เมนู

4. มหายมกวคฺโค

1. จูฬโคสิงฺคสุตฺตํ

[325] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา นาติเก [นาทิเก (สี. สฺยา. ปี.), ญาติเก (ก.)] วิหรติ คิญฺชกาวสเถฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา จ อนุรุทฺโธ อายสฺมา จ นนฺทิโย อายสฺมา จ กิมิโล [กิมฺพิโล (สี. ปี. ก.)] โคสิงฺคสาลวนทาเย วิหรนฺติฯ อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺฐิโต เยน โคสิงฺคสาลวนทาโย เตนุปสงฺกมิฯ อทฺทสา โข ทายปาโล ภควนฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํฯ ทิสฺวาน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘มา, สมณ, เอตํ ทายํ ปาวิสิฯ สนฺเตตฺถ ตโย กุลปุตฺตา อตฺตกามรูปา วิหรนฺติฯ มา เตสํ อผาสุมกาสี’’ติฯ

อสฺโสสิ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ ทายปาลสฺส ภควตา สทฺธิํ มนฺตยมานสฺสฯ สุตฺวาน ทายปาลํ เอตทโวจ – ‘‘มา, อาวุโส ทายปาล, ภควนฺตํ วาเรสิฯ สตฺถา โน ภควา อนุปฺปตฺโต’’ติฯ อถ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ เยนายสฺมา จ นนฺทิโย อายสฺมา จ กิมิโล เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตญฺจ นนฺทิยํ อายสฺมนฺตญฺจ กิมิลํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกมถายสฺมนฺโต, อภิกฺกมถายสฺมนฺโต, สตฺถา โน ภควา อนุปฺปตฺโต’’ติฯ อถ โข อายสฺมา จ อนุรุทฺโธ อายสฺมา จ นนฺทิโย อายสฺมา จ กิมิโล ภควนฺตํ ปจฺจุคฺคนฺตฺวา – เอโก ภควโต ปตฺตจีวรํ ปฏิคฺคเหสิ, เอโก อาสนํ ปญฺญเปสิ, เอโก ปาโททกํ อุปฏฺฐาเปสิฯ นิสีทิ ภควา ปญฺญตฺเต อาสเนฯ นิสชฺช โข ภควา ปาเท ปกฺขาเลสิฯ เตปิ โข อายสฺมนฺโต ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ ภควา เอตทโวจ –

[326] ‘‘กจฺจิ โว, อนุรุทฺธา, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิ ปิณฺฑเกน น กิลมถา’’ติ ? ‘‘ขมนียํ, ภควา, ยาปนียํ, ภควา; น จ มยํ, ภนฺเต, ปิณฺฑเกน กิลมามา’’ติฯ

‘‘กจฺจิ ปน โว, อนุรุทฺธา, สมคฺคา สมฺโมทมานา อวิวทมานา ขีโรทกีภูตา อญฺญมญฺญํ ปิยจกฺขูหิ สมฺปสฺสนฺตา วิหรถา’’ติ? ‘‘ตคฺฆ มยํ , ภนฺเต, สมคฺคา สมฺโมทมานา อวิวทมานา ขีโรทกีภูตา อญฺญมญฺญํ ปิยจกฺขูหิ สมฺปสฺสนฺตา วิหรามา’’ติฯ ‘‘ยถา กถํ ปน ตุมฺเห, อนุรุทฺธา, สมคฺคา สมฺโมทมานา อวิวทมานา ขีโรทกีภูตา อญฺญมญฺญํ ปิยจกฺขูหิ สมฺปสฺสนฺตา วิหรถา’’ติ? ‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, โยหํ เอวรูเปหิ สพฺรหฺมจารีหิ สทฺธิํ วิหรามี’ติฯ ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, อิเมสุ อายสฺมนฺเตสุ เมตฺตํ กายกมฺมํ ปจฺจุปฏฺฐิตํ อาวิ เจว รโห จ; เมตฺตํ วจีกมฺมํ ปจฺจุปฏฺฐิตํ อาวิ เจว รโห จ; เมตฺตํ มโนกมฺมํ ปจฺจุปฏฺฐิตํ อาวิ เจว รโห จฯ ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ สกํ จิตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา อิเมสํเยว อายสฺมนฺตานํ จิตฺตสฺส วเสน วตฺเตยฺย’นฺติฯ โส โข อหํ, ภนฺเต, สกํ จิตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา อิเมสํเยว อายสฺมนฺตานํ จิตฺตสฺส วเสน วตฺตามิฯ นานา หิ โข โน, ภนฺเต, กายา เอกญฺจ ปน มญฺเญ จิตฺต’’นฺติฯ

