฺสิโน ภควโต, สิขิโน เวสฺสภุสฺส จ;

กกุสนฺธสฺส มุนิโน, โกณาคมนตาทิโนฯ

‘‘กสฺสปสฺส จ พุทฺธสฺส, ปพฺพชิตฺวาน สาสเน;

ภิกฺขุนี สีลสมฺปนฺนา, นิปกา สํวุตินฺทฺริยาฯ

‘‘พหุสฺสุตา ธมฺมธรา, ธมฺมตฺถปฏิปุจฺฉิกา;

อุคฺคเหตา จ ธมฺมานํ, โสตา ปยิรุปาสิตาฯ

‘‘เทเสนฺตี ชนมชฺเฌหํ, อโหสิํ ชินสาสเน;

พาหุสจฺเจน เตนาหํ, เปสลา อภิมญฺญิสํฯ

‘‘ปจฺฉิเม จ ภเว ทานิ, สาวตฺถิยํ ปุรุตฺตเม;

อนาถปิณฺฑิโน เคเห, ชาตาหํ กุมฺภทาสิยาฯ

‘‘คตา อุทกหาริยํ, โสตฺถิยํ ทิชมทฺทสํ;

สีตฏฺฏํ โตยมชฺฌมฺหิ, ตํ ทิสฺวา อิทมพฺรวิํฯ

‘‘อุทหารี อหํ สีเต, สทา อุทกโมตริํ;

อยฺยานํ ทณฺฑภยภีตา, วาจาโทสภยฏฺฏิตาฯ

‘‘กสฺส พฺราหฺมณ ตฺวํ ภีโต, สทา อุทกโมตริ;

เวธมาเนหิ คตฺเตหิ, สีตํ เวทยเส ภุสํฯ

‘‘ชานนฺตี วต มํ โภติ, ปุณฺณิเก ปริปุจฺฉสิ;

กโรนฺตํ กุสลํ กมฺมํ, รุนฺธนฺตํ กตปาปกํฯ

‘‘โย จ วุฑฺโฒ ทหโร วา, ปาปกมฺมํ ปกุพฺพติ;

ทกาภิเสจนา โสปิ, ปาปกมฺมา ปมุจฺจติฯ

‘‘อุตฺตรนฺตสฺส อกฺขาสิํ, ธมฺมตฺถสํหิตํ ปทํ;

ตญฺจ สุตฺวา ส สํวิคฺโค, ปพฺพชิตฺวารหา อหุฯ

‘‘ปูเรนฺตี อูนกสตํ, ชาตา ทาสิกุเล ยโต;

ตโต ปุณฺณาติ นามํ เม, ภุชิสฺสํ มํ อกํสุ เตฯ

‘‘เสฏฺฐิํ ตโตนุชาเนตฺวา, ปพฺพชิํ อนคาริยํ;

น จิเรเนว กาเลน, อรหตฺตมปาปุณิํฯ

‘‘อิทฺธีสุ จ วสี โหมิ, ทิพฺพาย โสตธาตุยา;

เจโตปริยญาณสฺส, วสี โหมิ มหามุเนฯ

‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;

สพฺพาสวปริกฺขีณา, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโวฯ

‘‘อตฺถธมฺมนิรุตฺตีสุ, ปฏิภาเน ตเถว จ;

ญาณํ เม วิมลํ สุทฺธํ, พุทฺธเสฏฺฐสฺส วาหสาฯ

‘‘ภาวนาย มหาปญฺญา, สุเตเนว สุตาวินี;

มาเนน นีจกุลชา, น หิ กมฺมํ วินสฺสติฯ

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺติํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –

[236]

‘‘อุทหารี อหํ สีเต, สทา อุทกโมตริํ;

อยฺยานํ ทณฺฑภยภีตา, วาจาโทสภยฏฺฏิตาฯ

[237]

‘‘กสฺส พฺราหฺมณ ตฺวํ ภีโต, สทา อุทกโมตริ;

เวธมาเนหิ คตฺเตหิ, สีตํ เวทยเส ภุสํฯ

[238]

‘‘ชานนฺตี วต มํ โภติ, ปุณฺณิเก ปริปุจฺฉสิ;

กโรนฺตํ กุสลํ กมฺมํ, รุนฺธนฺตํ กตปาปกํฯ

[239]

‘‘โย จ วุฑฺโฒ ทหโร วา, ปาปกมฺมํ ปกุพฺพติ;

ทกาภิเสจนา โสปิ, ปาปกมฺมา ปมุจฺจติฯ

[240]

‘‘โก นุ เต อิทมกฺขาสิ, อชานนฺตสฺส อชานโก;

‘ทกาภิเสจนา นาม, ปาปกมฺมา ปมุจฺจติ’ฯ

[241]

‘‘สคฺคํ นูน คมิสฺสนฺติ, สพฺเพ มณฺฑูกกจฺฉปา;

นาคา จ สุสุมารา จ, เย จญฺเญ อุทเก จราฯ

[242]

‘‘โอรพฺภิกา สูกริกา, มจฺฉิกา มิคพนฺธกา;

โจรา จ วชฺฌฆาตา จ, เย จญฺเญ ปาปกมฺมิโน;

ทกาภิเสจนา เตปิ, ปาปกมฺมา ปมุจฺจเรฯ

[243]

‘‘สเจ อิมา นทิโย เต, ปาปํ ปุพฺเพ กตํ วหุํ;

ปุญฺญมฺปิ มา วเหยฺยุํ เต, เตน ตฺวํ ปริพาหิโรฯ

[244]

‘‘ยสฺส พฺราหฺมณ ตฺวํ ภีโต, สทา อุทกโมตริ;

ตเมว พฺรหฺเม มากาสิ, มา เต สีตํ ฉวิํ หเนฯ

[245]

‘‘กุมฺมคฺคปฏิปนฺนํ มํ, อริยมคฺคํ สมานยิ;

ทกาภิเสจนา โภติ, อิมํ สาฏํ ททามิ เตฯ

[246]

‘‘ตุยฺเหว สาฏโก โหตุ, นาหมิจฺฉามิ สาฏกํ;

สเจ ภายสิ ทุกฺขสฺส, สเจ เต ทุกฺขมปฺปิยํฯ

[247]

‘‘มากาสิ ปาปกํ กมฺมํ, อาวิ วา ยทิ วา รโห;

สเจ จ ปาปกํ กมฺมํ, กริสฺสสิ กโรสิ วาฯ

[248]

‘‘น เต ทุกฺขา ปมุตฺยตฺถิ, อุเปจฺจาปิ ปลายโต;

สเจ ภายสิ ทุกฺขสฺส, สเจ เต ทุกฺขมปฺปิยํฯ

[249]

‘‘อุเปหิ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมํ สงฺฆญฺจ ตาทินํ;

สมาทิยาหิ สีลานิ, ตํ เต อตฺถาย เหหิติฯ

[250]

‘‘อุเปมิ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมํ สงฺฆญฺจ ตาทินํ;

สมาทิยามิ สีลานิ, ตํ เม อตฺถาย เหหิติฯ

[251]

‘‘พฺรหฺมพนฺธุ ปุเร อาสิํ, อชฺชมฺหิ สจฺจพฺราหฺมโณ;

เตวิชฺโช เวทสมฺปนฺโน, โสตฺติโย จมฺหิ นฺหาตโก’’ติฯ –

อิมา คาถา อภาสิฯ

ตตฺถ อุทหารีติ ฆเฏน อุทกํ วาหิกาฯ สีเต ตทา อุทกโมตรินฺติ สีตกาเลปิ สพฺพทา รตฺตินฺทิวํ อุทกํ โอตริํฯ ยทา ยทา อยฺยกานํ อุทเกน อตฺโถ, ตทา ตทา อุทกํ ปาวิสิํ, อุทกโมตริตฺวา อุทกํ อุปเนสินฺติ อธิปฺปาโยฯ อยฺยานํ ทณฺฑภยภีตาติ อยฺยกานํ ทณฺฑภเยน ภีตาฯ วาจาโทสภยฏฺฏิตาติ วจีทณฺฑภเยน เจว โทสภเยน จ อฏฺฏิตา ปีฬิตา, สีเตปิ อุทกโมตรินฺติ โยชนาฯ

