เมนู

11. เอกาทสนิปาโต

1. สํกิจฺจตฺเถรคาถาวณฺณนา

เอกาทสนิปาเต กิํ ตวตฺโถ วเน ตาตาติอาทิกา อายสฺมโต สํกิจฺจตฺเถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ พฺราหฺมณมหาสาลกุเล ปฏิสนฺธิํ คณฺหิฯ ตสฺมิํ กุจฺฉิคเตเยว มาตา พฺยาธิตา หุตฺวา กาลมกาสิฯ ตสฺสา สุสานํ เนตฺวา ฌาปิยมานาย คพฺภาสโย น ฌายิฯ มนุสฺสา สูเลหิ กุจฺฉิํ วิชฺฌนฺตา ทารกสฺส อกฺขิโกฏิํ ปหริํสุฯ เต ตํ วิชฺฌิตฺวา องฺคาเรหิ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปกฺกมิํสุฯ กุจฺฉิปเทโสปิ ฌายิ, องฺคารมตฺถเก ปน สุวณฺณพิมฺพสทิโส ทารโก ปทุมคพฺเภ นิปนฺโน วิย อโหสิฯ ปจฺฉิมภวิกสตฺตสฺส หิ สิเนรุนา โอตฺถริยมานสฺสปิ อรหตฺตํ อปฺปตฺวา ชีวิตกฺขโย นาม นตฺถิฯ

ปุนทิวเส อาฬาหนฏฺฐานํ คตา มนุสฺสา ตถานิปนฺนํ ทารกํ ทิสฺวา อจฺฉริยพฺภุตจิตฺตชาตา ทารกํ อาทาย คามํ ปวิสิตฺวา เนมิตฺตเก ปุจฺฉิํสุฯ เนมิตฺตกา ‘‘สเจ อยํ ทารโก อคารํ อชฺฌาวสิสฺสติ, ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา ทุคฺคตา ภวิสฺสนฺติฯ สเจ ปพฺพชิสฺสติ, ปญฺจหิ สมณสเตหิ ปริวุโต วิจริสฺสตี’’ติ อาหํสุฯ ญาตกา ‘‘โหตุ, วฑฺฒิตกาเล อมฺหากํ อยฺยสฺส สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สนฺติเก ตํ ปพฺพาเชสฺสามา’’ติ วตฺวา สงฺกุนา ฉินฺนกฺขิโกฏิตาย สํกิจฺโจติ วทนฺตา อปรภาเค สํกิจฺโจติ โวหริํสุฯ โส สตฺตวสฺสิกกาเล อตฺตโน คพฺภคตสฺเสว มาตุ มรณํ, คพฺเภ จ อตฺตโน ปวตฺติํ สุตฺวา สํเวคชาโต ‘‘ปพฺพชิสฺสามี’’ติ อาหฯ ญาตกา ‘‘สาธุ, ตาตา’’ติ ธมฺมเสนาปติสฺส สนฺติกํ เนตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อิมํ ปพฺพาเชถา’’ติ อทํสุฯ เถโร ตํ ตจปญฺจกกมฺมฏฺฐานํ ทตฺวา ปพฺพาเชสิฯ

โส ขุรคฺเคเยว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา ติํสมตฺเตหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิํ อรญฺเญ วิหรนฺโต เจ โจรหตฺถโต โมเจตฺวา สยมฺปิ เต โจเร ทเมตฺวา ปพฺพาเชตฺวา อญฺญตรสฺมิํ วิหาเร พหูหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิํ วิหรนฺโต เต วิวาทปสุเต ทิสฺวา ‘‘อญฺญตฺถ คจฺฉามี’’ติ ภิกฺขู อาปุจฺฉิฯ อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน ธมฺมปทวตฺถุมฺหิ (ธ. ป. อฏฺฐ. 1.สงฺกิจฺจสามเณรวตฺถุ) อาคตนเยเนว เวทิตพฺโพฯ อถ นํ อญฺญตโร อุปาสโก อุปฏฺฐาตุกาโม อาสนฺนฏฺฐาเน วาสํ ยาจนฺโต –

[597]

‘‘กิํ ตวตฺโถ วเน ตาต, อุชฺชุหาโนว ปาวุเส;

เวรมฺภา รมณียา เต, ปวิเวโก หิ ฌายิน’’นฺติฯ –

ปฐมํ คาถมาหฯ ตํ สุตฺวา เถโร –

[598]