อายสฺมาปิ โข นนฺทิโย…เป.… อายสฺมาปิ โข กิมิโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘มยฺหมฺปิ, ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, โยหํ เอวรูเปหิ สพฺรหฺมจารีหิ สทฺธิํ วิหรามี’ติฯ ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, อิเมสุ อายสฺมนฺเตสุ เมตฺตํ กายกมฺมํ ปจฺจุปฏฺฐิตํ อาวิ เจว รโห จ, เมตฺตํ วจีกมฺมํ ปจฺจุปฏฺฐิตํ อาวิ เจว รโห จ, เมตฺตํ มโนกมฺมํ ปจฺจุปฏฺฐิตํ อาวิ เจว รโห จฯ ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ สกํ จิตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา อิเมสํเยว อายสฺมนฺตานํ จิตฺตสฺส วเสน วตฺเตยฺย’นฺติฯ โส โข อหํ, ภนฺเต, สกํ จิตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา อิเมสํเยว อายสฺมนฺตานํ จิตฺตสฺส วเสน วตฺตามิฯ นานา หิ โข โน, ภนฺเต, กายา เอกญฺจ ปน มญฺเญ จิตฺตนฺติฯ

‘‘เอวํ โข มยํ, ภนฺเต, สมคฺคา สมฺโมทมานา อวิวทมานา ขีโรทกีภูตา อญฺญมญฺญํ ปิยจกฺขูหิ สมฺปสฺสนฺตา วิหรามา’’ติฯ

[327] ‘‘สาธุ สาธุ, อนุรุทฺธา! กจฺจิ ปน โว, อนุรุทฺธา, อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรถา’’ติ? ‘‘ตคฺฆ มยํ, ภนฺเต, อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรามา’’ติฯ ‘‘ยถา กถํ ปน ตุมฺเห, อนุรุทฺธา, อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรถา’’ติ? ‘‘อิธ, ภนฺเต, อมฺหากํ โย ปฐมํ คามโต ปิณฺฑาย ปฏิกฺกมติ โส อาสนานิ ปญฺญเปติ, ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺฐาเปติ, อวกฺการปาติํ อุปฏฺฐาเปติฯ

โย ปจฺฉา คามโต ปิณฺฑาย ปฏิกฺกมติ, สเจ โหติ ภุตฺตาวเสโส สเจ อากงฺขติ ภุญฺชติ, โน เจ อากงฺขติ อปฺปหริเต วา ฉฑฺเฑติ, อปฺปาณเก วา อุทเก โอปิลาเปติฯ โส อาสนานิ ปฏิสาเมติ, ปานียํ ปริโภชนียํ ปฏิสาเมติ, อวกฺการปาติํ ปฏิสาเมติ, ภตฺตคฺคํ สมฺมชฺชติฯ โย ปสฺสติ ปานียฆฏํ วา ปริโภชนียฆฏํ วา วจฺจฆฏํ วา ริตฺตํ ตุจฺฉํ โส อุปฏฺฐาเปติฯ สจสฺส โหติ อวิสยฺหํ, หตฺถวิกาเรน ทุติยํ อามนฺเตตฺวา หตฺถวิลงฺฆเกน อุปฏฺฐาเปม, น ตฺเวว มยํ, ภนฺเต, ตปฺปจฺจยา วาจํ ภินฺทามฯ ปญฺจาหิกํ โข ปน มยํ, ภนฺเต, สพฺพรตฺติกํ ธมฺมิยา กถาย สนฺนิสีทามฯ เอวํ โข มยํ, ภนฺเต, อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรามา’’ติฯ

