เมนู

เต ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายติํ อนุปฺปาทธมฺมาฯ ยาวตา โข, อาวุโส, อนิมิตฺตา เจโตวิมุตฺติโย, อกุปฺปา ตาสํ เจโตวิมุตฺติ อคฺคมกฺขายติฯ สา โข ปนากุปฺปา เจโตวิมุตฺติ สุญฺญา ราเคน, สุญฺญา โทเสน, สุญฺญา โมเหนฯ อยํ โข, อาวุโส, ปริยาโย ยํ ปริยายํ อาคมฺม อิเม ธมฺมา เอกตฺถา พฺยญฺชนเมว นาน’’นฺติฯ

อิทมโวจายสฺมา สาริปุตฺโตฯ อตฺตมโน อายสฺมา มหาโกฏฺฐิโก อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ภาสิตํ อภินนฺทีติฯ

มหาเวทลฺลสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ตติยํฯ

4. จูฬเวทลฺลสุตฺตํ

[460] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ อถ โข วิสาโข อุปาสโก เยน ธมฺมทินฺนา ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมทินฺนํ ภิกฺขุนิํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข วิสาโข อุปาสโก ธมฺมทินฺนํ ภิกฺขุนิํ เอตทโวจ – ‘‘‘สกฺกาโย สกฺกาโย’ติ, อยฺเย, วุจฺจติฯ กตโม นุ โข, อยฺเย, สกฺกาโย วุตฺโต ภควตา’’ติ? ‘‘ปญฺจ โข อิเม, อาวุโส วิสาข, อุปาทานกฺขนฺธา สกฺกาโย วุตฺโต ภควตา, เสยฺยถิทํ – รูปุปาทานกฺขนฺโธ, เวทนุปาทานกฺขนฺโธ, สญฺญุปาทานกฺขนฺโธ, สงฺขารุปาทานกฺขนฺโธ, วิญฺญาณุปาทานกฺขนฺโธฯ อิเม โข, อาวุโส วิสาข, ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา สกฺกาโย วุตฺโต ภควตา’’ติฯ

‘‘สาธยฺเย’’ติ โข วิสาโข อุปาสโก ธมฺมทินฺนาย ภิกฺขุนิยา ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา ธมฺมทินฺนํ ภิกฺขุนิํ อุตฺตริํ ปญฺหํ อปุจฺฉิ – ‘‘‘สกฺกายสมุทโย สกฺกายสมุทโย’ติ, อยฺเย, วุจฺจติฯ กตโม นุ โข, อยฺเย, สกฺกายสมุทโย วุตฺโต ภควตา’’ติ? ‘‘ยายํ, อาวุโส วิสาข, ตณฺหา โปโนพฺภวิกา นนฺทีราคสหคตา ตตฺรตตฺราภินนฺทินี, เสยฺยถิทํ – กามตณฺหา ภวตณฺหา วิภวตณฺหา; อยํ โข, อาวุโส วิสาข, สกฺกายสมุทโย วุตฺโต ภควตา’’ติฯ

‘‘‘สกฺกายนิโรโธ สกฺกายนิโรโธ’ติ, อยฺเย, วุจฺจติฯ กตโม นุ โข, อยฺเย, สกฺกายนิโรโธ วุตฺโต ภควตา’’ติ?

‘‘โย โข, อาวุโส วิสาข, ตสฺสาเยว ตณฺหาย อเสสวิราคนิโรโธ จาโค ปฏินิสฺสคฺโค มุตฺติ อนาลโย; อยํ โข, อาวุโส วิสาข, สกฺกายนิโรโธ วุตฺโต ภควตา’’ติฯ

‘‘‘สกฺกายนิโรธคามินี ปฏิปทา สกฺกายนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ, อยฺเย, วุจฺจติฯ กตมา นุ โข, อยฺเย, สกฺกายนิโรธคามินี ปฏิปทา วุตฺตา ภควตา’’ติ?

