เมนู

3. สภิยตฺเถรคาถาวณฺณนา

ปเร จาติอาทิกา อายสฺมโต สภิยตฺเถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุญฺญานิ อุปจินนฺโต กกุสนฺธสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปตฺโต เอกทิวสํ สตฺถารํ ทิวาวิหาราย คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส อุปาหนํ อทาสิฯ โส เตน ปุญฺญกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต กสฺสเป ภควติ ปรินิพฺพุเต ปติฏฺฐิเต สุวณฺณเจติเย ฉหิ กุลปุตฺเตหิ สทฺธิํ อตฺตสตฺตโม สาสเน ปพฺพชิตฺวา กมฺมฏฺฐานํ คเหตฺวา อรญฺเญ วิหรนฺโต วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ อสกฺโกนฺโต อิตเร อาห – ‘‘มยํ ปิณฺฑปาตาย คจฺฉนฺโต ชีวิเต สาเปกฺขา โหม, ชีวิเต สาเปกฺเขน จ น สกฺกา โลกุตฺตรธมฺมํ อธิคนฺตุํ, ปุถุชฺชนกาลงฺกิริยา จ ทุกฺขาฯ หนฺท, มยํ นิสฺเสณิํ พนฺธิตฺวา ปพฺพตํ อภิรุยฺห กาเย จ ชีวิเต จ อนเปกฺขา สมณธมฺมํ กโรมา’’ติฯ เต ตถา อกํสุฯ

อถ เนสํ มหาเถโร อุปนิสฺสยสมฺปนฺนตฺตา ตทเหว ฉฬภิญฺโญ หุตฺวา อุตฺตรกุรุโต ปิณฺฑปาตํ อุปเนสิฯ อิตเร – ‘‘ตุมฺเห, ภนฺเต, กตกิจฺจา ตุมฺเหหิ สทฺธิํ สลฺลาปมตฺตมฺปิ ปปญฺโจ, สมณธมฺมเมว มยํ กริสฺสาม, ตุมฺเห อตฺตนา ทิฏฺฐธมฺมสุขวิหารมนุยุญฺชถา’’ติ วตฺวา ปิณฺฑปาตํ ปฏิกฺขิปิํสุฯ เถโร เน สมฺปฏิจฺฉาเปตุํ อสกฺโกนฺโต อคมาสิฯ

ตโต เนสํ เอโก ทฺวีหตีหจฺจเยน อภิญฺญาปริวารํ อนาคามิผลํ สจฺฉิกตฺวา ตเถว วตฺวา เตหิ ปฏิกฺขิตฺโต อคมาสิฯ เตสุ ขีณาสวตฺเถโร ปรินิพฺพายิ, อนาคามี สุทฺธาวาเสสุ อุปฺปชฺชิฯ อิตเร ปุถุชฺชนกาลงฺกิริยเมว กตฺวา ฉสุ กามสคฺเคสุ อนุโลมปฏิโลมโต ทิพฺพสมฺปตฺติํ อนุภวิตฺวา อมฺหากํ ภควโต กาเล เทวโลกา จวิตฺวา เอโก มลฺลราชกุเล ปฏิสนฺธิํ คณฺหิ, เอโก คนฺธารราชกุเล, เอโก พาหิรรฏฺเฐ, เอโก ราชคเห เอกิสฺสา กุลทาริกาย กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธิํ คณฺหิฯ อิตโร อญฺญตริสฺสา ปริพฺพาชิกาย กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธิํ อคฺคเหสิฯ สา กิร อญฺญตรสฺส ขตฺติยสฺส ธีตา, นํ มาตาปิตโร – ‘‘อมฺหากํ ธีตา สมยนฺตรํ ชานาตู’’ติ เอกสฺส ปริพฺพาชกสฺส นิยฺยาทยิํสุฯ อเถโก ปริพฺพาชโก ตาย สทฺธิํ วิปฺปฏิปชฺชิฯ สา เตน คพฺภํ คณฺหิฯ ตํ คพฺภินิํ ทิสฺวา ปริพฺพาชกา นิกฺกฑฺฒิํสุฯ