[328] ‘‘สาธุ สาธุ, อนุรุทฺธา! อตฺถิ ปน โว, อนุรุทฺธา, เอวํ อปฺปมตฺตานํ อาตาปีนํ ปหิตตฺตานํ วิหรนฺตานํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อลมริยญาณทสฺสนวิเสโส อธิคโต ผาสุวิหาโร’’ติ? ‘‘กิญฺหิ โน สิยา, ภนฺเต! อิธ มยํ, ภนฺเต, ยาวเทว อากงฺขาม วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามฯ อยํ โข โน, ภนฺเต, อมฺหากํ อปฺปมตฺตานํ อาตาปีนํ ปหิตตฺตานํ วิหรนฺตานํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อลมริยญาณทสฺสนวิเสโส อธิคโต ผาสุวิหาโร’’ติฯ

‘‘สาธุ สาธุ, อนุรุทฺธา! เอตสฺส ปน โว, อนุรุทฺธา, วิหารสฺส สมติกฺกมาย เอตสฺส วิหารสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา อตฺถญฺโญ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อลมริยญาณทสฺสนวิเสโส อธิคโต ผาสุวิหาโร’’ติ? ‘‘กิญฺหิ โน สิยา, ภนฺเต! อิธ มยํ, ภนฺเต, ยาวเทว อากงฺขาม วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามฯ เอตสฺส, ภนฺเต, วิหารสฺส สมติกฺกมาย เอตสฺส วิหารสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา อยมญฺโญ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อลมริยญาณทสฺสนวิเสโส อธิคโต ผาสุวิหาโร’’ติฯ

‘‘สาธุ สาธุ, อนุรุทฺธา! เอตสฺส ปน โว, อนุรุทฺธา, วิหารสฺส สมติกฺกมาย เอตสฺส วิหารสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา อตฺถญฺโญ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อลมริยญาณทสฺสนวิเสโส อธิคโต ผาสุวิหาโร’’ติ? ‘‘กิญฺหิ โน สิยา, ภนฺเต! อิธ มยํ, ภนฺเต, ยาวเทว อากงฺขาม ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขกา จ วิหราม, สตา จ สมฺปชานา, สุขญฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทม, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามฯ เอตสฺส, ภนฺเต, วิหารสฺส สมติกฺกมาย เอตสฺส วิหารสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา อยมญฺโญ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อลมริยญาณทสฺสนวิเสโส อธิคโต ผาสุวิหาโร’’ติฯ

‘‘สาธุ สาธุ, อนุรุทฺธา! เอตสฺส ปน โว, อนุรุทฺธา, วิหารสฺส สมติกฺกมาย เอตสฺส วิหารสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา อตฺถญฺโญ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อลมริยญาณทสฺสนวิเสโส อธิคโต ผาสุวิหาโร’’ติ ? ‘‘กิญฺหิ โน สิยา, ภนฺเต! อิธ มยํ, ภนฺเต, ยาวเทว อากงฺขาม สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา, ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา, อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิํ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามฯ เอตสฺส, ภนฺเต, วิหารสฺส สมติกฺกมาย เอตสฺส วิหารสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา อยมญฺโญ อุตฺตริ มนุสฺสธมฺมา อลมริยญาณทสฺสนวิเสโส อธิคโต ผาสุวิหาโร’’ติฯ

‘‘สาธุ สาธุ, อนุรุทฺธา! เอตสฺส ปน โว, อนุรุทฺธา, วิหารสฺส สมติกฺกมาย เอตสฺส วิหารสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา อตฺถญฺโญ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อลมริยญาณทสฺสนวิเสโส อธิคโต ผาสุวิหาโร’’ติ? ‘‘กิญฺหิ โน สิยา, ภนฺเต! อิธ มยํ, ภนฺเต, ยาวเทว อากงฺขาม สพฺพโส รูปสญฺญานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสญฺญานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสญฺญานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานญฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรามฯ เอตสฺส, ภนฺเต, วิหารสฺส สมติกฺกมาย เอตสฺส วิหารสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา อยมญฺโญ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อลมริยญาณทสฺสนวิเสโส อธิคโต ผาสุวิหาโร’’ติฯ