อเถกทิวสํ ปุณฺณา ทาสี ฆเฏน อุทกํ อาเนตุํ อุทกติตฺถํ คตาฯ ตตฺถ อทฺทส อญฺญตรํ พฺราหฺมณํ อุทกสุทฺธิกํ หิมปาตสมเย มหติ สีเต วตฺตมาเน ปาโตว อุทกํ โอตริตฺวา สสีสํ นิมุชฺชิตฺวา มนฺเต ชปฺปิตฺวา อุทกโต อุฏฺฐหิตฺวา อลฺลวตฺถํ อลฺลเกสํ ปเวธนฺตํ ทนฺตวีณํ วาทยมานํฯ ตํ ทิสฺวา กรุณาย สญฺโจทิตมานสา ตโต นํ ทิฏฺฐิคตา วิเวเจตุกามา ‘‘กสฺส, พฺราหฺมณ, ตฺวํ ภีโต’’ติ คาถมาหฯ

ตตฺถ กสฺส, พฺราหฺมณ, ตฺวํ กุโต จ นาม ภยเหตุโต ภีโต หุตฺวา สทา อุทกโมตริ สพฺพกาลํ สายํ ปาตํ อุทกํ โอตริฯ โอตริตฺวา จ เวธมาเนหิ กมฺปมาเนหิ คตฺเตหิ สรีราวยเวหิ สีตํ เวทยเส ภุสํ สีตทุกฺขํ อติวิย ทุสฺสหํ ปฏิสํเวทยสิ ปจฺจนุภวสิฯ

ชานนฺตี วต มํ โภตีติ, โภติ ปุณฺณิเก, ตฺวํ ตํ อุปจิตํ ปาปกมฺมํ รุนฺธนฺตํ นิวารณสมตฺถํ กุสลํ กมฺมํ อิมินา อุทโกโรหเนน กโรนฺตํ มํ ชานนฺตี วต ปริปุจฺฉสิฯ

นนุ อยมตฺโถ โลเก ปากโฏ เอวฯ กถาปิ มยํ ตุยฺหํ วทามาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โย จ วุฑฺโฒ’’ติ คาถมาหฯ ตสฺสตฺโถ – วุฑฺโฒ วา ทหโร วา มชฺฌิโม วา โย โกจิ หิํสาทิเภทํ ปาปกมฺมํ ปกุพฺพติ อติวิย กโรติ, โสปิ ภุสํ ปาปกมฺมนิรโต ทกาภิเสจนา สินาเนน ตโต ปาปกมฺมา ปมุจฺจติ อจฺจนฺตเมว วิมุจฺจตีติฯ

ตํ สุตฺวา ปุณฺณิกา ตสฺส ปฏิวจนํ เทนฺตี ‘‘โก นุ เต’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ โก นุ เต อิทมกฺขาสิ, อชานนฺตสฺส อชานโกติ กมฺมวิปากํ อชานนฺตสฺส เต สพฺเพน สพฺพํ กมฺมวิปากํ อชานโต อชานโก อวิทฺทสุ พาโล อุทกาภิเสจนเหตุ ปาปกมฺมโต ปมุจฺจตีติ, อิทํ อตฺถชาตํ โก นุ นาม อกฺขาสิ, น โส สทฺเธยฺยวจโน, นาปิ เจตํ ยุตฺตนฺติ อธิปฺปาโยฯ

อิทานิสฺส ตเมว ยุตฺติอภาวํ วิภาเวนฺตี ‘‘สคฺคํ นูน คมิสฺสนฺตี’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ นาคาติ วิชฺฌสาฯ สุสุมาราติ กุมฺภีลาฯ เย จญฺเญ อุทเก จราติ เย จญฺเญปิ วาริโคจรา มจฺฉมกรนนฺทิยาวตฺตาทโย จ, เตปิ สคฺคํ นูน คมิสฺสนฺติ เทวโลกํ อุปปชฺชิสฺสนฺติ มญฺเญ, อุทกาภิเสจนา ปาปกมฺมโต มุตฺติ โหติ เจติ อตฺโถฯ

โอรพฺภิกาติ อุรพฺภฆาตกาฯ สูกริกาติ สูกรฆาตกาฯ มจฺฉิกาติ เกวฏฺฏาฯ มิคพนฺธกาติ มาควิกาฯ วชฺฌฆาตาติ วชฺฌฆาตกมฺเม นิยุตฺตาฯ

ปุญฺญมฺปิ มา วเหยฺยุนฺติ อิมา อจิรวติอาทโย นทิโย ยถา ตยา ปุพฺเพ กตํ ปาปํ ตตฺถ อุทกาภิเสจเนน สเจ วหุํ นีหเรยฺยุํ, ตถา ตยา กตํ ปุญฺญมฺปิ อิมา นทิโย วเหยฺยุํ ปวาเหยฺยุํฯ

เตน ตฺวํ ปริพาหิโร อสฺส ตถา สติ เตน ปุญฺญกมฺเมน ตฺวํ ปริพาหิโร วิรหิโตว ภเวยฺยาติ น เจตํ ยุตฺตนฺติ อธิปฺปาโยฯ ยถา วา อุทเกน อุทโกโรหกสฺส ปุญฺญปวาหนํ น โหติ, เอวํ ปาปปวาหนมฺปิ น โหติ เอวฯ กสฺมา? นฺหานสฺส ปาปเหตูนํ อปฺปฏิปกฺขภาวโตฯ โย ยํ วินาเสติ, โส ตสฺส ปฏิปกฺโขฯ ยถา อาโลโก อนฺธการสฺส, วิชฺชา จ อวิชฺชาย, น เอวํ นฺหานํ ปาปสฺสฯ ตสฺมา นิฏฺฐเมตฺถ คนฺตพฺพํ ‘‘น อุทกาภิเสจนา ปาปโต ปริมุตฺตี’’ติฯ เตนาห ภควา –

‘‘น อุทเกน สุจี โหติ, พหฺเวตฺถ นฺหายตี ชโน;

ยมฺหิ สจฺจญฺจ ธมฺโม จ, โส สุจี โส จ พฺราหฺมโณ’’ติฯ (อุทา. 9; เนตฺติ. 104);

อิทานิ ยทิ ปาปํ ปวาเหตุกาโมสิ, สพฺเพน สพฺพํ ปาปํ มา กโรหีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺส, พฺราหฺมณา’’ติ คาถมาหฯ ตตฺถ ตเมว พฺรหฺเม มากาสีติ ยโต ปาปโต ตฺวํ ภีโต, ตเมว ปาปํ พฺรหฺเม, พฺราหฺมณ, ตฺวํ มา อกาสิฯ อุทโกโรหนํ ปน อีทิเส สีตกาเล เกวลํ สรีรเมว พาธติ ฯ เตนาห – ‘‘มา เต สีตํ ฉวิํ หเน’’ติ, อีทิเส สีตกาเล อุทกาภิเสจเนน ชาตสีตํ ตว สรีรจฺฉวิํ มา หเนยฺย มา พาเธสีติ อตฺโถฯ

กุมฺมคฺคปฏิปนฺนํ มนฺติ ‘‘อุทกาภิเสจเนน สุทฺธิ โหตี’’ติ อิมํ กุมฺมคฺคํ มิจฺฉาคาหํ ปฏิปนฺนํ ปคฺคยฺห ฐิตํ มํฯ อริยมคฺคํ สมานยีติ ‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณํ, กุสลสฺส อุปสมฺปทา’’ติ (ที. นิ. 2.90; ธ. ป. 183; เนตฺติ. 30, 116, 124; เปฏโก. 29) อิมํ พุทฺธาทีหิ อริเยหิ คตมคฺคํ สมานยิ, สมฺมเทว อุปเนสิ, ตสฺมา โภติ อิมํ สาฏกํ ตุฏฺฐิทานํ อาจริยภาคํ ตุยฺหํ ททามิ, ตํ ปฏิคฺคณฺหาติ อตฺโถฯ

สา ตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ธมฺมํ กเถตฺวา สรเณสุ สีเลสุ จ ปติฏฺฐาเปตุํ ‘‘ตุยฺเหว สาฏโก โหตุ, นาหมิจฺฉามิ สาฏก’’นฺติ วตฺวา ‘‘สเจ ภายสิ ทุกฺขสฺสา’’ติอาทิมาหฯ ตสฺสตฺโถ – ยทิ ตุวํ สกลาปายิเก สุคติยญฺจ อผาสุกตาโทภคฺคตาทิเภทา ทุกฺขา ภายสิฯ ยทิ เต ตํ อปฺปิยํ น อิฏฺฐํฯ

อาวิ วา ปเรสํ ปากฏภาเวน อปฺปฏิจฺฉนฺนํ กตฺวา กาเยน วาจาย ปาณาติปาตาทิวเสน วา ยทิ วา รโห อปากฏภาเวน ปฏิจฺฉนฺนํ กตฺวา มโนทฺวาเรเยว อภิชฺฌาทิวเสน วา อณุมตฺตมฺปิ ปาปกํ ลามกํ กมฺมํ มากาสิ มา กริฯ อถ ปน ตํ ปาปกมฺมํ อายติํ กริสฺสสิ, เอตรหิ กโรสิ วา, ‘‘นิรยาทีสุ จตูสุ อปาเยสุ มนุสฺเสสุ จ ตสฺส ผลภูตํ ทุกฺขํ อิโต เอตฺโต วา ปลายนฺเต มยิ นานุพนฺธิสฺสตี’’ติ อธิปฺปาเยน อุเปจฺจ สญฺจิจฺจ ปลายโตปิ เต ตโต ปาปโต มุตฺติ โมกฺขา นตฺถิ, คติกาลาทิปจฺจยนฺตรสมวาเย สติ วิปจฺจเต เอวาติ อตฺโถฯ ‘‘อุปฺปจฺจา’’ติ วา ปาโฐ, อุปฺปติตฺวาติ อตฺโถฯ เอวํ ปาปสฺส อกรเณน ทุกฺขาภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปุญฺญสฺส กรเณนปิ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สเจ ภายสี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ ตาทินนฺติ ทิฏฺฐาทีสุ ตาทิภาวปฺปตฺตํฯ ยถา วา ปุริมกา สมฺมาสมฺพุทฺธา ปสฺสิตพฺพา, ตถา ปสฺสิตพฺพโต ตาทิ, ตํ พุทฺธํ สรณํ อุเปหีติ โยชนาฯ ธมฺมสงฺเฆสุปิ เอเสว นโยฯ ตาทีนํ วรพุทฺธานํ ธมฺมํ, อฏฺฐนฺนํ อริยปุคฺคลานํ สงฺฆํ สมูหนฺติ โยชนาฯ นฺติ สรณคมนํ สีลานํ สมาทานญฺจฯ เหหิตีติ ภวิสฺสติฯ

โส พฺราหฺมโณ สรเณสุ สีเลสุ จ ปติฏฺฐาย อปรภาเค สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา ฆเฏนฺโต วายมนฺโต น จิรสฺเสว เตวิชฺโช หุตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺติํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทาเนนฺโต ‘‘พฺรหฺมพนฺธู’’ติ คาถมาหฯ

