เมนู

โส เอวํ อนุโรธวิโรธวิปฺปหีโน ยํ กิญฺจิ เวทนํ เวเทติ, สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, โส ตํ เวทนํ นาภินนฺทติ นาภิวทติ นาชฺโฌสาย ติฏฺฐติฯ ตสฺส ตํ เวทนํ อนภินนฺทโต อนภิวทโต อนชฺโฌสาย ติฏฺฐโต ยา เวทนาสุ นนฺที สา นิรุชฺฌติฯ ตสฺส นนฺทีนิโรธา อุปาทานนิโรโธ, อุปาทานนิโรธา ภวนิโรโธ, ภวนิโรธา ชาตินิโรโธ, ชาตินิโรธา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา นิรุชฺฌนฺติฯ เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหติฯ อิมํ โข เม ตุมฺเห, ภิกฺขเว, สํขิตฺเตน ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺติํ ธาเรถ, สาติํ ปน ภิกฺขุํ เกวฏฺฏปุตฺตํ มหาตณฺหาชาลตณฺหาสงฺฆาฏปฺปฏิมุกฺก’’นฺติฯ

อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติฯ

มหาตณฺหาสงฺขยสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ อฏฺฐมํฯ

9. มหาอสฺสปุรสุตฺตํ

[415] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา องฺเคสุ วิหรติ อสฺสปุรํ นาม องฺคานํ นิคโมฯ ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติฯ ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํฯ ภควา เอตทโวจ –

‘‘สมณา สมณาติ โว, ภิกฺขเว, ชโน สญฺชานาติฯ ตุมฺเห จ ปน ‘เก ตุมฺเห’ติ ปุฏฺฐา สมานา ‘สมณามฺหา’ติ ปฏิชานาถ; เตสํ โว, ภิกฺขเว, เอวํสมญฺญานํ สตํ เอวํปฏิญฺญานํ สตํ ‘เย ธมฺมา สมณกรณา จ พฺราหฺมณกรณา จ เต ธมฺเม สมาทาย วตฺติสฺสาม, เอวํ โน อยํ อมฺหากํ สมญฺญา จ สจฺจา ภวิสฺสติ ปฏิญฺญา จ ภูตาฯ เยสญฺจ มยํ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปริภุญฺชาม, เตสํ เต การา อมฺเหสุ มหปฺผลา ภวิสฺสนฺติ มหานิสํสา, อมฺหากญฺเจวายํ ปพฺพชฺชา อวญฺฌา ภวิสฺสติ สผลา สอุทฺรยา’ติฯ เอวญฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพํฯ

[416] ‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, ธมฺมา สมณกรณา จ พฺราหฺมณกรณา จ? ‘หิโรตฺตปฺเปน สมนฺนาคตา ภวิสฺสามา’ติ เอวญฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพํฯ

สิยา โข ปน, ภิกฺขเว, ตุมฺหากํ เอวมสฺส – ‘หิโรตฺตปฺเปนมฺห สมนฺนาคตา , อลเมตฺตาวตา กตเมตฺตาวตา, อนุปฺปตฺโต โน สามญฺญตฺโถ, นตฺถิ โน กิญฺจิ อุตฺตริํ กรณีย’นฺติ ตาวตเกเนว ตุฏฺฐิํ อาปชฺเชยฺยาถฯ อาโรจยามิ โว, ภิกฺขเว , ปฏิเวทยามิ โว, ภิกฺขเว – ‘มา โว สามญฺญตฺถิกานํ สตํ สามญฺญตฺโถ ปริหายิ, สติ อุตฺตริํ กรณีเย’ฯ

[417] ‘‘กิญฺจ, ภิกฺขเว, อุตฺตริํ กรณียํ? ‘ปริสุทฺโธ โน กายสมาจาโร ภวิสฺสติ อุตฺตาโน วิวโฏ น จ ฉิทฺทวา สํวุโต จฯ ตาย จ ปน ปริสุทฺธกายสมาจารตาย เนวตฺตานุกฺกํเสสฺสาม น ปรํ วมฺเภสฺสามา’ติ [เนวตฺตานุกฺกํสิสฺสาม น ปรํ วมฺภิสฺสามาติ (สพฺพตฺถ)] เอวญฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพํฯ สิยา โข ปน, ภิกฺขเว, ตุมฺหากํ เอวมสฺส – ‘หิโรตฺตปฺเปนมฺห สมนฺนาคตา, ปริสุทฺโธ โน กายสมาจาโร; อลเมตฺตาวตา กตเมตฺตาวตา, อนุปฺปตฺโต โน สามญฺญตฺโถ, นตฺถิ โน กิญฺจิ อุตฺตริํ กรณีย’นฺติ ตาวตเกเนว ตุฏฺฐิํ อาปชฺเชยฺยาถฯ อาโรจยามิ โว, ภิกฺขเว, ปฏิเวทยามิ โว, ภิกฺขเว – ‘มา โว สามญฺญตฺถิกานํ สตํ สามญฺญตฺโถ ปริหายิ, สติ อุตฺตริํ กรณีเย’ฯ

[418] ‘‘กิญฺจ, ภิกฺขเว, อุตฺตริํ กรณียํ? ‘ปริสุทฺโธ โน วจีสมาจาโร ภวิสฺสติ อุตฺตาโน วิวโฏ น จ ฉิทฺทวา สํวุโต จฯ ตาย จ ปน ปริสุทฺธวจีสมาจารตาย เนวตฺตานุกฺกํเสสฺสาม น ปรํ วมฺเภสฺสามา’ติ เอวญฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพํฯ สิยา โข ปน, ภิกฺขเว, ตุมฺหากํ เอวมสฺส – ‘หิโรตฺตปฺเปนมฺห สมนฺนาคตา, ปริสุทฺโธ โน กายสมาจาโร, ปริสุทฺโธ วจีสมาจาโร; อลเมตฺตาวตา กตเมตฺตาวตา, อนุปฺปตฺโต โน สามญฺญตฺโถ, นตฺถิ โน กิญฺจิ อุตฺตริํ กรณีย’นฺติ ตาวตเกเนว ตุฏฺฐิํ อาปชฺเชยฺยาถฯ อาโรจยามิ โว , ภิกฺขเว, ปฏิเวทยามิ โว, ภิกฺขเว – ‘มา โว สามญฺญตฺถิกานํ สตํ สามญฺญตฺโถ ปริหายิ, สติ อุตฺตริํ กรณีเย’ฯ

[419] ‘‘กิญฺจ, ภิกฺขเว, อุตฺตริํ กรณียํ? ‘ปริสุทฺโธ โน มโนสมาจาโร ภวิสฺสติ อุตฺตาโน วิวโฏ น จ ฉิทฺทวา สํวุโต จฯ

ตาย จ ปน ปริสุทฺธมโนสมาจารตาย เนวตฺตานุกฺกํเสสฺสาม น ปรํ วมฺเภสฺสามา’ติ เอวญฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพํฯ สิยา โข ปน, ภิกฺขเว, ตุมฺหากํ เอวมสฺส – ‘หิโรตฺตปฺเปนมฺห สมนฺนาคตา, ปริสุทฺโธ โน กายสมาจาโร, ปริสุทฺโธ วจีสมาจาโร, ปริสุทฺโธ มโนสมาจาโร; อลเมตฺตาวตา กตเมตฺตาวตา, อนุปฺปตฺโต โน สามญฺญตฺโถ, นตฺถิ โน กิญฺจิ อุตฺตริํ กรณีย’นฺติ ตาวตเกเนว ตุฏฺฐิํ อาปชฺเชยฺยาถฯ อาโรจยามิ โว, ภิกฺขเว, ปฏิเวทยามิ โว, ภิกฺขเว – ‘มา โว สามญฺญตฺถิกานํ สตํ สามญฺญตฺโถ ปริหายิ, สติ อุตฺตริํ กรณีเย’ฯ

[420] ‘‘กิญฺจ, ภิกฺขเว, อุตฺตริํ กรณียํ? ‘ปริสุทฺโธ โน อาชีโว ภวิสฺสติ อุตฺตาโน วิวโฏ น จ ฉิทฺทวา สํวุโต จฯ ตาย จ ปน ปริสุทฺธาชีวตาย เนวตฺตานุกฺกํเสสฺสาม น ปรํ วมฺเภสฺสามา’ติ เอวญฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพํฯ สิยา โข ปน, ภิกฺขเว, ตุมฺหากํ เอวมสฺส – ‘หิโรตฺตปฺเปนมฺห สมนฺนาคตา, ปริสุทฺโธ โน กายสมาจาโร, ปริสุทฺโธ วจีสมาจาโร, ปริสุทฺโธ มโนสมาจาโร, ปริสุทฺโธ อาชีโว; อลเมตฺตาวตา กตเมตฺตาวตา, อนุปฺปตฺโต โน สามญฺญตฺโถ , นตฺถิ โน กิญฺจิ อุตฺตริํ กรณีย’นฺติ ตาวตเกเนว ตุฏฺฐิํ อาปชฺเชยฺยาถฯ อาโรจยามิ โว, ภิกฺขเว, ปฏิเวทยามิ โว, ภิกฺขเว – ‘มา โว สามญฺญตฺถิกานํ สตํ สามญฺญตฺโถ ปริหายิ, สติ อุตฺตริํ กรณีเย’ฯ

[421] ‘‘กิญฺจ, ภิกฺขเว, อุตฺตริํ กรณียํ? ‘อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารา ภวิสฺสาม; จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี นานุพฺยญฺชนคฺคาหีฯ ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชิสฺสาม, รกฺขิสฺสาม จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชิสฺสามฯ โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป.… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา…เป.… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา…เป.… กาเยน โผฏฺฐพฺพํ ผุสิตฺวา…เป.… มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย น นิมิตฺตคฺคาหี นานุพฺยญฺชนคฺคาหีฯ ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชิสฺสาม, รกฺขิสฺสาม มนินฺทฺริยํ, มนินฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชิสฺสามา’ติ เอวญฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพํฯ

สิยา โข ปน, ภิกฺขเว, ตุมฺหากํ เอวมสฺส – ‘หิโรตฺตปฺเปนมฺห สมนฺนาคตา, ปริสุทฺโธ โน กายสมาจาโร, ปริสุทฺโธ วจีสมาจาโร, ปริสุทฺโธ มโนสมาจาโร, ปริสุทฺโธ อาชีโว, อินฺทฺริเยสุมฺห คุตฺตทฺวารา; อลเมตฺตาวตา กตเมตฺตาวตา, อนุปฺปตฺโต โน สามญฺญตฺโถ, นตฺถิ โน กิญฺจิ อุตฺตริํ กรณีย’นฺติ ตาวตเกเนว ตุฏฺฐิํ อาปชฺเชยฺยาถฯ อาโรจยามิ โว, ภิกฺขเว, ปฏิเวทยามิ โว, ภิกฺขเว – ‘มา โว สามญฺญตฺถิกานํ สตํ สามญฺญตฺโถ ปริหายิ, สติ อุตฺตริํ กรณีเย’ฯ

[422] ‘‘กิญฺจ, ภิกฺขเว, อุตฺตริํ กรณียํ? ‘โภชเน มตฺตญฺญุโน ภวิสฺสาม, ปฏิสงฺขา โยนิโส อาหารํ อาหริสฺสาม, เนว ทวาย น มทาย น มณฺฑนาย น วิภูสนาย ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ฐิติยา ยาปนาย, วิหิํสูปรติยา, พฺรหฺมจริยานุคฺคหาย, อิติ ปุราณญฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขาม นวญฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสาม, ยาตฺรา จ โน ภวิสฺสติ, อนวชฺชตา จ, ผาสุ วิหาโร จา’ติ เอวญฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพํฯ สิยา โข ปน, ภิกฺขเว, ตุมฺหากํ เอวมสฺส – ‘หิโรตฺตปฺเปนมฺห สมนฺนาคตา, ปริสุทฺโธ โน กายสมาจาโร, ปริสุทฺโธ วจีสมาจาโร, ปริสุทฺโธ มโนสมาจาโร, ปริสุทฺโธ อาชีโว, อินฺทฺริเยสุมฺห คุตฺตทฺวารา, โภชเน มตฺตญฺญุโน; อลเมตฺตาวตา กตเมตฺตาวตา, อนุปฺปตฺโต โน สามญฺญตฺโถ, นตฺถิ โน กิญฺจิ อุตฺตริํ กรณีย’นฺติ ตาวตเกเนว ตุฏฺฐิํ อาปชฺเชยฺยาถฯ อาโรจยามิ โว, ภิกฺขเว, ปฏิเวทยามิ โว, ภิกฺขเว – ‘มา โว, สามญฺญตฺถิกานํ สตํ สามญฺญตฺโถ ปริหายิ สติ อุตฺตริํ กรณีเย’ฯ

[423] ‘‘กิญฺจ , ภิกฺขเว, อุตฺตริํ กรณียํ? ‘ชาคริยํ อนุยุตฺตา ภวิสฺสาม, ทิวสํ จงฺกเมน นิสชฺชาย อาวรณีเยหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปริโสเธสฺสามฯ รตฺติยา ปฐมํ ยามํ จงฺกเมน นิสชฺชาย อาวรณีเยหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปริโสเธสฺสามฯ รตฺติยา มชฺฌิมํ ยามํ ทกฺขิเณน ปสฺเสน สีหเสยฺยํ กปฺเปสฺสาม ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย, สโต สมฺปชาโน อุฏฺฐานสญฺญํ มนสิ กริตฺวาฯ รตฺติยา ปจฺฉิมํ ยามํ ปจฺจุฏฺฐาย จงฺกเมน นิสชฺชาย อาวรณีเยหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปริโสเธสฺสามา’ติ, เอวญฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพํฯ

สิยา โข ปน, ภิกฺขเว, ตุมฺหากํ เอวมสฺส – ‘หิโรตฺตปฺเปนมฺห สมนฺนาคตา, ปริสุทฺโธ โน กายสมาจาโร, ปริสุทฺโธ วจีสมาจาโร, ปริสุทฺโธ มโนสมาจาโร, ปริสุทฺโธ อาชีโว, อินฺทฺริเยสุมฺห คุตฺตทฺวารา, โภชเน มตฺตญฺญุโน, ชาคริยํ อนุยุตฺตา; อลเมตฺตาวตา กตเมตฺตาวตา, อนุปฺปตฺโต โน สามญฺญตฺโถ, นตฺถิ โน กิญฺจิ อุตฺตริํ กรณีย’นฺติ, ตาวตเกเนว ตุฏฺฐิํ อาปชฺเชยฺยาถฯ อาโรจยามิ โว, ภิกฺขเว, ปฏิเวทยามิ โว, ภิกฺขเว – ‘มา โว, สามญฺญตฺถิกานํ สตํ สามญฺญตฺโถ ปริหายิ สติ อุตฺตริํ กรณีเย’ฯ

[424] ‘‘กิญฺจ, ภิกฺขเว, อุตฺตริํ กรณียํ? ‘สติสมฺปชญฺเญน สมนฺนาคตา ภวิสฺสาม, อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต สมฺปชานการี, อาโลกิเต วิโลกิเต สมฺปชานการี, สมิญฺชิเต ปสาริเต สมฺปชานการี, สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณ สมฺปชานการี, อสิเต ปีเต ขายิเต สายิเต สมฺปชานการี, อุจฺจารปสฺสาวกมฺเม สมฺปชานการี, คเต ฐิเต นิสินฺเน สุตฺเต ชาคริเต ภาสิเต ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี’ติ, เอวญฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพํฯ สิยา โข ปน, ภิกฺขเว, ตุมฺหากํ เอวมสฺส – ‘หิโรตฺตปฺเปนมฺห สมนฺนาคตา, ปริสุทฺโธ โน กายสมาจาโร, ปริสุทฺโธ วจีสมาจาโร, ปริสุทฺโธ มโนสมาจาโร, ปริสุทฺโธ อาชีโว, อินฺทฺริเยสุมฺห คุตฺตทฺวารา, โภชเน มตฺตญฺญุโน, ชาคริยํ อนุยุตฺตา, สติสมฺปชญฺเญน สมนฺนาคตา; อลเมตฺตาวตา กตเมตฺตาวตา, อนุปฺปตฺโต โน สามญฺญตฺโถ, นตฺถิ โน กิญฺจิ อุตฺตริํ กรณีย’นฺติ ตาวตเกเนว ตุฏฺฐิํ อาปชฺเชยฺยาถฯ อาโรจยามิ โว, ภิกฺขเว, ปฏิเวทยามิ โว, ภิกฺขเว – ‘มา โว, สามญฺญตฺถิกานํ สตํ สามญฺญตฺโถ ปริหายิ สติ อุตฺตริํ กรณีเย’ฯ

[425] ‘‘กิญฺจ, ภิกฺขเว, อุตฺตริํ กรณียํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ – อรญฺญํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปฺปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปุญฺชํฯ โส ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา, อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สติํ อุปฏฺฐเปตฺวาฯ

โส อภิชฺฌํ โลเก ปหาย วิคตาภิชฺเฌน เจตสา วิหรติ, อภิชฺฌาย จิตฺตํ ปริโสเธติ; พฺยาปาทปโทสํ ปหาย อพฺยาปนฺนจิตฺโต วิหรติ, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี , พฺยาปาทปโทสา จิตฺตํ ปริโสเธติ; ถีนมิทฺธํ ปหาย วิคตถีนมิทฺโธ วิหรติ, อาโลกสญฺญี สโต สมฺปชาโน, ถีนมิทฺธา จิตฺตํ ปริโสเธติ; อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหาย อนุทฺธโต วิหรติ , อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจา จิตฺตํ ปริโสเธติ; วิจิกิจฺฉํ ปหาย ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิหรติ, อกถํกถี กุสเลสุ ธมฺเมสุ, วิจิกิจฺฉาย จิตฺตํ ปริโสเธติฯ