‘‘สาธุ สาธุ, อนุรุทฺธา! เอตสฺส ปน โว, อนุรุทฺธา, วิหารสฺส สมติกฺกมาย เอตสฺส วิหารสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา อตฺถญฺโญ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อลมริยญาณทสฺสนวิเสโส อธิคโต ผาสุวิหาโร’’ติ? ‘‘กิญฺหิ โน สิยา, ภนฺเต! อิธ มยํ, ภนฺเต, ยาวเทว อากงฺขาม สพฺพโส อากาสานญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิญฺญาณ’นฺติ วิญฺญาณญฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหราม…เป.… สพฺพโส วิญฺญาณญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิญฺจี’ติ อากิญฺจญฺญายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหราม…เป.… สพฺพโส อากิญฺจญฺญายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรามฯ เอตสฺส, ภนฺเต, วิหารสฺส สมติกฺกมาย เอตสฺส วิหารสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา อยมญฺโญ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อลมริยญาณทสฺสนวิเสโส อธิคโต ผาสุวิหาโร’’ติฯ

[329] ‘‘สาธุ สาธุ, อนุรุทฺธา! เอตสฺส ปน โว, อนุรุทฺธา, วิหารสฺส สมติกฺกมาย เอตสฺส วิหารสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา อตฺถญฺโญ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อลมริยญาณทสฺสนวิเสโส อธิคโต ผาสุวิหาโร’’ติ? ‘‘กิญฺหิ โน สิยา, ภนฺเต! อิธ มยํ, ภนฺเต, ยาวเทว อากงฺขาม สพฺพโส เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ สมติกฺกมฺม สญฺญาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหราม, ปญฺญาย จ โน ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณาฯ เอตสฺส, ภนฺเต, วิหารสฺส สมติกฺกมาย เอตสฺส วิหารสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา อยมญฺโญ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อลมริยญาณทสฺสนวิเสโส อธิคโต ผาสุวิหาโรฯ อิมมฺหา จ มยํ, ภนฺเต, ผาสุวิหารา อญฺญํ ผาสุวิหารํ อุตฺตริตรํ วา ปณีตตรํ วา น สมนุปสฺสามา’’ติฯ ‘‘สาธุ สาธุ, อนุรุทฺธา! อิมมฺหา ผาสุวิหารา อุตฺตริตโร วา ปณีตตโร วา ผาสุวิหาโร นตฺถี’’ติฯ

[330] อถ โข ภควา อายสฺมนฺตญฺจ อนุรุทฺธํ อายสฺมนฺตญฺจ นนฺทิยํ อายสฺมนฺตญฺจ กิมิลํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกามิฯ อถ โข อายสฺมา จ อนุรุทฺโธ อายสฺมา จ นนฺทิโย อายสฺมา จ กิมิโล ภควนฺตํ อนุสํยายิตฺวา [อนุสํสาเวตฺวา (สี.), อนุสาเวตฺวา (ฏีกา)] ตโต ปฏินิวตฺติตฺวา อายสฺมา จ นนฺทิโย อายสฺมา จ กิมิโล อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ เอตทโวจุํ – ‘‘กิํ นุ โข มยํ อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส เอวมาโรจิมฺห – ‘อิมาสญฺจ อิมาสญฺจ วิหารสมาปตฺตีนํ มยํ ลาภิโน’ติ, ยํ โน อายสฺมา อนุรุทฺโธ ภควโต สมฺมุขา ยาว อาสวานํ ขยา ปกาเสตี’’ติ? ‘‘น โข เม อายสฺมนฺโต เอวมาโรเจสุํ – ‘อิมาสญฺจ อิมาสญฺจ วิหารสมาปตฺตีนํ มยํ ลาภิโน’ติ, อปิ จ เม อายสฺมนฺตานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต – ‘อิมาสญฺจ อิมาสญฺจ วิหารสมาปตฺตีนํ อิเม อายสฺมนฺโต ลาภิโน’ติฯ

เทวตาปิ เม เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ – ‘อิมาสญฺจ อิมาสญฺจ วิหารสมาปตฺตีนํ อิเม อายสฺมนฺโต ลาภิโน’ติฯ ตเมนํ ภควตา ปญฺหาภิปุฏฺเฐน พฺยากต’’นฺติฯ