‘‘ยถา อพฺภานิ เวรมฺโภ, วาโต นุทติ ปาวุเส;

สญฺญา เม อภิกิรนฺติ, วิเวกปฏิสญฺญุตาฯ

[599]

‘‘อปณฺฑโร อณฺฑสมฺภโว, สีวถิกาย นิเกตจาริโก;

อุปฺปาทยเตว เม สติํ, สนฺเทหสฺมิํ วิราคนิสฺสิตํฯ

[600]

‘‘ยญฺจ อญฺเญ น รกฺขนฺติ, โย จ อญฺเญ น รกฺขติ;

ส เว ภิกฺขุ สุขํ เสติ, กาเมสุ อนเปกฺขวาฯ

[601]

‘‘อจฺโฉทิกา ปุถุสิลา, โคนงฺคลมิคายุตา;

อมฺพุเสวาลสญฺฉนฺนา, เต เสลา รมยนฺติ มํฯ

[602]

‘‘วสิตํ เม อรญฺเญสุ, กนฺทราสุ คุหาสุ จ;

เสนาสเนสุ ปนฺเตสุ, วาฬมิคนิเสวิเตฯ

[603]

‘‘‘อิเม หญฺญนฺตุ วชฺฌนฺตุ, ทุกฺขํ ปปฺโปนฺตุ ปาณิโน’;

สงฺกปฺปํ นาภิชานามิ, อนริยํ โทสสํหิตํฯ

[604]

‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;

โอหิโต ครุโก ภาโร, ภวเนตฺติ สมูหตาฯ

[605]

‘‘ยสฺส จตฺถาย ปพฺพชิโต, อคารสฺมานคาริยํ;

โส เม อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, สพฺพสํโยชนกฺขโยฯ

[606]

‘‘นาภินนฺทามิ มรณํ, นาภินนฺทามิ ชีวิตํ;

กาลญฺจ ปฏิกงฺขามิ, นิพฺพิสํ ภตโก ยถาฯ

[607]

‘‘นาภินนฺทามิ มรณํ, นาภินนฺทามิ ชีวิตํฯ

กาลญฺจ ปฏิกงฺขามิ, สมฺปชาโน ปติสฺสโต’’ติฯ – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถ กิํ ตวตฺโถ วเนติ กินฺติ ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตํฯ วเน โก ตวตฺโถ, กิํ ปโยชนนฺติ อตฺโถฯ ตาตาติ ทหรสามเณรตาย นํ อตฺตโน ปุตฺตฏฺฐาเน ฐเปตฺวา อาลปติฯ อุชฺชุหาโนว ปาวุเสติ อุชฺชุหาโน กิร นาม เอโก ปพฺพโต, โส ปน คหนสญฺฉนฺโน พหุโสณฺฑิกนฺทโร, ตหํ ตหํ สนฺทมานสลิโล , วสฺสกาเล อสปฺปาโย, ตสฺมา อุชฺชุหาโน วา ปพฺพโต เอตรหิ ปาวุสกาเล ตว กิมตฺถิโยติ อตฺโถฯ เกจิ ปเนตฺถ ‘‘อุชฺชุหาโน นาม เอโก สกุโณ สีตํ น สหติ, วสฺสกาเล วนคุมฺเพ นิลีโน อจฺฉตี’’ติ วทนฺติฯ เตสํ มเตน อุชฺชุหานสฺส วิย สกุณสฺส ปาวุสกาเล โก ตว อตฺโถ วเนติ? เวรมฺภา รมณียา เตติ เวรมฺภวาตา วายนฺตา กิํ เต รมณียาติ โยชนาฯ เกจิ ‘‘เวรมฺภา นาม เอกา ปพฺพตคุหา, ปพฺภาโร’’ติ จ วทนฺติฯ ตญฺจ ฐานํ คมนาคมนยุตฺตํ ชนสมฺพาธรหิตํ ฉายูทกสมฺปนฺนญฺจ, ตสฺมา เวรมฺภา รมณียา, วเน วสิตุํ ยุตฺตรูปาฯ กสฺมา? ปวิเวโก หิ ฌายินํ ยสฺมา ตาทิสานํ ฌายีนํ ยตฺถ กตฺถจิ ปวิเวโกเยว อิจฺฉิตพฺโพ, ตสฺมา ‘‘ทูรํ อรญฺญฏฺฐานํ อคนฺตฺวา เวรมฺภายํ วส, ตาตา’’ติ วทติฯ อยญฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – ยสฺมา ฌายีนํ ปวิเวกกฺขเม นิวาสผาสุเก เสนาสเน ลทฺเธเยว ฌานาทโย สมฺปชฺชนฺติ, น อลทฺเธ, ตสฺมา น เอวรูเป สีตกาเล ยตฺถ กตฺถจิ วเน วสิตุํ สกฺกา, คุหาปพฺภาราทีสุ ปน สกฺกาติฯ