‘‘อยเมว โข, อาวุโส วิสาข, อริโย อฏฺฐงฺคิโก มคฺโค สกฺกายนิโรธคามินี ปฏิปทา วุตฺตา ภควตา, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺฐิ สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมาอาชีโว สมฺมาวายาโม สมฺมาสติ สมฺมาสมาธี’’ติฯ

‘‘ตญฺเญว นุ โข, อยฺเย, อุปาทานํ เต [เตว (สี.)] ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา อุทาหุ อญฺญตฺร ปญฺจหุปาทานกฺขนฺเธหิ อุปาทาน’’นฺติ? ‘‘น โข, อาวุโส วิสาข, ตญฺเญว อุปาทานํ เต ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา, นาปิ อญฺญตฺร ปญฺจหุปาทานกฺขนฺเธหิ อุปาทานํฯ โย โข, อาวุโส วิสาข, ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ฉนฺทราโค ตํ ตตฺถ อุปาทาน’’นฺติฯ

[461] ‘‘กถํ ปนายฺเย, สกฺกายทิฏฺฐิ โหตี’’ติ? ‘‘อิธาวุโส วิสาข, อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน, อริยานํ อทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส อโกวิโท อริยธมฺเม อวินีโต, สปฺปุริสานํ อทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส อโกวิโท สปฺปุริสธมฺเม อวินีโต, รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา รูปํ, รูปสฺมิํ วา อตฺตานํฯ เวทนํ…เป.… สญฺญํ… สงฺขาเร… วิญฺญาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, วิญฺญาณวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา วิญฺญาณํ, วิญฺญาณสฺมิํ วา อตฺตานํฯ เอวํ โข , อาวุโส วิสาข, สกฺกายทิฏฺฐิ โหตี’’ติฯ

‘‘กถํ ปนายฺเย, สกฺกายทิฏฺฐิ น โหตี’’ติ?

‘‘อิธาวุโส วิสาข, สุตวา อริยสาวโก, อริยานํ ทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส โกวิโท อริยธมฺเม สุวินีโต, สปฺปุริสานํ ทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส โกวิโท สปฺปุริสธมฺเม สุวินีโต, น รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, น รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ, น อตฺตนิ วา รูปํ, น รูปสฺมิํ วา อตฺตานํฯ

น เวทนํ…เป.… น สญฺญํ… น สงฺขาเร…เป.… น วิญฺญาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, น วิญฺญาณวนฺตํ วา อตฺตานํ , น อตฺตนิ วา วิญฺญาณํ, น วิญฺญาณสฺมิํ วา อตฺตานํฯ เอวํ โข, อาวุโส วิสาข, สกฺกายทิฏฺฐิ น โหตี’’ติฯ

[462] ‘‘กตโม ปนายฺเย, อริโย อฏฺฐงฺคิโก มคฺโค’’ติ?

‘‘อยเมว โข, อาวุโส วิสาข, อริโย อฏฺฐงฺคิโก มคฺโค, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺฐิ สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมาอาชีโว สมฺมาวายาโม สมฺมาสติ สมฺมาสมาธี’’ติฯ ‘‘อริโย ปนายฺเย, อฏฺฐงฺคิโก มคฺโค สงฺขโต อุทาหุ อสงฺขโต’’ติ?

‘‘อริโย โข, อาวุโส วิสาข, อฏฺฐงฺคิโก มคฺโค สงฺขโต’’ติ

‘‘อริเยน นุ โข, อยฺเย, อฏฺฐงฺคิเกน มคฺเคน ตโย ขนฺธา สงฺคหิตา อุทาหุ ตีหิ ขนฺเธหิ อริโย อฏฺฐงฺคิโก มคฺโค สงฺคหิโต’’ติ?