[331] อถ โข ทีโฆ ปรชโน ยกฺโข เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิโต โข ทีโฆ ปรชโน ยกฺโข ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ลาภา วต, ภนฺเต, วชฺชีนํ, สุลทฺธลาภา วชฺชิปชาย, ยตฺถ ตถาคโต วิหรติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, อิเม จ ตโย กุลปุตฺตา – อายสฺมา จ อนุรุทฺโธ, อายสฺมา จ นนฺทิโย, อายสฺมา จ กิมิโล’’ติฯ ทีฆสฺส ปรชนสฺส ยกฺขสฺส สทฺทํ สุตฺวา ภุมฺมา เทวา สทฺทมนุสฺสาเวสุํ – ‘ลาภา วต, โภ, วชฺชีนํ, สุลทฺธลาภา วชฺชิปชาย, ยตฺถ ตถาคโต วิหรติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, อิเม จ ตโย กุลปุตฺตา – อายสฺมา จ อนุรุทฺโธ, อายสฺมา จ นนฺทิโย, อายสฺมา จ กิมิโล’ติฯ ภุมฺมานํ เทวานํ สทฺทํ สุตฺวา จาตุมหาราชิกา เทวา…เป.… ตาวติํสา เทวา…เป.… ยามา เทวา…เป.… ตุสิตา เทวา…เป.… นิมฺมานรตี เทวา…เป.… ปรนิมฺมิตวสวตฺตี เทวา…เป.… พฺรหฺมกายิกา เทวา สทฺทมนุสฺสาเวสุํ – ‘‘ลาภา วต, โภ, วชฺชีนํ, สุลทฺธลาภา วชฺชิปชาย, ยตฺถ ตถาคโต วิหรติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, อิเม จ ตโย กุลปุตฺตา – อายสฺมา จ อนุรุทฺโธ, อายสฺมา จ นนฺทิโย, อายสฺมา จ กิมิโล’’ติฯ อิติห เต อายสฺมนฺโต เตน ขเณน (เตน ลเยน) [( ) สี. สฺยา. ปี. โปตฺถเกสุ นตฺถิ] เตน มุหุตฺเตน ยาวพฺรหฺมโลกา วิทิตา [สํวิทิตา (ก.)] อเหสุํฯ

‘‘เอวเมตํ, ทีฆ, เอวเมตํ, ทีฆ! ยสฺมาปิ, ทีฆ, กุลา เอเต ตโย กุลปุตฺตา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา, ตญฺเจปิ กุลํ เอเต ตโย กุลปุตฺเต ปสนฺนจิตฺตํ อนุสฺสเรยฺย, ตสฺสปาสฺส กุลสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายฯ ยสฺมาปิ, ทีฆ, กุลปริวฏฺฏา เอเต ตโย กุลปุตฺตา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา, โส เจปิ กุลปริวฏฺโฏ เอเต ตโย กุลปุตฺเต ปสนฺนจิตฺโต อนุสฺสเรยฺย, ตสฺสปาสฺส กุลปริวฏฺฏสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายฯ

ยสฺมาปิ, ทีฆ, คามา เอเต ตโย กุลปุตฺตา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา, โส เจปิ คาโม เอเต ตโย กุลปุตฺเต ปสนฺนจิตฺโต อนุสฺสเรยฺย, ตสฺสปาสฺส คามสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายฯ ยสฺมาปิ, ทีฆ, นิคมา เอเต ตโย กุลปุตฺตา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา, โส เจปิ นิคโม เอเต ตโย กุลปุตฺเต ปสนฺนจิตฺโต อนุสฺสเรยฺย, ตสฺสปาสฺส นิคมสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายฯ ยสฺมาปิ, ทีฆ, นครา เอเต ตโย กุลปุตฺตา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา, ตญฺเจปิ นครํ เอเต ตโย กุลปุตฺเต ปสนฺนจิตฺตํ อนุสฺสเรยฺย, ตสฺสปาสฺส นครสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายฯ ยสฺมาปิ, ทีฆ, ชนปทา เอเต ตโย กุลปุตฺตา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา, โส เจปิ ชนปโท เอเต ตโย กุลปุตฺเต ปสนฺนจิตฺโต อนุสฺสเรยฺย, ตสฺสปาสฺส ชนปทสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายฯ สพฺเพ เจปิ, ทีฆ, ขตฺติยา เอเต ตโย กุลปุตฺเต ปสนฺนจิตฺตา อนุสฺสเรยฺยุํ, สพฺเพสานํปาสฺส ขตฺติยานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายฯ สพฺเพ เจปิ, ทีฆ, พฺราหฺมณา…เป.… สพฺเพ เจปิ, ทีฆ, เวสฺสา…เป.… สพฺเพ เจปิ, ทีฆ, สุทฺทา เอเต ตโย กุลปุตฺเต ปสนฺนจิตฺตา อนุสฺสเรยฺยุํ, สพฺเพสานํปาสฺส สุทฺทานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายฯ สเทวโก เจปิ, ทีฆ, โลโก สมารโก สพฺรหฺมโก สสฺสมณพฺราหฺมณี ปชา สเทวมนุสฺสา เอเต ตโย กุลปุตฺเต ปสนฺนจิตฺตา อนุสฺสเรยฺย, สเทวกสฺสปาสฺส โลกสฺส สมารกสฺส สพฺรหฺมกสฺส สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายฯ ปสฺส, ทีฆ, ยาว เอเต ตโย กุลปุตฺตา พหุชนหิตาย ปฏิปนฺนา พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย, อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติฯ

อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมโน ทีโฆ ปรชโน ยกฺโข ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติฯ

จูฬโคสิงฺคสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ปฐมํฯ

2. มหาโคสิงฺคสุตฺตํ

[332] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โคสิงฺคสาลวนทาเย วิหรติ สมฺพหุเลหิ อภิญฺญาเตหิ อภิญฺญาเตหิ เถเรหิ สาวเกหิ สทฺธิํ – อายสฺมตา จ สาริปุตฺเตน อายสฺมตา จ มหาโมคฺคลฺลาเนน อายสฺมตา จ มหากสฺสเปน อายสฺมตา จ อนุรุทฺเธน อายสฺมตา จ เรวเตน อายสฺมตา จ อานนฺเทน, อญฺเญหิ จ อภิญฺญาเตหิ อภิญฺญาเตหิ เถเรหิ สาวเกหิ สทฺธิํฯ อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺฐิโต เยนายสฺมา มหากสฺสโป เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหากสฺสปํ เอตทโวจ – ‘‘อายามาวุโส, กสฺสป, เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิสฺสาม ธมฺมสฺสวนายา’’ติฯ ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา มหากสฺสโป อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส ปจฺจสฺโสสิฯ อถ โข อายสฺมา จ มหาโมคฺคลฺลาโน อายสฺมา จ มหากสฺสโป อายสฺมา จ อนุรุทฺโธ เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิํสุ ธมฺมสฺสวนายฯ อทฺทสา โข อายสฺมา อานนฺโท อายสฺมนฺตญฺจ มหาโมคฺคลฺลานํ อายสฺมนฺตญฺจ มหากสฺสปํ อายสฺมนฺตญฺจ อนุรุทฺธํ เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมนฺเต ธมฺมสฺสวนายฯ ทิสฺวาน เยนายสฺมา เรวโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ เรวตํ เอตทโวจ – ‘‘อุปสงฺกมนฺตา โข อมู, อาวุโส [อายสฺมนฺตาวุโส (ก.)] เรวต, สปฺปุริสา เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตน ธมฺมสฺสวนายฯ อายามาวุโส เรวต, เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิสฺสาม ธมฺมสฺสวนายา’’ติฯ ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา เรวโต อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปจฺจสฺโสสิฯ อถ โข อายสฺมา จ เรวโต อายสฺมา จ อานนฺโท เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิํสุ ธมฺมสฺสวนายฯ

[333] อทฺทสา โข อายสฺมา สาริปุตฺโต อายสฺมนฺตญฺจ เรวตํ อายสฺมนฺตญฺจ อานนฺทํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺเตฯ ทิสฺวาน อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘เอตุ โข อายสฺมา อานนฺโท! สฺวาคตํ อายสฺมโต อานนฺทสฺส ภควโต อุปฏฺฐากสฺส ภควโต สนฺติกาวจรสฺส! รมณียํ, อาวุโส อานนฺท, โคสิงฺคสาลวนํ, โทสินา รตฺติ, สพฺพผาลิผุลฺลา [สพฺพปาลิผุลฺลา (สี.)] สาลา, ทิพฺพา, มญฺเญ, คนฺธา สมฺปวนฺติ; กถํรูเปน, อาวุโส อานนฺท, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยา’’ติ? ‘‘อิธาวุโส สาริปุตฺต , ภิกฺขุ พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโยฯ