เมนู

2. มหาโคสิงฺคสุตฺตํ

[332] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โคสิงฺคสาลวนทาเย วิหรติ สมฺพหุเลหิ อภิญฺญาเตหิ อภิญฺญาเตหิ เถเรหิ สาวเกหิ สทฺธิํ – อายสฺมตา จ สาริปุตฺเตน อายสฺมตา จ มหาโมคฺคลฺลาเนน อายสฺมตา จ มหากสฺสเปน อายสฺมตา จ อนุรุทฺเธน อายสฺมตา จ เรวเตน อายสฺมตา จ อานนฺเทน, อญฺเญหิ จ อภิญฺญาเตหิ อภิญฺญาเตหิ เถเรหิ สาวเกหิ สทฺธิํฯ อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺฐิโต เยนายสฺมา มหากสฺสโป เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหากสฺสปํ เอตทโวจ – ‘‘อายามาวุโส, กสฺสป, เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิสฺสาม ธมฺมสฺสวนายา’’ติฯ ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา มหากสฺสโป อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส ปจฺจสฺโสสิฯ อถ โข อายสฺมา จ มหาโมคฺคลฺลาโน อายสฺมา จ มหากสฺสโป อายสฺมา จ อนุรุทฺโธ เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิํสุ ธมฺมสฺสวนายฯ อทฺทสา โข อายสฺมา อานนฺโท อายสฺมนฺตญฺจ มหาโมคฺคลฺลานํ อายสฺมนฺตญฺจ มหากสฺสปํ อายสฺมนฺตญฺจ อนุรุทฺธํ เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมนฺเต ธมฺมสฺสวนายฯ ทิสฺวาน เยนายสฺมา เรวโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ เรวตํ เอตทโวจ – ‘‘อุปสงฺกมนฺตา โข อมู, อาวุโส [อายสฺมนฺตาวุโส (ก.)] เรวต, สปฺปุริสา เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตน ธมฺมสฺสวนายฯ อายามาวุโส เรวต, เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิสฺสาม ธมฺมสฺสวนายา’’ติฯ ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา เรวโต อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปจฺจสฺโสสิฯ อถ โข อายสฺมา จ เรวโต อายสฺมา จ อานนฺโท เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิํสุ ธมฺมสฺสวนายฯ

[333] อทฺทสา โข อายสฺมา สาริปุตฺโต อายสฺมนฺตญฺจ เรวตํ อายสฺมนฺตญฺจ อานนฺทํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺเตฯ ทิสฺวาน อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘เอตุ โข อายสฺมา อานนฺโท! สฺวาคตํ อายสฺมโต อานนฺทสฺส ภควโต อุปฏฺฐากสฺส ภควโต สนฺติกาวจรสฺส! รมณียํ, อาวุโส อานนฺท, โคสิงฺคสาลวนํ, โทสินา รตฺติ, สพฺพผาลิผุลฺลา [สพฺพปาลิผุลฺลา (สี.)] สาลา, ทิพฺพา, มญฺเญ, คนฺธา สมฺปวนฺติ; กถํรูเปน, อาวุโส อานนฺท, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยา’’ติ? ‘‘อิธาวุโส สาริปุตฺต , ภิกฺขุ พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโยฯ

เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถา สพฺยญฺชนา; เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ, ธาตา [ธตา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], วจสา ปริจิตา, มนสานุเปกฺขิตา, ทิฏฺฐิยา สุปฺปฏิวิทฺธาฯ โส จตสฺสนฺนํ ปริสานํ ธมฺมํ เทเสติ ปริมณฺฑเลหิ ปทพฺยญฺชเนหิ อนุปฺปพนฺเธหิ [อปฺปพทฺเธหิ (สี. ปี.)] อนุสยสมุคฺฆาตายฯ เอวรูเปน โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยา’’ติฯ