ตสฺสตฺโถ – อหํ ปุพฺเพ พฺราหฺมณกุเล อุปฺปตฺติมตฺเตน พฺรหฺมพนฺธุ นามาสิํฯ ตถา อิรุพฺเพทาทีนํ อชฺเฌนาทิมตฺเตน เตวิชฺโช เวทสมฺปนฺโน โสตฺติโย นฺหาตโก จ นามาสิํฯ อิทานิ สพฺพโส พาหิตปาปตาย สจฺจพฺราหฺมโณ ปรมตฺถพฺราหฺมโณ, วิชฺชตฺตยาธิคเมน เตวิชฺโช, มคฺคญาณสงฺขาเตน เวเทน สมนฺนาคตตฺตา เวทสมฺปนฺโน, นิตฺถรสพฺพปาปตาย นฺหาตโก จ อมฺหีติฯ เอตฺถ จ พฺราหฺมเณน วุตฺตคาถาปิ อตฺตนา วุตฺตคาถาปิ ปจฺฉา เถริยา ปจฺเจกํ ภาสิตาติ สพฺพา เถริยา คาถา เอว ชาตาติฯ

ปุณฺณาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

โสฬสนิปาตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

13. วีสตินิปาโต

1. อมฺพปาลีเถรีคาถาวณฺณนา

วีสตินิปาเต กาฬกา ภมรวณฺณสาทิสาติอาทิกา อมฺพปาลิยา เถริยา คาถาฯ อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี สิขิสฺส ภควโต สาสเน ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปนฺนา หุตฺวา ภิกฺขุนิสิกฺขาปทํ สมาทาย วิหรนฺตี, เอกทิวสํ สมฺพหุลาหิ ภิกฺขุนีหิ สทฺธิํ เจติยํ วนฺทิตฺวา ปทกฺขิณํ กโรนฺตี ปุเรตรํ คจฺฉนฺติยา ขีณาสวตฺเถริยา ขิปนฺติยา สหสา เขฬปิณฺฑํ เจติยงฺคเณ ปติตํ, ขีณาสวตฺเถริยา อปสฺสิตฺวา คตาย อยํ ปจฺฉโต คจฺฉนฺตี ตํ เขฬปิณฺฑํ ทิสฺวา ‘‘กา นาม คณิกา อิมสฺมิํ ฐาเน เขฬปิณฺฑํ ปาเตสี’’ติ อกฺโกสิฯ สา ภิกฺขุนิกาเล สีลํ รกฺขนฺตี คพฺภวาสํ ชิคุจฺฉิตฺวา โอปปาติกตฺตภาเว จิตฺตํ ฐเปสิฯ เตน จริมตฺตภาเว เวสาลิยํ ราชุยฺยาเน อมฺพรุกฺขมูเล โอปปาติกา หุตฺวา นิพฺพตฺติฯ ตํ ทิสฺวา อุยฺยานปาโล นครํ อุปเนสิฯ อมฺพรุกฺขมูเล นิพฺพตฺตตาย สา อมฺพปาลีตฺเวว โวหรียิตฺถฯ อถ นํ อภิรูปํ ทสฺสนียํ ปาสาทิกํ วิลาสกนฺตตาทิคุณวิเสสสมุทิตํ ทิสฺวา สมฺพหุลา ราชกุมารา อตฺตโน อตฺตโน ปริคฺคหํ กาตุกามา อญฺญมญฺญํ กลหํ อกํสุฯ เตสํ กลหวูปสมตฺถํ ตสฺสา กมฺมสญฺโจทิตา โวหาริกา ‘‘สพฺเพสํ โหตู’’ติ คณิกาฏฺฐาเน ฐเปสุํฯ สา สตฺถริ ปฏิลทฺธสทฺธา อตฺตโน อุยฺยาเน วิหารํ กตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิยฺยาเทตฺวา ปจฺฉา อตฺตโน ปุตฺตสฺส วิมลโกณฺฑญฺญตฺเถรสฺส สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี อตฺตโน สรีรสฺส ชราชิณฺณภาวํ นิสฺสาย สํเวคชาตา สงฺขารานํ อนิจฺจตํ วิภาเวนฺตี –

[252]

‘‘กาฬกา ภมรวณฺณสาทิสา, เวลฺลิตคฺคา มม มุทฺธชา อหุํ;

เต ชราย สาณวากสาทิสา, สจฺจวาทิวจนํ อนญฺญถาฯ

[253]