เอวํ อุปาสเกน วุตฺเต เถโร วนาทโย เอว มํ รเมนฺตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา อพฺภานี’’ติอาทิมาหฯ ตสฺสตฺโถ – ยถา ปาวุเส กาเล อพฺภานิ วลาหกานิ เวรมฺภวาโต นุทติ ขิปติ นีหรติ, เอวเมว เม จิตฺตํ วิเวกปฏิสญฺญุตา สญฺญา อภิกิรนฺติ วิเวกฏฺฐานํเยว อากฑฺฒนฺติฯ

กิญฺจ ? อปณฺฑโร กาฬวณฺโณ, อณฺฑสมฺภโว อณฺฑโช กาโก, สีวถิกาย สุสานฏฺฐาเน, นิเกตจาริโก ตเมว นิวาสนฏฺฐานํ กตฺวา วิจรณโก อุปฺปาทยเตว เม สติํ, สนฺเทหสฺมิํ วิราคนิสฺสิตนฺติ, กายสฺมิํ วิราคูปสํหิตํ กายคตาสติกมฺมฏฺฐานํ มยฺหํ อุปฺปาทยติเยวฯ เอกทิวสํ กิร เถโร กาเกน ขชฺชมานํ มนุสฺสกุณปํ ปสฺสิตฺวา อสุภสญฺญํ ปฏิลภิ, ตํ สนฺธาย เอวมาหฯ เตน กาเย สพฺพโส ฉนฺทราคสฺส นตฺถิตาย วเนเยว วสิตุกาโมมฺหีติ ทสฺเสติฯ ยญฺจาติ -สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ, เตน อญฺญมฺปิ มม อรญฺญวาสการณํ สุณาหีติ ทสฺเสติฯ ยํ ปพฺพชิตํ เมตฺตาวิหาริตาย อโลภนิยปริกฺขารตาย จ รกฺขิตพฺพสฺส อภาวโต อญฺเญ เสวกาทโย น รกฺขนฺติฯ โย จ ปพฺพชิโต อญฺเญ เกนจิ กิญฺจนปลิโพธภูเต น รกฺขติ ตาทิสานํเยว อภาวโตฯ ส เว ภิกฺขุ สุขํ เสตีติ, โส ภิกฺขุ สมุจฺฉินฺนกิเลสกามตาย สพฺพโส วตฺถุกาเมสุ อนเปกฺขวา อเปกฺขารหิโต ยตฺถ กตฺถจิ สุขํ เสติฯ ตสฺส อนุสงฺกิตปริสงฺกิตาภาวโต อรญฺญมฺหิ คามมฺหิ สทิสเมวาติ อตฺโถฯ

อิทานิ ปพฺพตวนาทีนํ รมณียตํ วสิตปุพฺพตญฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘อจฺโฉทิกา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ วสิตํ เมติ, วุฏฺฐปุพฺพํ มยาฯ วาฬมิคนิเสวิเตติ, สีหพฺยคฺฆาทีหิ วาฬมิเคหิ อุปเสวิเต วเนฯ

สงฺกปฺปํ นาภิชานามีติ, อิเม เย เกจิ ปาณิโน สตฺตา อุสุสตฺติอาทีหิ ปหรเณหิ หญฺญนฺตุ มาริยนฺตุ มุฏฺฐิปฺปหาราทีหิ วชฺฌนฺตุ พาธียนฺตุ, อญฺเญน วา เยน เกนจิ อากาเรน ทุกฺขํ ปปฺโปนฺตุ ปาปุณนฺตูติ; เอวํ โทสสํหิตํ ปฏิฆสํยุตฺตํ ตโต เอว อนริยํ พฺยาปาทวิหิํสาทิปฺปเภทํ ปาปสงฺกปฺปํ อุปฺปาทิตํ นาภิชานามิ, มิจฺฉาวิตกฺโก น อุปฺปนฺนปุพฺโพติ เมตฺตาวิหาริตํ ทสฺเสติฯ

อิทานิ ‘‘ปริจิณฺโณ’’ติอาทินา อตฺตโน กตกิจฺจตํ ทสฺเสติฯ ตตฺถ ปริจิณฺโณติ อุปาสิโต โอวาทานุสาสนีกรณวเสนฯ โอหิโตติ โอโรหิโตฯ ครุโก ภาโรติ ครุตโร ขนฺธภาโรฯ

นาภินนฺทามิ มรณนฺติ ‘‘กถํ นุ โข เม มรณํ สิยา’’ติ มรณํ น อิจฺฉามิฯ นาภินนฺทามิ ชีวิตนฺติ ‘‘กถํ นุ โข อหํ จิรํ ชีเวยฺย’’นฺติ ชีวิตมฺปิ น อิจฺฉามิฯ เอเตน มรเณ ชีวิเต จ สมานจิตฺตตํ ทสฺเสติฯ กาลญฺจ ปฏิกงฺขามีติ ปรินิพฺพานกาลํว อาคเมมิฯ นิพฺพิสนฺติ นิพฺพิสนฺโต, ภติยา กมฺมํ กโรนฺโตฯ ภตโก ยถาติ ยถา ภตโก ปรสฺส กมฺมํ กโรนฺโต กมฺมสิทฺธิํ อนภินนฺทนฺโตปิ กมฺมํ กโรนฺโตว ทิวสกฺขยํ อุทิกฺขติ, เอวํ อหมฺปิ ชีวิตํ อนภินนฺทนฺโตปิ อตฺตภาวสฺส ยาปเนน มรณํ อนภินนฺทนฺโตปิ ปริโยสานกาลํ ปฏิกงฺขามีติฯ เสสํ วุตฺตนยเมวฯ

สํกิจฺจตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

เอกาทสนิปาตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

12. ทฺวาทสกนิปาโต

1. สีลวตฺเถรคาถาวณฺณนา

ทฺวาทสกนิปาเต สีลเมวาติอาทิกา อายสฺมโต สีลวตฺเถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห พิมฺพิสารรญฺโญ ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, สีลวาติสฺส นามํ อโหสิฯ ตํ วยปฺปตฺตํ ราชา อชาตสตฺตุ มาเรตุกาโม จณฺฑํ มตฺตหตฺถิํ อาโรเปตฺวา นานาวิเธหิ อุปาเยหิ อุปกฺกมนฺโตปิ มาเรตุํ นาสกฺขิ ปจฺฉิมภวิกสฺส อรหตฺตํ อปฺปตฺวา อนฺตรา ชีวิตนฺตรายาภาวโตฯ ตสฺส ปวตฺติํ ทิสฺวา ภควา มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรํ อาณาเปสิ – ‘‘สีลวกุมารํ อาเนหี’’ติฯ เถโร อิทฺธิพเลน สทฺธิํ หตฺถินา ตํ อาเนสิฯ กุมาโร หตฺถิโต โอรุยฺห ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ ภควา ตสฺส อชฺฌาสยานุรูปํ ธมฺมํ เทเสสิฯ โส ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปตฺวา โกสลรฏฺเฐ วสติฯ อถ นํ อชาตสตฺตุ ‘‘มาเรถา’’ติ ปุริเส อาณาเปสิฯ เต เถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ฐิตา เถเรน กถิตํ ธมฺมกถํ สุตฺวา สญฺชาตสํเวคา ปสนฺนจิตฺตา หุตฺวา ปพฺพชิํสุฯ เถโร เตสํ –

[608]

‘‘สีลเมวิธ สิกฺเขถ, อสฺมิํ โลเก สุสิกฺขิตํฯ

สีลญฺหิ สพฺพสมฺปตฺติํ, อุปนาเมติ เสวิตํฯ

[609]

‘‘สีลํ รกฺเขยฺย เมธาวี, ปตฺถยาโน ตโย สุเข;

ปสํสํ วิตฺติลาภญฺจ, เปจฺจ สคฺเค ปโมทนํฯ

[610]

‘‘สีลวา หิ พหู มิตฺเต, สญฺญเมนาธิคจฺฉติ;

ทุสฺสีโล ปน มิตฺเตหิ, ธํสเต ปาปมาจรํฯ

[611]

‘‘อวณฺณญฺจ อกิตฺติญฺจ, ทุสฺสีโล ลภเต นโร;

วณฺณํ กิตฺติํ ปสํสญฺจ, สทา ลภติ สีลวาฯ

[612]