[334] เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโต อายสฺมนฺตํ เรวตํ เอตทโวจ – ‘‘พฺยากตํ โข, อาวุโส เรวต, อายสฺมตา อานนฺเทน ยถาสกํ ปฏิภานํฯ ตตฺถ ทานิ มยํ อายสฺมนฺตํ เรวตํ ปุจฺฉาม – ‘รมณียํ, อาวุโส เรวต, โคสิงฺคสาลวนํ, โทสินา รตฺติ, สพฺพผาลิผุลฺลา สาลา, ทิพฺพา, มญฺเญ, คนฺธา สมฺปวนฺติ; กถํรูเปน, อาวุโส เรวต, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยา’’’ติ? ‘‘อิธาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปฏิสลฺลานาราโม โหติ ปฏิสลฺลานรโต, อชฺฌตฺตํ เจโตสมถมนุยุตฺโต อนิรากตชฺฌาโน, วิปสฺสนาย สมนฺนาคโต, พฺรูเหตา สุญฺญาคารานํฯ เอวรูเปน โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยา’’ติฯ

[335] เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโต อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ เอตทโวจ – ‘‘พฺยากตํ โข, อาวุโส อนุรุทฺธ, อายสฺมตา เรวเตน ยถาสกํ ปฏิภานํฯ ตตฺถ ทานิ มยํ อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ ปุจฺฉาม – ‘รมณียํ, อาวุโส อนุรุทฺธ, โคสิงฺคสาลวนํ, โทสินา รตฺติ, สพฺพผาลิผุลฺลา สาลา, ทิพฺพา, มญฺเญ, คนฺธา สมฺปวนฺติ; กถํรูเปน, อาวุโส อนุรุทฺธ, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยา’’’ติ? ‘‘อิธาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สหสฺสํ โลกานํ โวโลเกติฯ เสยฺยถาปิ, อาวุโส สาริปุตฺต, จกฺขุมา ปุริโส อุปริปาสาทวรคโต สหสฺสํ เนมิมณฺฑลานํ โวโลเกยฺย; เอวเมว โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สหสฺสํ โลกานํ โวโลเกติฯ เอวรูเปน โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยา’’ติฯ

[336] เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโต อายสฺมนฺตํ มหากสฺสปํ เอตทโวจ – ‘‘พฺยากตํ โข, อาวุโส กสฺสป, อายสฺมตา อนุรุทฺเธน ยถาสกํ ปฏิภานํฯ ตตฺถ ทานิ มยํ อายสฺมนฺตํ มหากสฺสปํ ปุจฺฉาม – ‘รมณียํ, อาวุโส กสฺสป, โคสิงฺคสาลวนํ, โทสินา รตฺติ, สพฺพผาลิผุลฺลา สาลา, ทิพฺพา, มญฺเญ, คนฺธา สมฺปวนฺติ; กถํรูเปน, อาวุโส กสฺสป, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยา’’’ติ? ‘‘อิธาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุ อตฺตนา จ อารญฺญิโก โหติ อารญฺญิกตฺตสฺส จ วณฺณวาที, อตฺตนา จ ปิณฺฑปาติโก โหติ ปิณฺฑปาติกตฺตสฺส จ วณฺณวาที, อตฺตนา จ ปํสุกูลิโก โหติ ปํสุกูลิกตฺตสฺส จ วณฺณวาที, อตฺตนา จ เตจีวริโก โหติ เตจีวริกตฺตสฺส จ วณฺณวาที, อตฺตนา จ อปฺปิจฺโฉ โหติ อปฺปิจฺฉตาย จ วณฺณวาที, อตฺตนา จ สนฺตุฏฺโฐ โหติ สนฺตุฏฺฐิยา จ วณฺณวาที, อตฺตนา จ ปวิวิตฺโต โหติ ปวิเวกสฺส จ วณฺณวาที, อตฺตนา จ อสํสฏฺโฐ โหติ อสํสคฺคสฺส จ วณฺณวาที, อตฺตนา จ อารทฺธวีริโย โหติ วีริยารมฺภสฺส จ วณฺณวาที, อตฺตนา จ สีลสมฺปนฺโน โหติ สีลสมฺปทาย จ วณฺณวาที, อตฺตนา จ สมาธิสมฺปนฺโน โหติ สมาธิสมฺปทาย จ วณฺณวาที, อตฺตนา จ ปญฺญาสมฺปนฺโน โหติ ปญฺญาสมฺปทาย จ วณฺณวาที, อตฺตนา จ วิมุตฺติสมฺปนฺโน โหติ วิมุตฺติสมฺปทาย จ วณฺณวาที, อตฺตนา จ วิมุตฺติญาณทสฺสนสมฺปนฺโน โหติ วิมุตฺติญาณทสฺสนสมฺปทาย จ วณฺณวาทีฯ เอวรูเปน โข, อาวุโส สาริปุตฺต , ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยา’’ติฯ

[337] เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโต อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ เอตทโวจ – ‘‘พฺยากตํ โข, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, อายสฺมตา มหากสฺสเปน ยถาสกํ ปฏิภานํฯ ตตฺถ ทานิ มยํ อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ ปุจฺฉาม – ‘รมณียํ, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, โคสิงฺคสาลวนํ, โทสินา รตฺติ, สพฺพผาลิผุลฺลา สาลา, ทิพฺพา, มญฺเญ, คนฺธา สมฺปวนฺติ; กถํรูเปน, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยา’’’ติ? ‘‘อิธาวุโส สาริปุตฺต, ทฺเว ภิกฺขู อภิธมฺมกถํ กเถนฺติ, เต อญฺญมญฺญํ ปญฺหํ ปุจฺฉนฺติ, อญฺญมญฺญสฺส ปญฺหํ ปุฏฺฐา วิสฺสชฺเชนฺติ, โน จ สํสาเทนฺติ [สํสาเรนฺติ (ก.)], ธมฺมี จ เนสํ กถา ปวตฺตินี โหติฯ เอวรูเปน โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยา’’ติฯ

[338] อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘พฺยากตํ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, อมฺเหหิ สพฺเพเหว ยถาสกํ ปฏิภานํฯ ตตฺถ ทานิ มยํ อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ ปุจฺฉาม – ‘รมณียํ, อาวุโส สาริปุตฺต, โคสิงฺคสาลวนํ, โทสินา รตฺติ, สพฺพผาลิผุลฺลา สาลา, ทิพฺพา, มญฺเญ, คนฺธา สมฺปวนฺติ; กถํรูเปน, อาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยา’’’ติ? ‘‘อิธาวุโส โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขุ จิตฺตํ วสํ วตฺเตติ, โน จ ภิกฺขุ จิตฺตสฺส วเสน วตฺตติฯ โส ยาย วิหารสมาปตฺติยา อากงฺขติ ปุพฺพณฺหสมยํ วิหริตุํ, ตาย วิหารสมาปตฺติยา ปุพฺพณฺหสมยํ วิหรติ; ยาย วิหารสมาปตฺติยา อากงฺขติ มชฺฌนฺหิกสมยํ [มชฺฌนฺติกสมยํ (สี. สฺยา. กํ. ปี. ก.)] วิหริตุํ, ตาย วิหารสมาปตฺติยา มชฺฌนฺหิกสมยํ วิหรติ; ยาย วิหารสมาปตฺติยา อากงฺขติ สายนฺหสมยํ วิหริตุํ, ตาย วิหารสมาปตฺติยา สายนฺหสมยํ วิหรติฯ เสยฺยถาปิ, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, รญฺโญ วา ราชมหามตฺตสฺส วา นานารตฺตานํ ทุสฺสานํ ทุสฺสกรณฺฑโก ปูโร อสฺสฯ โส ยญฺญเทว ทุสฺสยุคํ อากงฺเขยฺย ปุพฺพณฺหสมยํ ปารุปิตุํ, ตํ ตเทว ทุสฺสยุคํ ปุพฺพณฺหสมยํ ปารุเปยฺย; ยญฺญเทว ทุสฺสยุคํ อากงฺเขยฺย มชฺฌนฺหิกสมยํ ปารุปิตุํ, ตํ ตเทว ทุสฺสยุคํ มชฺฌนฺหิกสมยํ ปารุเปยฺย; ยญฺญเทว ทุสฺสยุคํ อากงฺเขยฺย สายนฺหสมยํ ปารุปิตุํ, ตํ ตเทว ทุสฺสยุคํ สายนฺหสมยํ ปารุเปยฺยฯ เอวเมว โข, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขุ จิตฺตํ วสํ วตฺเตติ, โน จ ภิกฺขุ จิตฺตสฺส วเสน วตฺตติฯ โส ยาย วิหารสมาปตฺติยา อากงฺขติ ปุพฺพณฺหสมยํ วิหริตุํ, ตาย วิหารสมาปตฺติยา ปุพฺพณฺหสมยํ วิหรติ; ยาย วิหารสมาปตฺติยา อากงฺขติ มชฺฌนฺหิกสมยํ วิหริตุํ, ตาย วิหารสมาปตฺติยา มชฺฌนฺหิกสมยํ วิหรติ; ยาย วิหารสมาปตฺติยา อากงฺขติ สายนฺหสมยํ วิหริตุํ, ตาย วิหารสมาปตฺติยา สายนฺหสมยํ วิหรติฯ เอวรูเปน โข, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยา’’ติฯ