สา อญฺญตฺถ คจฺฉนฺตี อนฺตรามคฺเค สภายํ วิชายิฯ เตนสฺส สภิโยตฺเวว นามํ อกาสิฯ โส วฑฺฒิตฺวา ปริพฺพาชกปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา นานาสตฺถานิ อุคฺคเหตฺวา มหาวาที หุตฺวา วาทปฺปสุโต วิจรนฺโต อตฺตนา สทิสํ อทิสฺวา นครทฺวาเร อสฺสมํ กาเรตฺวา ขตฺติยกุมาราทโย สิปฺปํ สิกฺขาเปนฺโต วิหรนฺโต อตฺตโน มาตุยา อิตฺถิภาวํ ชิคุจฺฉิตฺวา ฌานํ อุปฺปาเทตฺวา พฺรหฺมโลเก อุปฺปนฺนาย อภิสงฺขริตฺวา ทินฺเน วีสติปญฺเห คเหตฺวา เต เต สมณพฺราหฺมเณ ปุจฺฉิฯ เต จสฺส เตสํ ปญฺหานํ อตฺถํ พฺยากาตุํ นาสกฺขิํสุฯ สภิยสุตฺตวณฺณนายํ (สุ. นิ. อฏฺฐ. 2. สภิยสุตฺตวณฺณนา) ปน ‘‘สุทฺธาวาสพฺรหฺมา เต ปญฺเห อภิสงฺขริตฺวา อทาสี’’ติ อาคตํฯ

ยทา ปน ภควา ปวตฺตวรธมฺมจกฺโก อนุปุพฺเพน ราชคหํ อาคนฺตฺวา เวฬุวเน วิหาสิ, ตทา สภิโย ตตฺถ คนฺตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา เต ปญฺเห ปุจฺฉิฯ สตฺถา ตสฺส เต ปญฺเห พฺยากาสีติ สพฺพํ สภิยสุตฺเต (สุ. นิ. สภิยสุตฺตํ) อาคตนเยน เวทิตพฺพํฯ สภิโย ปน ภควตา เตสุ ปญฺเหสุ พฺยากเตสุ ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺฐเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร 2.46.27-31) –

‘‘กกุสนฺธสฺส มุนิโน, พฺราหฺมณสฺส วุสีมโต;

ทิวาวิหารํ วชโต, อกฺกมนมทาสหํฯ

‘‘อิมสฺมิํเยว กปฺปมฺหิ, ยํ ทานมททิํ ตทา;

ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, อกฺกมนสฺสิทํ ผลํฯ

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

อรหา ปน หุตฺวา เทวทตฺเต สงฺฆเภทาย ปรกฺกมนฺเต เทวทตฺตปกฺขิกานํ ภิกฺขูนํ โอวาทํ เทนฺโต –

[275]

‘‘ปเร จ น วิชานนฺติ, มยเมตฺถ ยมามเส;

เย จ ตตฺถ วิชานนฺติ, ตโต สมฺมนฺติ เมธคาฯ

[276]

‘‘ยทา จ อวิชานนฺตา, อิริยนฺตฺยมรา วิย;

วิชานนฺติ จ เย ธมฺมํ, อาตุเรสุ อนาตุราฯ

[277]

‘‘ยํ กิญฺจิ สิถิลํ กมฺมํ, สํกิลิฏฺฐญฺจ ยํ วตํ;

สงฺกสฺสรํ พฺรหฺมจริยํ, น ตํ โหติ มหปฺผลํฯ

[278]

‘‘ยสฺส สพฺรหฺมจารีสุ, คารโว นูปลพฺภติ;

อารกา โหติ สทฺธมฺมา, นภํ ปุถวิยา ยถา’’ติฯ –

จตูหิ คาถาหิ ธมฺมํ เทเสสิฯ

ตตฺถ ปเรติ ปณฺฑิเต ฐเปตฺวา ตโต อญฺเญ – ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติ ‘‘ธมฺมํ อธมฺโม’’ติอาทิเภทกรวตฺถุทีปนวเสน วิวาทปฺปสุตา ปเร นามฯ เต ตตฺถ วิวาทํ กโรนฺตา ‘‘มยํ ยมามเส อุปรมาม นสฺสาม สตตํ สมิตํ มจฺจุสนฺติกํ คจฺฉามา’’ติ น ชานนฺติฯ เย จ ตตฺถ วิชานนฺตีติ เย ตตฺถ ปณฺฑิตา – ‘‘มยํ มจฺจุสมีปํ คจฺฉามา’’ติ วิชานนฺติฯ ตโต สมฺมนฺติ เมธคาติ เอวญฺหิ เต ชานนฺตา โยนิโสมนสิการํ อุปฺปาเทตฺวา เมธคานํ กลหานํ วูปสมาย ปฏิปชฺชนฺติฯ อถ เนสํ ตาย ปฏิปตฺติยา เต เมธคา สมฺมนฺติฯ อถ วา ปเร จาติ เย สตฺถุ โอวาทานุสาสนิยา อคฺคหเณน สาสนโต พาหิรตาย ปเร, เต ยาว ‘‘มยํ มิจฺฉาคาหํ คเหตฺวา เอตฺถ อิธ โลเก สาสนสฺส ปฏินิคฺคาเหน ยมามเส วายมามา’’ติ น วิชานนฺติ, ตาว วิวาทา น วูปสมฺมนฺติ, ยทา ปน ตสฺส คาหสฺส วิสฺสชฺชนวเสน เย จ ตตฺถ เตสุ วิวาทปฺปสุเตสุ อธมฺมธมฺมาทิเก อธมฺมธมฺมาทิโต ยถาภูตํ วิชานนฺติ, ตโต เตสํ สนฺติกา เต ปณฺฑิตปุริเส นิสฺสาย วิวาทสงฺขาตา เมธคา สมฺมนฺตีติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพฯ

ยทาติ ยสฺมิํ กาเลฯ อวิชานนฺตาติ วิวาทสฺส วูปสมูปายํ, ธมฺมาธมฺเม วา ยาถาวโต อชานนฺตาฯ อิริยนฺตฺยมรา วิยาติ อมรา วิย ชรามรณํ อติกฺกนฺตา วิย อุทฺธตา อุนฺนฬา จปลา มุขรา วิปฺปกิณฺณวาจา หุตฺวา วตฺตนฺติ จรนฺติ วิจรนฺติ ตทา วิวาโท น วูปสมฺมเตวฯ วิชานนฺติ จ เย ธมฺมํ, อาตุเรสุ อนาตุราติ เย ปน สตฺถุ สาสนธมฺมํ ยถาภูตํ ชานนฺติ, เต กิเลสโรเคน อาตุเรสุ สตฺเตสุ อนาตุรา นิกฺกิเลสา อนีฆา วิหรนฺติ, เตสํ วเสน วิวาโท อจฺจนฺตเมว วูปสมฺมตีติ อธิปฺปาโยฯ

ยํ กิญฺจิ สิถิลํ กมฺมนฺติ โอลิยิตฺวา กรเณน สิถิลคาหํ กตฺวา สาถลิภาเวน กตํ ยํ กิญฺจิ กุสลกมฺมํฯ สํกิลิฏฺฐนฺติ เวสีอาทิเก อโคจเร จรเณน, กุหนาทิมิจฺฉาชีเวน วา สํกิลิฏฺฐํ วตสมาทานํฯ สงฺกสฺสรนฺติ สงฺกาหิ สริตพฺพํ, วิหาเร กิญฺจิ อสารุปฺปํ สุตฺวา – ‘‘นูน อสุเกน กต’’นฺติ ปเรหิ อสงฺกิตพฺพํ, อุโปสถกิจฺจาทีสุ อญฺญตรกิจฺจวเสน สนฺนิปติตมฺปิ สงฺฆํ ทิสฺวา, ‘‘อทฺธา อิเม มม จริยํ ญตฺวา มํ อุกฺขิปิตุกามา สนฺนิปติตา’’ติ เอวํ อตฺตโน วา อาสงฺกาหิ สริตํ อุสงฺกิตํ ปริสงฺกิตํฯ น ตํ โหตีติ ตํ เอวรูปํ พฺรหฺมจริยํ สมณธมฺมกรณํ ตสฺส ปุคฺคลสฺส มหปฺผลํ น โหติฯ ตสฺส อมหปฺผลภาเวเนว ปจฺจยทายกานมฺปิสฺส น มหปฺผลํ โหติฯ ตสฺมา สลฺเลขวุตฺตินา ภวิตพฺพํฯ สลฺเลขวุตฺติโน จ วิวาทสฺส อวสโร เอว นตฺถีติ อธิปฺปาโยฯ

คารโว นูปลพฺภตีติ อนุสาสนิยา อปทกฺขิณคฺคาหิภาเวน ครุกาตพฺเพสุ สพฺรหฺมจารีสุ ยสฺส ปุคฺคลสฺส คารโว ครุกรณํ น วิชฺชติฯ อารกา โหติ สทฺธมฺมาติ โส เอวรูโป ปุคฺคโล ปฏิปตฺติสทฺธมฺมโตปิ ปฏิเวธสทฺธมฺมโตปิ ทูเร โหติ, น หิ ตํ ครู สิกฺขาเปนฺติ, อสิกฺขิยมาโน อนาทิยนฺโต น ปฏิปชฺชติ, อปฺปฏิปชฺชนฺโต กุโต สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌิสฺสตีติฯ เตนาห – ‘‘อารกา โหติ สทฺธมฺมา’’ติฯ ยถา กิํ? ‘‘นภํ ปุถวิยา ยถา’’ติ ยถา นภํ อากาสํ ปุถวิยา ปถวีธาตุยา สภาวโต ทูเรฯ น กทาจิ สมฺมิสฺสภาโวฯ เตเนวาห –

‘‘นภญฺจ ทูเร ปถวี จ ทูเร, ปารํ สมุทฺทสฺส ตทาหุ ทูเร;

ตโต หเว ทูรตรํ วทนฺติ, สตญฺจ ธมฺโม อสตญฺจ ราชา’’ติฯ(ชา. 2.21.414);

สภิยตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

4. นนฺทกตฺเถรคาถาวณฺณนา

ธิรตฺถูติอาทิกา อายสฺมโต นนฺทกตฺเถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร มหาวิภโว เสฏฺฐิ หุตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ ภิกฺขุโนวาทกานํ อคฺคฏฺฐาเน ฐเปนฺตํ ทิสฺวา ตํ ฐานนฺตรํ ปตฺเถตฺวา สตสหสฺสคฺฆนิเกน วตฺเถน ภควนฺตํ ปูเชตฺวา ปณิธานมกาสิ, สตฺถุ โพธิรุกฺเข ปทีปปูชญฺจ ปวตฺเตติฯ โส ตโต ปฏฺฐาย เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต กกุสนฺธสฺส ภควโต กาเล กรวิกสกุโณ หุตฺวา มธุรกูชิตํ กูชนฺโต สตฺถารํ ปทกฺขิณํ อกาสิฯ อปรภาเค มยูโร หุตฺวา อญฺญตรสฺส ปจฺเจกพุทฺธสฺส วสนคุหาย ทฺวาเร ปสนฺนมานโส ทิวเส ทิวเส ติกฺขตฺตุํ มธุรวสฺสิตํ วสฺสิ, เอวํ ตตฺถ ตตฺถ ปุญฺญานิ กตฺวา อมฺหากํ ภควโต กาเล สาวตฺถิยํ กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา นนฺทโกติ ลทฺธนาโม วยปฺปตฺโต สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร 2.46.22-26) –

‘‘ปทุมุตฺตรพุทฺธสฺส โพธิยา ปาทปุตฺตเม;

ปสนฺนจิตฺโต สุมโน, ตโย อุกฺเก อธารยิํฯ

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, โสหํ อุกฺกมธารยิํ;

ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, อุกฺกทานสฺสิทํ ผลํฯ

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

อรหา ปน หุตฺวา วิมุตฺติสุเขน วีตินาเมนฺโต สตฺถารา ภิกฺขุนีนํ โอวาเท อาณตฺโต เอกสฺมิํ อุโปสถทิวเส ปญฺจ ภิกฺขุนิสตานิ เอโกวาเทเนว อรหตฺตํ ปาเปสิฯ เตน นํ ภควา ภิกฺขุโนวาทกานํ อคฺคฏฺฐาเน ฐเปสิฯ อเถกทิวสํ เถรํ สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ อญฺญตรา ปุราณทุติยิกา อิตฺถี กิเลสวเสน โอโลเกตฺวา หสิฯ เถโร ตสฺสา ตํ กิริยํ ทิสฺวา สรีรสฺส ปฏิกฺกูลวิภาวนมุเขน ธมฺมํ กเถนฺโต –

[279]

‘‘ธิรตฺถุ ปูเร ทุคฺคนฺเธ, มารปกฺเข อวสฺสุเต;

นวโสตานิ เต กาเย, ยานิ สนฺทนฺติ สพฺพทาฯ

[280]