‘‘น โข, อาวุโส วิสาข, อริเยน อฏฺฐงฺคิเกน มคฺเคน ตโย ขนฺธา สงฺคหิตา; ตีหิ จ โข, อาวุโส วิสาข, ขนฺเธหิ อริโย อฏฺฐงฺคิโก มคฺโค สงฺคหิโตฯ ยา จาวุโส วิสาข, สมฺมาวาจา โย จ สมฺมากมฺมนฺโต โย จ สมฺมาอาชีโว อิเม ธมฺมา สีลกฺขนฺเธ สงฺคหิตาฯ โย จ สมฺมาวายาโม ยา จ สมฺมาสติ โย จ สมฺมาสมาธิ อิเม ธมฺมา สมาธิกฺขนฺเธ สงฺคหิตาฯ ยา จ สมฺมาทิฏฺฐิ โย จ สมฺมาสงฺกปฺโป, อิเม ธมฺมา ปญฺญากฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติฯ

‘‘กตโม ปนายฺเย, สมาธิ, กตเม ธมฺมา สมาธินิมิตฺตา, กตเม ธมฺมา สมาธิปริกฺขารา, กตมา สมาธิภาวนา’’ติ?

‘‘ยา โข, อาวุโส วิสาข, จิตฺตสฺส เอกคฺคตา อยํ สมาธิ; จตฺตาโร สติปฏฺฐานา สมาธินิมิตฺตา; จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา สมาธิปริกฺขาราฯ ยา เตสํเยว ธมฺมานํ อาเสวนา ภาวนา พหุลีกมฺมํ, อยํ เอตฺถ สมาธิภาวนา’’ติฯ

[463] ‘‘กติ ปนายฺเย, สงฺขารา’’ติ?

‘‘ตโยเม, อาวุโส วิสาข, สงฺขารา – กายสงฺขาโร, วจีสงฺขาโร, จิตฺตสงฺขาโร’’ติฯ

‘‘กตโม ปนายฺเย, กายสงฺขาโร, กตโม วจีสงฺขาโร, กตโม จิตฺตสงฺขาโร’’ติ?

‘‘อสฺสาสปสฺสาสา โข, อาวุโส วิสาข, กายสงฺขาโร, วิตกฺกวิจารา วจีสงฺขาโร, สญฺญา จ เวทนา จ จิตฺตสงฺขาโร’’ติฯ

‘‘กสฺมา ปนายฺเย, อสฺสาสปสฺสาสา กายสงฺขาโร, กสฺมา วิตกฺกวิจารา วจีสงฺขาโร, กสฺมา สญฺญา จ เวทนา จ จิตฺตสงฺขาโร’’ติ?

‘‘อสฺสาสปสฺสาสา โข, อาวุโส วิสาข, กายิกา เอเต ธมฺมา กายปฺปฏิพทฺธา, ตสฺมา อสฺสาสปสฺสาสา กายสงฺขาโรฯ ปุพฺเพ โข, อาวุโส วิสาข, วิตกฺเกตฺวา วิจาเรตฺวา ปจฺฉา วาจํ ภินฺทติ, ตสฺมา วิตกฺกวิจารา วจีสงฺขาโรฯ สญฺญา จ เวทนา จ เจตสิกา เอเต ธมฺมา จิตฺตปฺปฏิพทฺธา, ตสฺมา สญฺญา จ เวทนา จ จิตฺตสงฺขาโร’’ติฯ

[464] ‘‘กถํ ปนายฺเย, สญฺญาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติ โหตี’’ติ?

‘‘น โข, อาวุโส วิสาข, สญฺญาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชนฺตสฺส ภิกฺขุโน เอวํ โหติ – ‘อหํ สญฺญาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชิสฺส’นฺติ วา, ‘อหํ สญฺญาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชามี’ติ วา, ‘อหํ สญฺญาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺโน’ติ วาฯ อถ ขฺวาสฺส ปุพฺเพว ตถา จิตฺตํ ภาวิตํ โหติ ยํ ตํ ตถตฺตาย อุปเนตี’’ติฯ

‘‘สญฺญาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชนฺตสฺส ปนายฺเย, ภิกฺขุโน กตเม ธมฺมา ปฐมํ นิรุชฺฌนฺติ – ยทิ วา กายสงฺขาโร, ยทิ วา วจีสงฺขาโร, ยทิ วา จิตฺตสงฺขาโร’’ติ? ‘‘สญฺญาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชนฺตสฺส โข, อาวุโส วิสาข, ภิกฺขุโน ปฐมํ นิรุชฺฌติ วจีสงฺขาโร, ตโต กายสงฺขาโร, ตโต จิตฺตสงฺขาโร’’ติฯ

‘‘กถํ ปนายฺเย, สญฺญาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺฐานํ โหตี’’ติ?

‘‘น โข, อาวุโส วิสาข, สญฺญาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺฐหนฺตสฺส ภิกฺขุโน เอวํ โหติ – ‘อหํ สญฺญาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺฐหิสฺส’นฺติ วา, ‘อหํ สญฺญาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺฐหามี’ติ วา, ‘อหํ สญฺญาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺฐิโต’ติ วาฯ อถ ขฺวาสฺส ปุพฺเพว ตถา จิตฺตํ ภาวิตํ โหติ ยํ ตํ ตถตฺตาย อุปเนตี’’ติฯ

‘‘สญฺญาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺฐหนฺตสฺส ปนายฺเย, ภิกฺขุโน กตเม ธมฺมา ปฐมํ อุปฺปชฺชนฺติ – ยทิ วา กายสงฺขาโร, ยทิ วา วจีสงฺขาโร, ยทิ วา จิตฺตสงฺขาโร’’ติ? ‘‘สญฺญาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺฐหนฺตสฺส โข, อาวุโส วิสาข, ภิกฺขุโน ปฐมํ อุปฺปชฺชติ จิตฺตสงฺขาโร, ตโต กายสงฺขาโร, ตโต วจีสงฺขาโร’’ติฯ

‘‘สญฺญาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺฐิตํ ปนายฺเย, ภิกฺขุํ กติ ผสฺสา ผุสนฺตี’’ติ? ‘‘สญฺญาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺฐิตํ โข, อาวุโส วิสาข, ภิกฺขุํ ตโย ผสฺสา ผุสนฺติ – สุญฺญโต ผสฺโส, อนิมิตฺโต ผสฺโส, อปฺปณิหิโต ผสฺโส’’ติฯ

‘‘สญฺญาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺฐิตสฺส ปนายฺเย, ภิกฺขุโน กิํนินฺนํ จิตฺตํ โหติ กิํโปณํ กิํปพฺภาร’’นฺติ? ‘‘สญฺญาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺฐิตสฺส โข, อาวุโส วิสาข, ภิกฺขุโน วิเวกนินฺนํ จิตฺตํ โหติ, วิเวกโปณํ วิเวกปพฺภาร’’นฺติฯ

[465] ‘‘กติ ปนายฺเย, เวทนา’’ติ?

‘‘ติสฺโส โข อิมา, อาวุโส วิสาข, เวทนา – สุขา เวทนา, ทุกฺขา เวทนา, อทุกฺขมสุขา เวทนา’’ติฯ

‘‘กตมา ปนายฺเย, สุขา เวทนา, กตมา ทุกฺขา เวทนา, กตมา อทุกฺขมสุขา เวทนา’’ติ?

‘‘ยํ โข, อาวุโส วิสาข, กายิกํ วา เจตสิกํ วา สุขํ สาตํ เวทยิตํ – อยํ สุขา เวทนาฯ ยํ โข, อาวุโส วิสาข, กายิกํ วา เจตสิกํ วา ทุกฺขํ อสาตํ เวทยิตํ – อยํ ทุกฺขา เวทนาฯ ยํ โข, อาวุโส วิสาข, กายิกํ วา เจตสิกํ วา เนว สาตํ นาสาตํ เวทยิตํ – อยํ อทุกฺขมสุขา เวทนา’’ติฯ

‘‘สุขา ปนายฺเย, เวทนา กิํสุขา กิํทุกฺขา, ทุกฺขา เวทนา กิํสุขา กิํทุกฺขา, อทุกฺขมสุขา เวทนา กิํสุขา กิํทุกฺขา’’ติ?

‘‘สุขา โข, อาวุโส วิสาข, เวทนา ฐิติสุขา วิปริณามทุกฺขา; ทุกฺขา เวทนา ฐิติทุกฺขา วิปริณามสุขา ; อทุกฺขมสุขา เวทนา ญาณสุขา อญฺญาณทุกฺขา’’ติฯ

‘‘สุขาย ปนายฺเย, เวทนาย กิํ อนุสโย อนุเสติ, ทุกฺขาย เวทนาย กิํ อนุสโย อนุเสติ, อทุกฺขมสุขาย เวทนาย กิํ อนุสโย อนุเสตี’’ติ?

‘‘สุขาย โข, อาวุโส วิสาข, เวทนาย ราคานุสโย อนุเสติ, ทุกฺขาย เวทนาย ปฏิฆานุสโย อนุเสติ, อทุกฺขมสุขาย เวทนาย อวิชฺชานุสโย อนุเสตี’’ติฯ

‘‘สพฺพาย นุ โข, อยฺเย, สุขาย เวทนาย ราคานุสโย อนุเสติ, สพฺพาย ทุกฺขาย เวทนาย ปฏิฆานุสโย อนุเสติ, สพฺพาย อทุกฺขมสุขาย เวทนาย อวิชฺชานุสโย อนุเสตี’’ติ?

‘‘น โข, อาวุโส วิสาข, สพฺพาย สุขาย เวทนาย ราคานุสโย อนุเสติ, น สพฺพาย ทุกฺขาย เวทนาย ปฏิฆานุสโย อนุเสติ, น สพฺพาย อทุกฺขมสุขาย เวทนาย อวิชฺชานุสโย อนุเสตี’’ติฯ

‘‘สุขาย ปนายฺเย, เวทนาย กิํ ปหาตพฺพํ, ทุกฺขาย เวทนาย กิํ ปหาตพฺพํ, อทุกฺขมสุขาย เวทนาย กิํ ปหาตพฺพ’’นฺติ?

‘‘สุขาย โข, อาวุโส วิสาข, เวทนาย ราคานุสโย ปหาตพฺโพ, ทุกฺขาย เวทนาย ปฏิฆานุสโย ปหาตพฺโพ, อทุกฺขมสุขาย เวทนาย อวิชฺชานุสโย ปหาตพฺโพ’’ติฯ

‘‘สพฺพาย นุ โข, อยฺเย, สุขาย เวทนาย ราคานุสโย ปหาตพฺโพ, สพฺพาย ทุกฺขาย เวทนาย ปฏิฆานุสโย ปหาตพฺโพ, สพฺพาย อทุกฺขมสุขาย เวทนาย อวิชฺชานุสโย ปหาตพฺโพ’’ติ?

‘‘น โข, อาวุโส วิสาข, สพฺพาย สุขาย เวทนาย ราคานุสโย ปหาตพฺโพ, น สพฺพาย ทุกฺขาย เวทนาย ปฏิฆานุสโย ปหาตพฺโพ , น สพฺพาย อทุกฺขมสุขาย เวทนาย อวิชฺชานุสโย ปหาตพฺโพฯ อิธาวุโส วิสาข, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ ราคํ เตน ปชหติ, น ตตฺถ ราคานุสโย อนุเสติฯ อิธาวุโส วิสาข, ภิกฺขุ อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ – ‘กุทาสฺสุ นามาหํ ตทายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามิ ยทริยา เอตรหิ อายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรนฺตี’ติ? อิติ อนุตฺตเรสุ วิโมกฺเขสุ ปิหํ อุปฏฺฐาปยโต อุปฺปชฺชติ ปิหาปฺปจฺจยา โทมนสฺสํฯ ปฏิฆํ เตน ปชหติ, น ตตฺถ ปฏิฆานุสโย อนุเสติฯ อิธาวุโส วิสาข, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา, ทุกฺขสฺส จ ปหานา, ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา, อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิํ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อวิชฺชํ เตน ปชหติ, น ตตฺถ อวิชฺชานุสโย อนุเสตี’’ติฯ