[339] อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เต อายสฺมนฺเต เอตทโวจ – ‘‘พฺยากตํ โข, อาวุโส, อมฺเหหิ สพฺเพเหว ยถาสกํ ปฏิภานํฯ

อายามาวุโส, เยน ภควา เตนุปสงฺกมิสฺสาม; อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ภควโต อาโรเจสฺสามฯ ยถา โน ภควา พฺยากริสฺสติ ตถา นํ ธาเรสฺสามา’’ติฯ ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต อายสฺมนฺโต อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํฯ อถ โข เต อายสฺมนฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อทฺทสํ โข อหํ, ภนฺเต, อายสฺมนฺตญฺจ เรวตํ อายสฺมนฺตญฺจ อานนฺทํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺเตฯ ทิสฺวาน อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจํ – ‘เอตุ โข อายสฺมา อานนฺโท! สฺวาคตํ อายสฺมโต อานนฺทสฺส ภควโต อุปฏฺฐากสฺส ภควโต สนฺติกาวจรสฺส! รมณียํ, อาวุโส อานนฺท, โคสิงฺคสาลวนํ, โทสินา รตฺติ, สพฺพผาลิผุลฺลา สาลา, ทิพฺพา, มญฺเญ, คนฺธา สมฺปวนฺติ; กถํรูเปน, อาวุโส อานนฺท, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยา’ติ? เอวํ วุตฺเต, ภนฺเต, อายสฺมา อานนฺโท มํ เอตทโวจ – ‘อิธาวุโส, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร…เป.… อนุสยสมุคฺฆาตายฯ เอวรูเปน โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยา’’’ติฯ ‘‘สาธุ สาธุ, สาริปุตฺต! ยถา ตํ อานนฺโทว สมฺมา พฺยากรมาโน พฺยากเรยฺยฯ อานนฺโท หิ, สาริปุตฺต, พหุสฺสุโต สุตธโร สุตสนฺนิจโยฯ เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถา สพฺยญฺชนา; เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ, ธาตา, วจสา ปริจิตา, มนสานุเปกฺขิตา, ทิฏฺฐิยา สุปฺปฏิวิทฺธาฯ โส จตสฺสนฺนํ ปริสานํ ธมฺมํ เทเสติ ปริมณฺฑเลหิ ปทพฺยญฺชเนหิ อนุปฺปพนฺเธหิ อนุสยสมุคฺฆาตายา’’ติฯ

[340] ‘‘เอวํ วุตฺเต, อหํ, ภนฺเต, อายสฺมนฺตํ เรวตํ เอตทโวจํ – ‘พฺยากตํ โข, อาวุโส เรวต อายสฺมตา อานนฺเทน ยถาสกํ ปฏิภานํฯ ตตฺถ ทานิ มยํ อายสฺมนฺตํ เรวตํ ปุจฺฉาม – รมณียํ, อาวุโส เรวต, โคสิงฺคสาลวนํ, โทสินา รตฺติ, สพฺพผาลิผุลฺลา สาลา, ทิพฺพา มญฺเญ คนฺธา สมฺปวนฺติฯ

กถํรูเปน, อาวุโส เรวต, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยา’ติ? เอวํ วุตฺเต, ภนฺเต, อายสฺมา เรวโต มํ เอตทโวจ – ‘อิธาวุโส สาริปุตฺต ภิกฺขุ ปฏิสลฺลานาราโม โหติ ปฏิสลฺลานรโต , อชฺฌตฺตํ เจโตสมถมนุยุตฺโต, อนิรากตชฺฌาโน, วิปสฺสนาย สมนฺนาคโต, พฺรูเหตา สุญฺญาคารานํฯ เอวรูเปน โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยา’’’ติฯ ‘‘สาธุ สาธุ, สาริปุตฺต! ยถา ตํ เรวโตว สมฺมา พฺยากรมาโน พฺยากเรยฺยฯ เรวโต หิ, สาริปุตฺต, ปฏิสลฺลานาราโม ปฏิสลฺลานรโต, อชฺฌตฺตํ เจโตสมถมนุยุตฺโต อนิรากตชฺฌาโน, วิปสฺสนาย สมนฺนาคโต พฺรูเหตา สุญฺญาคาราน’’นฺติฯ

[341] ‘‘เอวํ วุตฺเต, อหํ, ภนฺเต, อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ เอตทโวจํ – ‘พฺยากตํ โข อาวุโส อนุรุทฺธ อายสฺมตา เรวเตน…เป.… กถํรูเปน, อาวุโส อนุรุทฺธ, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยา’ติฯ เอวํ วุตฺเต, ภนฺเต, อายสฺมา อนุรุทฺโธ มํ เอตทโวจ – ‘อิธาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สหสฺสํ โลกานํ โวโลเกติฯ เสยฺยถาปิ, อาวุโส สาริปุตฺต, จกฺขุมา ปุริโส…เป.… เอวรูเปน โข อาวุโส สาริปุตฺต ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยา’’’ติฯ ‘‘สาธุ สาธุ, สาริปุตฺต, ยถา ตํ อนุรุทฺโธว สมฺมา พฺยากรมาโน พฺยากเรยฺยฯ อนุรุทฺโธ หิ, สาริปุตฺต, ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สหสฺสํ โลกานํ โวโลเกตี’’ติฯ

[342] ‘‘เอวํ วุตฺเต, อหํ, ภนฺเต, อายสฺมนฺตํ มหากสฺสปํ เอตทโวจํ – ‘พฺยากตํ โข, อาวุโส กสฺสป อายสฺมตา อนุรุทฺเธน ยถาสกํ ปฏิภานํฯ

ตตฺถ ทานิ มยํ อายสฺมนฺตํ มหากสฺสปํ ปุจฺฉาม…เป.… กถํ รูเปน โข, อาวุโส กสฺสป, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยา’ติ? เอวํ วุตฺเต ภนฺเต, อายสฺมา มหากสฺสโป มํ เอตทโวจ – ‘อิธาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุ อตฺตนา จ อารญฺญิโก โหติ อารญฺญิกตฺตสฺส จ วณฺณวาที, อตฺตนา จ ปิณฺฑปาติโก โหติ…เป.… อตฺตนา จ ปํสุกูลิโก โหติ…เป.… อตฺตนา จ เตจีวริโก โหติ…เป.… อตฺตนา จ อปฺปิจฺโฉ โหติ…เป.… อตฺตนา จ สนฺตุฏฺโฐ โหติ…เป.… อตฺตนา จ ปวิวิตฺโต โหติ…เป.… อตฺตนา จ อสํสฏฺโฐ โหติ…เป.… อตฺตนา จ อารทฺธวีริโย โหติ…เป.… อตฺตนา จ สีลสมฺปนฺโน โหติ…เป.… อตฺตนา จ สมาธิสมฺปนฺโน โหติ…เป.… อตฺตนา จ ปญฺญาสมฺปนฺโน โหติ… อตฺตนา จ วิมุตฺติสมฺปนฺโน โหติ… อตฺตนา จ วิมุตฺติญาณทสฺสนสมฺปนฺโน โหติ วิมุตฺติญาณทสฺสนสมฺปทาย จ วณฺณวาทีฯ เอวรูเปน โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยา’’’ติ ฯ ‘‘สาธุ สาธุ, สาริปุตฺต! ยถา ตํ กสฺสโปว สมฺมา พฺยากรมาโน พฺยากเรยฺยฯ กสฺสโป หิ, สาริปุตฺต, อตฺตนา จ อารญฺญิโก อารญฺญิกตฺตสฺส จ วณฺณวาที, อตฺตนา จ ปิณฺฑปาติโก ปิณฺฑปาติกตฺตสฺส จ วณฺณวาที, อตฺตนา จ ปํสุกูลิโก ปํสุกูลิกตฺตสฺส จ วณฺณวาที, อตฺตนา จ เตจีวริโก เตจีวริกตฺตสฺส จ วณฺณวาที, อตฺตนา จ อปฺปิจฺโฉ อปฺปิจฺฉตาย จ วณฺณวาที, อตฺตนา จ สนฺตุฏฺโฐ สนฺตุฏฺฐิยา จ วณฺณวาที, อตฺตนา จ ปวิวิตฺโต ปวิเวกสฺส จ วณฺณวาที, อตฺตนา จ อสํสฏฺโฐ อสํสคฺคสฺส จ วณฺณวาที, อตฺตนา จ อารทฺธวีริโย วีริยารมฺภสฺส จ วณฺณวาที, อตฺตนา จ สีลสมฺปนฺโน สีลสมฺปทาย จ วณฺณวาที, อตฺตนา จ สมาธิสมฺปนฺโน สมาธิสมฺปทาย จ วณฺณวาที, อตฺตนา จ ปญฺญาสมฺปนฺโน ปญฺญาสมฺปทาย จ วณฺณวาที, อตฺตนา จ วิมุตฺติสมฺปนฺโน วิมุตฺติสมฺปทาย จ วณฺณวาที, อตฺตนา จ วิมุตฺติญาณทสฺสนสมฺปนฺโน วิมุตฺติญาณทสฺสนสมฺปทาย จ วณฺณวาที’’ติฯ

[343] ‘‘เอวํ วุตฺเต, อหํ ภนฺเต อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ เอตทโวจํ – ‘พฺยากตํ โข, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, อายสฺมตา มหากสฺสเปน ยถาสกํ ปฏิภานํฯ ตตฺถ ทานิ มยํ อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ ปุจฺฉาม…เป.… กถํรูเปน, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยา’ติ? เอวํ วุตฺเต, ภนฺเต, อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน มํ เอตทโวจ – ‘อิธาวุโส สาริปุตฺต, ทฺเว ภิกฺขู อภิธมฺมกถํ กเถนฺติฯ เต อญฺญมญฺญํ ปญฺหํ ปุจฺฉนฺติ, อญฺญมญฺญสฺส ปญฺหํ ปุฏฺฐา วิสฺสชฺเชนฺติ, โน จ สํสาเทนฺติ, ธมฺมี จ เนสํ กถา ปวตฺตินี โหติฯ เอวรูเปน โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยา’’’ติฯ ‘‘สาธุ สาธุ, สาริปุตฺต, ยถา ตํ โมคฺคลฺลาโนว สมฺมา พฺยากรมาโน พฺยากเรยฺยฯ โมคฺคลฺลาโน หิ, สาริปุตฺต, ธมฺมกถิโก’’ติฯ

[344] เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อถ ขฺวาหํ, ภนฺเต, อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจํ – ‘พฺยากตํ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, อมฺเหหิ สพฺเพเหว ยถาสกํ ปฏิภานํฯ

ตตฺถ ทานิ มยํ อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ ปุจฺฉาม – รมณียํ, อาวุโส สาริปุตฺต, โคสิงฺคสาลวนํ, โทสินา รตฺติ, สพฺพผาลิผุลฺลา สาลา, ทิพฺพา, มญฺเญ, คนฺธา สมฺปวนฺติฯ กถํรูเปน, อาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยา’ติ? เอวํ วุตฺเต, ภนฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโต มํ เอตทโวจ – ‘อิธาวุโส, โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขุ จิตฺตํ วสํ วตฺเตติ โน จ ภิกฺขุ จิตฺตสฺส วเสน วตฺตติฯ โส ยาย วิหารสมาปตฺติยา อากงฺขติ ปุพฺพณฺหสมยํ วิหริตุํ, ตาย วิหารสมาปตฺติยา ปุพฺพณฺหสมยํ วิหรติ; ยาย วิหารสมาปตฺติยา อากงฺขติ มชฺฌนฺหิกสมยํ วิหริตุํ, ตาย วิหารสมาปตฺติยา มชฺฌนฺหิกสมยํ วิหรติ; ยาย วิหารสมาปตฺติยา อากงฺขติ สายนฺหสมยํ วิหริตุํ, ตาย วิหารสมาปตฺติยา สายนฺหสมยํ วิหรติฯ เสยฺยถาปิ, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, รญฺโญ วา ราชมหามตฺตสฺส วา นานารตฺตานํ ทุสฺสานํ ทุสฺสกรณฺฑโก ปูโร อสฺสฯ โส ยญฺญเทว ทุสฺสยุคํ อากงฺเขยฺย ปุพฺพณฺหสมยํ ปารุปิตุํ , ตํ ตเทว ทุสฺสยุคํ ปุพฺพณฺหสมยํ ปารุเปยฺย; ยญฺญเทว ทุสฺสยุคํ อากงฺเขยฺย มชฺฌนฺหิกสมยํ ปารุปิตุํ, ตํ ตเทว ทุสฺสยุคํ มชฺฌนฺหิกสมยํ ปารุเปยฺย; ยญฺญเทว ทุสฺสยุคํ อากงฺเขยฺย สายนฺหสมยํ ปารุปิตุํ, ตํ ตเทว ทุสฺสยุคํ สายนฺหสมยํ ปารุเปยฺยฯ เอวเมว โข, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขุ จิตฺตํ วสํ วตฺเตติ, โน จ ภิกฺขุ จิตฺตสฺส วเสน วตฺตติฯ โส ยาย วิหารสมาปตฺติยา อากงฺขติ ปุพฺพณฺหสมยํ วิหริตุํ, ตาย วิหารสมาปตฺติยา ปุพฺพณฺหสมยํ วิหรติ; ยาย วิหารสมาปตฺติยา อากงฺขติ มชฺฌนฺหิกสมยํ วิหริตุํ, ตาย วิหารสมาปตฺติยา มชฺฌนฺหิกสมยํ วิหรติ; ยาย วิหารสมาปตฺติยา อากงฺขติ สายนฺหสมยํ วิหริตุํ, ตาย วิหารสมาปตฺติยา สายนฺหสมยํ วิหรติฯ เอวรูเปน โข, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยา’’’ติฯ ‘‘สาธุ สาธุ, โมคฺคลฺลาน! ยถา ตํ สาริปุตฺโตว สมฺมา พฺยากรมาโน พฺยากเรยฺยฯ สาริปุตฺโต หิ, โมคฺคลฺลาน, จิตฺตํ วสํ วตฺเตติ โน จ สาริปุตฺโต จิตฺตสฺส วเสน วตฺตติฯ โส ยาย วิหารสมาปตฺติยา อากงฺขติ ปุพฺพณฺหสมยํ วิหริตุํ, ตาย วิหารสมาปตฺติยา ปุพฺพณฺหสมยํ วิหรติ; ยาย วิหารสมาปตฺติยา อากงฺขติ มชฺฌนฺหิกสมยํ วิหริตุํ, ตาย วิหารสมาปตฺติยา มชฺฌนฺหิกสมยํ วิหรติ; ยาย วิหารสมาปตฺติยา อากงฺขติ สายนฺหสมยํ วิหริตุํ, ตาย วิหารสมาปตฺติยา สายนฺหสมยํ วิหรตี’’ติฯ

[345] เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กสฺส นุ โข, ภนฺเต, สุภาสิต’’นฺติ? ‘‘สพฺเพสํ โว, สาริปุตฺต, สุภาสิตํ ปริยาเยนฯ อปิ จ มมปิ สุณาถ ยถารูเปน ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยฯ อิธ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สติํ อุปฏฺฐเปตฺวา – ‘น ตาวาหํ อิมํ ปลฺลงฺกํ ภินฺทิสฺสามิ ยาว เม นานุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจิสฺสตี’ติฯ เอวรูเปน โข, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยา’’ติฯ

อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมนา เต อายสฺมนฺโต [เต ภิกฺขู (ก.)] ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติฯ

มหาโคสิงฺคสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ทุติยํฯ

3. มหาโคปาลกสุตฺตํ

[346] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติฯ ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํฯ ภควา เอตทโวจ –

‘‘เอกาทสหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต โคปาลโก อภพฺโพ โคคณํ ปริหริตุํ ผาติํ กาตุํ [ผาติกตฺตุํ (สี. ปี.), ผาติกาตุํ (สฺยา. กํ.)]ฯ กตเมหิ เอกาทสหิ? อิธ, ภิกฺขเว, โคปาลโก น รูปญฺญู โหติ, น ลกฺขณกุสโล โหติ, น อาสาฏิกํ หาเรตา [สาเฏตา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] โหติ, น วณํ ปฏิจฺฉาเทตา โหติ, น ธูมํ กตฺตา โหติ, น ติตฺถํ ชานาติ, น ปีตํ ชานาติ, น วีถิํ ชานาติ, น โคจรกุสโล โหติ อนวเสสโทหี จ โหติฯ เย เต อุสภา โคปิตโร โคปริณายกา เต น อติเรกปูชาย ปูเชตา โหติฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, เอกาทสหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต โคปาลโก อภพฺโพ โคคณํ ปริหริตุํ ผาติํ กาตุํฯ