[426] ‘‘เสยฺยถาปิ , ภิกฺขเว, ปุริโส อิณํ อาทาย กมฺมนฺเต ปโยเชยฺยฯ ตสฺส เต กมฺมนฺตา สมิชฺเฌยฺยุํ [สมฺปชฺเชยฺยุํ (สฺยา. กํ. ก.)]ฯ โส ยานิ จ โปราณานิ อิณมูลานิ ตานิ จ พฺยนฺตี [พฺยนฺติํ (ก.), พฺยนฺติ (ปี.)] กเรยฺย, สิยา จสฺส อุตฺตริํ อวสิฏฺฐํ ทารภรณายฯ ตสฺส เอวมสฺส – ‘อหํ โข ปุพฺเพ อิณํ อาทาย กมฺมนฺเต ปโยเชสิํ, ตสฺส เม เต กมฺมนฺตา สมิชฺฌิํสุฯ โสหํ ยานิ จ โปราณานิ อิณมูลานิ ตานิ จ พฺยนฺตี อกาสิํ, อตฺถิ จ เม อุตฺตริํ อวสิฏฺฐํ ทารภรณายา’ติฯ โส ตโตนิทานํ ลเภถ ปาโมชฺชํ, อธิคจฺเฉยฺย โสมนสฺสํฯ

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส อาพาธิโก อสฺส ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน, ภตฺตญฺจสฺส นจฺฉาเทยฺย, น จสฺส กาเย พลมตฺตาฯ โส อปเรน สมเยน ตมฺหา อาพาธา มุจฺเจยฺย, ภตฺตญฺจสฺส ฉาเทยฺย, สิยา จสฺส กาเย พลมตฺตาฯ ตสฺส เอวมสฺส – ‘อหํ โข ปุพฺเพ อาพาธิโก อโหสิํ ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน, ภตฺตญฺจ เม นจฺฉาเทสิ, น จ เม อาสิ กาเย พลมตฺตา, โสมฺหิ เอตรหิ ตมฺหา อาพาธา มุตฺโต, ภตฺตญฺจ เม ฉาเทติ, อตฺถิ จ เม กาเย พลมตฺตา’ติฯ โส ตโตนิทานํ ลเภถ ปาโมชฺชํ, อธิคจฺเฉยฺย โสมนสฺสํฯ

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส พนฺธนาคาเร พทฺโธ อสฺสฯ โส อปเรน สมเยน ตมฺหา พนฺธนา มุจฺเจยฺย โสตฺถินา อพฺภเยน [อพฺยเยน (สี. ปี.)], น จสฺส กิญฺจิ โภคานํ วโยฯ ตสฺส เอวมสฺส – ‘อหํ โข ปุพฺเพ พนฺธนาคาเร พทฺโธ อโหสิํ, โสมฺหิ เอตรหิ ตมฺหา พนฺธนา มุตฺโต, โสตฺถินา อพฺภเยน, นตฺถิ จ เม กิญฺจิ โภคานํ วโย’ติฯ โส ตโตนิทานํ ลเภถ ปาโมชฺชํ, อธิคจฺเฉยฺย โสมนสฺสํฯ

‘‘เสยฺยถาปิ , ภิกฺขเว, ปุริโส ทาโส อสฺส อนตฺตาธีโน ปราธีโน น เยนกามํคโมฯ โส อปเรน สมเยน ตมฺหา ทาสพฺยา มุจฺเจยฺย อตฺตาธีโน อปราธีโน ภุชิสฺโส เยนกามํคโมฯ

ตสฺส เอวมสฺส – ‘อหํ โข ปุพฺเพ ทาโส อโหสิํ อนตฺตาธีโน ปราธีโน น เยนกามํคโม, โสมฺหิ เอตรหิ ตมฺหา ทาสพฺยา มุตฺโต อตฺตาธีโน อปราธีโน ภุชิสฺโส เยนกามํคโม’ติฯ โส ตโตนิทานํ ลเภถ ปาโมชฺชํ, อธิคจฺเฉยฺย โสมนสฺสํฯ

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส สธโน สโภโค กนฺตารทฺธานมคฺคํ ปฏิปชฺเชยฺย [สีลกฺขนฺธวคฺคปาฬิยา กิญฺจิ วิสทิสํ]ฯ โส อปเรน สมเยน ตมฺหา กนฺตารา นิตฺถเรยฺย โสตฺถินา อพฺภเยน, น จสฺส กิญฺจิ โภคานํ วโยฯ ตสฺส เอวมสฺส – ‘อหํ โข ปุพฺเพ สธโน สโภโค กนฺตารทฺธานมคฺคํ ปฏิปชฺชิํฯ โสมฺหิ เอตรหิ ตมฺหา กนฺตารา นิตฺถิณฺโณ โสตฺถินา อพฺภเยน, นตฺถิ จ เม กิญฺจิ โภคานํ วโย’ติฯ โส ตโตนิทานํ ลเภถ ปาโมชฺชํ, อธิคจฺเฉยฺย โสมนสฺสํฯ

‘‘เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยถา อิณํ ยถา โรคํ ยถา พนฺธนาคารํ ยถา ทาสพฺยํ ยถา กนฺตารทฺธานมคฺคํ, อิเม ปญฺจ นีวรเณ อปฺปหีเน อตฺตนิ สมนุปสฺสติฯ เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อาณณฺยํ ยถา อาโรคฺยํ ยถา พนฺธนาโมกฺขํ ยถา ภุชิสฺสํ ยถา เขมนฺตภูมิํ; เอวเมว ภิกฺขุ อิเม ปญฺจ นีวรเณ ปหีเน อตฺตนิ สมนุปสฺสติฯ

[427] ‘‘โส อิเม ปญฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปญฺญาย ทุพฺพลีกรเณ, วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ, สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ โส อิมเมว กายํ วิเวกเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิญฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส วิเวกเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหติฯ เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทกฺโข นฺหาปโก [นหาปโก (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วา นฺหาปกนฺเตวาสี วา กํสถาเล นฺหานียจุณฺณานิ [นหานียจุณฺณานิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อากิริตฺวา อุทเกน ปริปฺโผสกํ ปริปฺโผสกํ สนฺเนยฺยฯ สายํ นฺหานียปิณฺฑิ สฺเนหานุคตา สฺเนหปเรตา สนฺตรพาหิรา, ผุฏา สฺเนเหน น จ ปคฺฆริณีฯ เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ วิเวกเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิญฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส วิเวกเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหติฯ

[428] ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ โส อิมเมว กายํ สมาธิเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิญฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส สมาธิเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหติฯ เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุทกรหโท อุพฺภิโททโก [อุพฺภิโตทโก (ก.)]ฯ ตสฺส เนวสฺส ปุรตฺถิมาย ทิสาย อุทกสฺส อายมุขํ, น ปจฺฉิมาย ทิสาย อุทกสฺส อายมุขํ, น อุตฺตราย ทิสาย อุทกสฺส อายมุขํ, น ทกฺขิณาย ทิสาย อุทกสฺส อายมุขํ, เทโว จ น กาเลน กาลํ สมฺมาธารํ อนุปฺปเวจฺเฉยฺยฯ อถ โข ตมฺหาว อุทกรหทา สีตา วาริธารา อุพฺภิชฺชิตฺวา ตเมว อุทกรหทํ สีเตน วารินา อภิสนฺเทยฺย ปริสนฺเทยฺย ปริปูเรยฺย ปริปฺผเรยฺย, นาสฺส กิญฺจิ สพฺพาวโต อุทกรหทสฺส สีเตน วารินา อปฺผุฏํ อสฺสฯ เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ สมาธิเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิญฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส สมาธิเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหติฯ

[429] ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ, สโต จ สมฺปชาโน, สุขญฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ โส อิมเมว กายํ นิปฺปีติเกน สุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิญฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส นิปฺปีติเกน สุเขน อปฺผุฏํ โหติฯ เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุปฺปลินิยํ วา ปทุมินิยํ วา ปุณฺฑรีกินิยํ วา อปฺเปกจฺจานิ อุปฺปลานิ วา ปทุมานิ วา ปุณฺฑรีกานิ วา อุทเก ชาตานิ อุทเก สํวฑฺฒานิ อุทกานุคฺคตานิ อนฺโตนิมุคฺคโปสีนิ, ตานิ ยาว จคฺคา ยาว จ มูลา สีเตน วารินา อภิสนฺนานิ ปริสนฺนานิ ปริปูรานิ ปริปฺผุฏานิ, นาสฺส [น เนสํ (สี.)] กิญฺจิ สพฺพาวตํ อุปฺปลานํ วา ปทุมานํ วา ปุณฺฑรีกานํ วา สีเตน วารินา อปฺผุฏํ อสฺสฯ เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ นิปฺปีติเกน สุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิญฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส นิปฺปีติเกน สุเขน อปฺผุฏํ โหติฯ

[430] ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา, ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา, อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิํ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ โส อิมเมว กายํ ปริสุทฺเธน เจตสา ปริโยทาเตน ผริตฺวา นิสินฺโน โหติ , นาสฺส กิญฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส ปริสุทฺเธน เจตสา ปริโยทาเตน อปฺผุฏํ โหติฯ เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส โอทาเตน วตฺเถน สสีสํ ปารุเปตฺวา นิสินฺโน อสฺส, นาสฺส กิญฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส โอทาเตน วตฺเถน อปฺผุฏํ อสฺสฯ เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ ปริสุทฺเธน เจตสา ปริโยทาเตน ผริตฺวา นิสินฺโน โหติ, นาสฺส กิญฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส ปริสุทฺเธน เจตสา ปริโยทาเตน อปฺผุฏํ โหติฯ

[431] ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ฐิเต อาเนญฺชปฺปตฺเต ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติญาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติฯ โส อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาติํ, ทฺเวปิ ชาติโย…เป.… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติฯ เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส สกมฺหา คามา อญฺญํ คามํ คจฺเฉยฺย, ตมฺหาปิ คามา อญฺญํ คามํ คจฺเฉยฺย, โส ตมฺหา คามา สกํเยว คามํ ปจฺจาคจฺเฉยฺยฯ ตสฺส เอวมสฺส – ‘อหํ โข สกมฺหา คามา อมุํ คามํ อคจฺฉิํ [อคจฺฉิํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], ตตฺรปิ เอวํ อฏฺฐาสิํ เอวํ นิสีทิํ เอวํ อภาสิํ เอวํ ตุณฺหี อโหสิํ; ตมฺหาปิ คามา อมุํ คามํ อคจฺฉิํ, ตตฺรปิ เอวํ อฏฺฐาสิํ เอวํ นิสีทิํ เอวํ อภาสิํ เอวํ ตุณฺหี อโหสิํ; โสมฺหิ ตมฺหา คามา สกํเยว คามํ ปจฺจาคโต’ติฯ เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาติํ ทฺเวปิ ชาติโย…เป.… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติฯ

[432] ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ฐิเต อาเนญฺชปฺปตฺเต สตฺตานํ จุตูปปาตญาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติฯ

โส ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต, ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ…เป.… เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทฺเว อคารา สทฺวารา [สนฺนทฺวารา (ก.)]ฯ ตตฺถ จกฺขุมา ปุริโส มชฺเฌ ฐิโต ปสฺเสยฺย มนุสฺเส เคหํ ปวิสนฺเตปิ นิกฺขมนฺเตปิ, อนุจงฺกมนฺเตปิ อนุวิจรนฺเตปิ ฯ เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ…เป.…ฯ

[433] ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ฐิเต อาเนญฺชปฺปตฺเต อาสวานํ ขยญาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติฯ โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติฯ ‘อิเม อาสวา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติฯ ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติฯ วิมุตฺตสฺมิํ วิมุตฺตมิติ ญาณํ โหติ – ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาติฯ

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปพฺพตสงฺเขเป อุทกรหโท อจฺโฉ วิปฺปสนฺโน อนาวิโลฯ ตตฺถ จกฺขุมา ปุริโส ตีเร ฐิโต ปสฺเสยฺย สิปฺปิสมฺพุกมฺปิ [สิปฺปิกสมฺพุกมฺปิ (สฺยา. กํ. ก.)] สกฺขรกถลมฺปิ มจฺฉคุมฺพมฺปิ, จรนฺตมฺปิ ติฏฺฐนฺตมฺปิฯ ตสฺส เอวมสฺส – ‘อยํ โข อุทกรหโท อจฺโฉ วิปฺปสนฺโน อนาวิโลฯ ตตฺริเม สิปฺปิสมฺพุกาปิ สกฺขรกถลาปิ มจฺฉคุมฺพาปิ จรนฺติปิ ติฏฺฐนฺติปีติ ฯ เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป.… นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาติฯ

[434] ‘‘อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘สมโณ’ อิติปิ ‘พฺราหฺมโณ’อิติปิ ‘นฺหาตโก’อิติปิ ‘เวทคู’อิติปิ ‘โสตฺติโย’อิติปิ ‘อริโย’อิติปิ ‘อรหํ’อิติปิฯ

กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมโณ โหติ? สมิตาสฺส โหนฺติ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา, สํกิเลสิกา, โปโนพฺภวิกา, สทรา, ทุกฺขวิปากา , อายติํ, ชาติชรามรณิยาฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมโณ โหติฯ

‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ พฺราหฺมโณ โหติ? พาหิตาสฺส โหนฺติ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา , สํกิเลสิกา, โปโนพฺภวิกา, สทรา, ทุกฺขวิปากา, อายติํ, ชาติชรามรณิยาฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ พฺราหฺมโณ โหติฯ

‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ นฺหาตโก [นหาตโก (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] โหติ? นฺหาตาสฺส โหนฺติ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา, สํกิเลสิกา, โปโนพฺภวิกา, สทรา, ทุกฺขวิปากา, อายติํ, ชาติชรามรณิยาฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ นฺหาตโก โหติฯ

‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เวทคู โหติ? วิทิตาสฺส โหนฺติ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา, สํกิเลสิกา, โปโนพฺภวิกา, สทรา, ทุกฺขวิปากา, อายติํ, ชาติชรามรณิยาฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เวทคู โหติฯ

‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โสตฺติโย โหติ? นิสฺสุตาสฺส โหนฺติ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา, สํกิเลสิกา, โปโนพฺภวิกา, สทรา, ทุกฺขวิปากา, อายติํ, ชาติชรามรณิยาฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โสตฺติโย โหติฯ

‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อริโย โหติ ? อารกาสฺส โหนฺติ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา, สํกิเลสิกา, โปโนพฺภวิกา, สทรา, ทุกฺขวิปากา, อายติํ, ชาติชรามรณิยาฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อริโย โหติฯ

‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรหํ โหติ? อารกาสฺส โหนฺติ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา, สํกิเลสิกา, โปโนพฺภวิกา, สทรา, ทุกฺขวิปากา, อายติํ, ชาติชรามรณิยาฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรหํ โหตี’’ติฯ

อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติฯ

มหาอสฺสปุรสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ นวมํฯ

10. จูฬอสฺสปุรสุตฺตํ

[435] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา องฺเคสุ วิหรติ อสฺสปุรํ นาม องฺคานํ นิคโมฯ ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติฯ ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํฯ ภควา เอตทโวจ – ‘‘สมณา สมณาติ โว, ภิกฺขเว, ชโน สญฺชานาติฯ ตุมฺเห จ ปน ‘เก ตุมฺเห’ติ ปุฏฺฐา สมานา ‘สมณามฺหา’ติ ปฏิชานาถฯ เตสํ โว, ภิกฺขเว, เอวํสมญฺญานํ สตํ เอวํปฏิญฺญานํ สตํ – ‘ยา สมณสามีจิปฺปฏิปทา ตํ ปฏิปชฺชิสฺสาม; เอวํ โน อยํ อมฺหากํ สมญฺญา จ สจฺจา ภวิสฺสติ ปฏิญฺญา จ ภูตา; เยสญฺจ มยํ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปริภุญฺชาม, เตสํ เต การา อมฺเหสุ มหปฺผลา ภวิสฺสนฺติ มหานิสํสา, อมฺหากญฺเจวายํ ปพฺพชฺชา อวญฺฌา ภวิสฺสติ สผลา สอุทฺรยา’ติฯ เอวญฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพํฯ

[436] ‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น สมณสามีจิปฺปฏิปทํ ปฏิปนฺโน โหติ? ยสฺส กสฺสจิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อภิชฺฌาลุสฺส อภิชฺฌา อปฺปหีนา โหติ, พฺยาปนฺนจิตฺตสฺส พฺยาปาโท อปฺปหีโน โหติ, โกธนสฺส โกโธ อปฺปหีโน โหติ, อุปนาหิสฺส อุปนาโห อปฺปหีโน โหติ, มกฺขิสฺส มกฺโข อปฺปหีโน โหติ, ปฬาสิสฺส ปฬาโส อปฺปหีโน โหติ, อิสฺสุกิสฺส อิสฺสา อปฺปหีนา โหติ, มจฺฉริสฺส มจฺฉริยํ อปฺปหีนํ โหติ , สฐสฺส สาเฐยฺยํ อปฺปหีนํ โหติ, มายาวิสฺส มายา อปฺปหีนา โหติ, ปาปิจฺฉสฺส ปาปิกา อิจฺฉา อปฺปหีนา โหติ, มิจฺฉาทิฏฺฐิกสฺส มิจฺฉาทิฏฺฐิ อปฺปหีนา โหติ – อิเมสํ โข อหํ, ภิกฺขเว, สมณมลานํ สมณโทสานํ สมณกสฏานํ อาปายิกานํ ฐานานํ ทุคฺคติเวทนิยานํ อปฺปหานา ‘น สมณสามีจิปฺปฏิปทํ ปฏิปนฺโน’ติ วทามิฯ เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มตชํ นาม อาวุธชาตํ อุภโตธารํ ปีตนิสิตํฯ ตทสฺส สงฺฆาฏิยา สมฺปารุตํ สมฺปลิเวฐิตํฯ ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมสฺส ภิกฺขุโน ปพฺพชฺชํ วทามิฯ

[437] ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, สงฺฆาฏิกสฺส สงฺฆาฏิธารณมตฺเตน สามญฺญํ วทามิฯ นาหํ, ภิกฺขเว, อเจลกสฺส อเจลกมตฺเตน สามญฺญํ วทามิฯ นาหํ, ภิกฺขเว, รโชชลฺลิกสฺส รโชชลฺลิกมตฺเตน สามญฺญํ วทามิฯ