[466] ‘‘สุขาย ปนายฺเย, เวทนาย กิํ ปฏิภาโค’’ติ?

‘‘สุขาย โข, อาวุโส วิสาข, เวทนาย ทุกฺขา เวทนา ปฏิภาโค’’ติฯ

‘‘ทุกฺขาย ปนฺนายฺเย, เวทนาย กิํ ปฏิภาโค’’ติ?

‘‘ทุกฺขาย โข, อาวุโส วิสาข, เวทนาย สุขา เวทนา ปฏิภาโค’’ติฯ

‘‘อทุกฺขมสุขาย ปนายฺเย, เวทนาย กิํ ปฏิภาโค’’ติ?

‘‘อทุกฺขมสุขาย โข, อาวุโส วิสาข, เวทนาย อวิชฺชา ปฏิภาโค’’ติฯ

‘‘อวิชฺชาย ปนายฺเย, กิํ ปฏิภาโค’’ติ?

‘‘อวิชฺชาย โข, อาวุโส วิสาข, วิชฺชา ปฏิภาโค’’ติฯ

‘‘วิชฺชาย ปนายฺเย, กิํ ปฏิภาโค’’ติ?

‘‘วิชฺชาย โข, อาวุโส วิสาข, วิมุตฺติ ปฏิภาโค’’ติฯ

‘‘วิมุตฺติยา ปนายฺเย , กิํ ปฏิภาโค’’ติ?

‘‘วิมุตฺติยา โข, อาวุโส วิสาข, นิพฺพานํ ปฏิภาโค’’ติฯ

‘‘นิพฺพานสฺส ปนายฺเย, กิํ ปฏิภาโค’’ติ? ‘‘อจฺจยาสิ, อาวุโส [อจฺจสราวุโส (สี. ปี.), อจฺจสฺสราวุโส (สฺยา. กํ.)] วิสาข, ปญฺหํ, นาสกฺขิ ปญฺหานํ ปริยนฺตํ คเหตุํฯ นิพฺพาโนคธญฺหิ, อาวุโส วิสาข, พฺรหฺมจริยํ, นิพฺพานปรายนํ นิพฺพานปริโยสานํฯ อากงฺขมาโน จ ตฺวํ, อาวุโส วิสาข, ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปุจฺเฉยฺยาสิ, ยถา จ เต ภควา พฺยากโรติ ตถา นํ ธาเรยฺยาสี’’ติฯ

[467] อถ โข วิสาโข อุปาสโก ธมฺมทินฺนาย ภิกฺขุนิยา ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ธมฺมทินฺนํ ภิกฺขุนิํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข วิสาโข อุปาสโก ยาวตโก อโหสิ ธมฺมทินฺนาย ภิกฺขุนิยา สทฺธิํ กถาสลฺลาโป ตํ สพฺพํ ภควโต อาโรเจสิฯ เอวํ วุตฺเต, ภควา วิสาขํ อุปาสกํ เอตทโวจ – ‘‘ปณฺฑิตา, วิสาข, ธมฺมทินฺนา ภิกฺขุนี, มหาปญฺญา, วิสาข, ธมฺมทินฺนา ภิกฺขุนีฯ มํ เจปิ ตฺวํ, วิสาข, เอตมตฺถํ ปุจฺเฉยฺยาสิ, อหมฺปิ ตํ เอวเมวํ พฺยากเรยฺยํ, ยถา ตํ ธมฺมทินฺนาย ภิกฺขุนิยา พฺยากตํฯ เอโส เจเวตสฺส [เอโสเวตสฺส (สฺยา. กํ.)] อตฺโถฯ เอวญฺจ นํ [เอวเมตํ (สี. สฺยา. กํ.)] ธาเรหี’’ติฯ

อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมโน วิสาโข อุปาสโก ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติฯ

จูฬเวทลฺลสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ จตุตฺถํฯ

5. จูฬธมฺมสมาทานสุตฺตํ

[468] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติฯ ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํฯ ภควา เอตทโวจ – ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานานิฯ กตมานิ จตฺตาริ? อตฺถิ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขํ อายติํ ทุกฺขวิปากํ; อตฺถิ, ภิกฺขเว , ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขญฺเจว อายติญฺจ ทุกฺขวิปากํ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขํ อายติํ สุขวิปากํ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขญฺเจว อายติญฺจ สุขวิปากํ’’ฯ

[469] ‘‘กตมญฺจ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขํ อายติํ ทุกฺขวิปากํ? สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน – ‘นตฺถิ กาเมสุ โทโส’ติฯ เต กาเมสุ ปาตพฺยตํ อาปชฺชนฺติฯ เต โข โมฬิพทฺธาหิ [โมฬิพนฺธาหิ (สฺยา. กํ. ก.)] ปริพฺพาชิกาหิ ปริจาเรนฺติฯ เต เอวมาหํสุ – ‘กิํสุ นาม เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กาเมสุ อนาคตภยํ สมฺปสฺสมานา กามานํ ปหานมาหํสุ, กามานํ ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ? สุโข อิมิสฺสา ปริพฺพาชิกาย ตรุณาย มุทุกาย โลมสาย พาหาย สมฺผสฺโส’ติ เต กาเมสุ ปาตพฺยตํ อาปชฺชนฺติฯ เต กาเมสุ ปาตพฺยตํ อาปชฺชิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติฯ เต ตตฺถ ทุกฺขา ติพฺพา ขรา กฏุกา เวทนา เวทยนฺติฯ เต เอวมาหํสุ – ‘อิทํ โข เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กาเมสุ อนาคตภยํ สมฺปสฺสมานา กามานํ ปหานมาหํสุ, กามานํ ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, อิเม หิ มยํ กามเหตุ กามนิทานํ ทุกฺขา ติพฺพา ขรา กฏุกา เวทนา เวทยามา’ติฯ เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเส มาลุวาสิปาฏิกา ผเลยฺยฯ อถ โข ตํ, ภิกฺขเว, มาลุวาพีชํ อญฺญตรสฺมิํ สาลมูเล นิปเตยฺยฯ อถ โข, ภิกฺขเว, ยา ตสฺมิํ สาเล อธิวตฺถา เทวตา สา ภีตา สํวิคฺคา สนฺตาสํ อาปชฺเชยฺยฯ อถ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมิํ สาเล อธิวตฺถาย เทวตาย มิตฺตามจฺจา ญาติสาโลหิตา อารามเทวตา วนเทวตา รุกฺขเทวตา โอสธิติณวนปฺปตีสุ อธิวตฺถา เทวตา สงฺคมฺม สมาคมฺม เอวํ สมสฺสาเสยฺยุํ – ‘มา ภวํ ภายิ, มา ภวํ ภายิ; อปฺเปว นาเมตํ มาลุวาพีชํ โมโร วา คิเลยฺย [โมโร วา คิเลยฺย, โคธา วา ขาเทยฺย (ก.)], มโค วา ขาเทยฺย, ทวฑาโห [วนทาโห (ก.)] วา ฑเหยฺย, วนกมฺมิกา วา อุทฺธเรยฺยุํ, อุปจิกา วา อุฏฺฐเหยฺยุํ [อุทฺรเภยฺยุํ (สี. ปี. ก.)], อพีชํ วา ปนสฺสา’ติฯ