เมนู

10. จูฬสาโรปมสุตฺตํ

[312] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ อถ โข ปิงฺคลโกจฺโฉ พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ปิงฺคลโกจฺโฉ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เยเม, โภ โคตม, สมณพฺราหฺมณา สงฺฆิโน คณิโน คณาจริยา ญาตา ยสสฺสิโน ติตฺถกรา สาธุสมฺมตา, พหุชนสฺส, เสยฺยถิทํ – ปูรโณ กสฺสโป, มกฺขลิ โคสาโล, อชิโต เกสกมฺพโล, ปกุโธ กจฺจายโน, สญฺจโย [สญฺชโย (สี. สฺยา. ปี. ก.)] เพลฏฺฐปุตฺโต, นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต, สพฺเพเต สกาย ปฏิญฺญาย อพฺภญฺญํสุ สพฺเพว นาพฺภญฺญํสุ, อุทาหุ เอกจฺเจ อพฺภญฺญํสุ เอกจฺเจ นาพฺภญฺญํสู’’ติ? ‘‘อลํ, พฺราหฺมณ, ติฏฺฐเตตํ – สพฺเพเต สกาย ปฏิญฺญาย อพฺภญฺญํสุ สพฺเพว นาพฺภญฺญํสุ, อุทาหุ เอกจฺเจ อพฺภญฺญํสุ เอกจฺเจ นาพฺภญฺญํสูติฯ ธมฺมํ เต, พฺราหฺมณ, เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ, ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข ปิงฺคลโกจฺโฉ พฺราหฺมโณ ภควโต ปจฺจสฺโสสิฯ ภควา เอตทโวจ –

[313] ‘‘เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, ปุริโส สารตฺถิโก สารคเวสี สารปริเยสนํ จรมาโน มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺฐโต สารวโต อติกฺกมฺเมว สารํ อติกฺกมฺม เผคฺคุํ อติกฺกมฺม ตจํ อติกฺกมฺม ปปฏิกํ, สาขาปลาสํ เฉตฺวา อาทาย ปกฺกเมยฺย ‘สาร’นฺติ มญฺญมาโนฯ ตเมนํ จกฺขุมา ปุริโส ทิสฺวา เอวํ วเทยฺย – ‘น วตายํ ภวํ ปุริโส อญฺญาสิ สารํ, น อญฺญาสิ เผคฺคุํ, น อญฺญาสิ ตจํ, น อญฺญาสิ ปปฏิกํ, น อญฺญาสิ สาขาปลาสํฯ ตถา หยํ ภวํ ปุริโส สารตฺถิโก สารคเวสี สารปริเยสนํ จรมาโน มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺฐโต สารวโต อติกฺกมฺเมว สารํ อติกฺกมฺม เผคฺคุํ อติกฺกมฺม ตจํ อติกฺกมฺม ปปฏิกํ, สาขาปลาสํ เฉตฺวา อาทาย ปกฺกนฺโต ‘สาร’นฺติ มญฺญมาโนฯ ยญฺจสฺส สาเรน สารกรณียํ ตญฺจสฺส อตฺถํ นานุภวิสฺสตี’ติฯ

[314] ‘‘เสยฺยถาปิ วา ปน, พฺราหฺมณ, ปุริโส สารตฺถิโก สารคเวสี สารปริเยสนํ จรมาโน มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺฐโต สารวโต อติกฺกมฺเมว สารํ อติกฺกมฺม เผคฺคุํ อติกฺกมฺม ตจํ , ปปฏิกํ เฉตฺวา อาทาย ปกฺกเมยฺย ‘สาร’นฺติ มญฺญมาโนฯ ตเมนํ จกฺขุมา ปุริโส ทิสฺวา เอวํ วเทยฺย – ‘น วตายํ ภวํ ปุริโส อญฺญาสิ สารํ, น อญฺญาสิ เผคฺคุํ, น อญฺญาสิ ตจํ, น อญฺญาสิ ปปฏิกํ, น อญฺญาสิ สาขาปลาสํฯ ตถา หยํ ภวํ ปุริโส สารตฺถิโก สารคเวสี สารปริเยสนํ จรมาโน มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺฐโต สารวโต อติกฺกมฺเมว สารํ อติกฺกมฺม เผคฺคุํ อติกฺกมฺม ตจํ ปปฏิกํ เฉตฺวา อาทาย ปกฺกนฺโต ‘สาร’นฺติ มญฺญมาโนฯ ยญฺจสฺส สาเรน สารกรณียํ ตญฺจสฺส อตฺถํ นานุภวิสฺสตี’ติฯ

[315] ‘‘เสยฺยถาปิ วา ปน, พฺราหฺมณ, ปุริโส สารตฺถิโก สารคเวสี สารปริเยสนํ จรมาโน มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺฐโต สารวโต อติกฺกมฺเมว สารํ อติกฺกมฺม เผคฺคุํ, ตจํ เฉตฺวา อาทาย ปกฺกเมยฺย ‘สาร’นฺติ มญฺญมาโนฯ ตเมนํ จกฺขุมา ปุริโส ทิสฺวา เอวํ วเทยฺย – ‘น วตายํ ภวํ ปุริโส อญฺญาสิ สารํ, น อญฺญาสิ เผคฺคุํ, น อญฺญาสิ ตจํ, น อญฺญาสิ ปปฏิกํ, น อญฺญาสิ สาขาปลาสํฯ ตถา หยํ ภวํ ปุริโส สารตฺถิโก สารคเวสี สารปริเยสนํ จรมาโน มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺฐโต สารวโต อติกฺกมฺเมว สารํ อติกฺกมฺม เผคฺคุํ, ตจํ เฉตฺวา อาทาย ปกฺกนฺโต ‘สาร’นฺติ มญฺญมาโนฯ ยญฺจสฺส สาเรน สารกรณียํ ตญฺจสฺส อตฺถํ นานุภวิสฺสตี’ติฯ

[316] ‘‘เสยฺยถาปิ วา ปน, พฺราหฺมณ, ปุริโส สารตฺถิโก สารคเวสี สารปริเยสนํ จรมาโน มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺฐโต สารวโต อติกฺกมฺเมว สารํ, เผคฺคุํ เฉตฺวา อาทาย ปกฺกเมยฺย ‘สาร’นฺติ มญฺญมาโนฯ ตเมนํ จกฺขุมา ปุริโส ทิสฺวา เอวํ วเทยฺย – ‘น วตายํ ภวํ ปุริโส อญฺญาสิ สารํ, น อญฺญาสิ เผคฺคุํ, น อญฺญาสิ ตจํ, น อญฺญาสิ ปปฏิกํ, น อญฺญาสิ สาขาปลาสํฯ ตถา หยํ ภวํ ปุริโส สารตฺถิโก สารคเวสี สารปริเยสนํ จรมาโน มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺฐโต สารวโต อติกฺกมฺเมว สารํ, เผคฺคุํ เฉตฺวา อาทาย ปกฺกนฺโต ‘สาร’นฺติ มญฺญมาโนฯ ยญฺจสฺส สาเรน สารกรณียํ ตญฺจสฺส อตฺถํ นานุภวิสฺสตี’ติฯ

[317] ‘‘เสยฺยถาปิ วา ปน, พฺราหฺมณ, ปุริโส สารตฺถิโก สารคเวสี สารปริเยสนํ จรมาโน มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺฐโต สารวโต สารญฺเญว เฉตฺวา อาทาย ปกฺกเมยฺย ‘สาร’นฺติ ชานมาโนฯ ตเมนํ จกฺขุมา ปุริโส ทิสฺวา เอวํ วเทยฺย – ‘อญฺญาสิ วตายํ ภวํ ปุริโส สารํ, อญฺญาสิ เผคฺคุํ, อญฺญาสิ ตจํ, อญฺญาสิ ปปฏิกํ, อญฺญาสิ สาขาปลาสํฯ ตถา หยํ ภวํ ปุริโส สารตฺถิโก สารคเวสี สารปริเยสนํ จรมาโน มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺฐโต สารวโต สารญฺเญว เฉตฺวา อาทาย ปกฺกนฺโต ‘สาร’นฺติ ชานมาโนฯ ยญฺจสฺส สาเรน สารกรณียํ ตญฺจสฺส อตฺถํ อนุภวิสฺสตี’ติฯ

[318] ‘‘เอวเมว โข, พฺราหฺมณ, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหติ – ‘โอติณฺโณมฺหิ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ, ทุกฺโขติณฺโณ ทุกฺขปเรโต, อปฺเปว นาม อิมสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส อนฺตกิริยา ปญฺญาเยถา’ติฯ โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน ลาภสกฺการสิโลกํ อภินิพฺพตฺเตติฯ โส เตน ลาภสกฺการสิโลเกน อตฺตมโน โหติ ปริปุณฺณสงฺกปฺโปฯ โส เตน ลาภสกฺการสิโลเกน อตฺตานุกฺกํเสติ, ปรํ วมฺเภติ – ‘อหมสฺมิ ลาภสกฺการสิโลกวา, อิเม ปนญฺเญ ภิกฺขู อปฺปญฺญาตา อปฺเปสกฺขา’ติฯ ลาภสกฺการสิโลเกน จ เย อญฺเญ ธมฺมา อุตฺตริตรา จ ปณีตตรา จ เตสํ ธมฺมานํ สจฺฉิกิริยาย น ฉนฺทํ ชเนติ, น วายมติ, โอลีนวุตฺติโก จ โหติ สาถลิโกฯ เสยฺยถาปิ โส, พฺราหฺมณ, ปุริโส สารตฺถิโก สารคเวสี สารปริเยสนํ จรมาโน มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺฐโต สารวโต อติกฺกมฺเมว สารํ อติกฺกมฺม เผคฺคุํ อติกฺกมฺม ตจํ อติกฺกมฺม ปปฏิกํ, สาขาปลาสํ เฉตฺวา อาทาย ปกฺกนฺโต ‘สาร’นฺติ มญฺญมาโนฯ ยญฺจสฺส สาเรน สารกรณียํ ตญฺจสฺส อตฺถํ นานุภวิสฺสติฯ ตถูปมาหํ, พฺราหฺมณ, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิฯ

[319] ‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหติ – ‘โอติณฺโณมฺหิ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ, ทุกฺโขติณฺโณ ทุกฺขปเรโต, อปฺเปว นาม อิมสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส อนฺตกิริยา ปญฺญาเยถา’ติฯ โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน ลาภสกฺการสิโลกํ อภินิพฺพตฺเตติฯ

โส เตน ลาภสกฺการสิโลเกน น อตฺตมโน โหติ น ปริปุณฺณสงฺกปฺโปฯ โส เตน ลาภสกฺการสิโลเกน น อตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติฯ ลาภสกฺการสิโลเกน จ เย อญฺเญ ธมฺมา อุตฺตริตรา จ ปณีตตรา จ เตสํ ธมฺมานํ สจฺฉิกิริยาย ฉนฺทํ ชเนติ, วายมติ , อโนลีนวุตฺติโก จ โหติ อสาถลิโกฯ โส สีลสมฺปทํ อาราเธติฯ โส ตาย สีลสมฺปทาย อตฺตมโน โหติ, ปริปุณฺณสงฺกปฺโปฯ โส ตาย สีลสมฺปทาย อตฺตานุกฺกํเสติ, ปรํ วมฺเภติ – ‘อหมสฺมิ สีลวา กลฺยาณธมฺโม, อิเม ปนญฺเญ ภิกฺขู ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา’ติฯ สีลสมฺปทาย จ เย อญฺเญ ธมฺมา อุตฺตริตรา จ ปณีตตรา จ เตสํ ธมฺมานํ สจฺฉิกิริยาย น ฉนฺทํ ชเนติ, น วายมติ, โอลีนวุตฺติโก จ โหติ สาถลิโกฯ เสยฺยถาปิ โส, พฺราหฺมณ, ปุริโส สารตฺถิโก สารคเวสี สารปริเยสนํ จรมาโน มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺฐโต สารวโต อติกฺกมฺเมว สารํ อติกฺกมฺม เผคฺคุํ อติกฺกมฺม ตจํ, ปปฏิกํ เฉตฺวา อาทาย ปกฺกนฺโต ‘สาร’นฺติ มญฺญมาโนฯ ยญฺจสฺส สาเรน สารกรณียํ, ตญฺจสฺส อตฺถํ นานุภวิสฺสติฯ ตถูปมาหํ, พฺราหฺมณ, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิฯ

[320] ‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหติ – ‘โอติณฺโณมฺหิ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ, ทุกฺโขติณฺโณ ทุกฺขปเรโต, อปฺเปว นาม อิมสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส อนฺตกิริยา ปญฺญาเยถา’ติฯ โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน ลาภสกฺการสิโลกํ อภินิพฺพตฺเตติฯ โส เตน ลาภสกฺการสิโลเกน น อตฺตมโน โหติ, น ปริปุณฺณสงฺกปฺโปฯ โส เตน ลาภสกฺการสิโลเกน น อตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติฯ ลาภสกฺการสิโลเกน จ เย อญฺเญ ธมฺมา อุตฺตริตรา จ ปณีตตรา จ เตสํ ธมฺมานํ สจฺฉิกิริยาย ฉนฺทํ ชเนติ, วายมติ, อโนลีนวุตฺติโก จ โหติ อสาถลิโกฯ โส สีลสมฺปทํ อาราเธติฯ โส ตาย สีลสมฺปทาย อตฺตมโน โหติ โน จ โข ปริปุณฺณสงฺกปฺโปฯ โส ตาย สีลสมฺปทาย น อตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติฯ

สีลสมฺปทาย จ เย อญฺเญ ธมฺมา อุตฺตริตรา จ ปณีตตรา จ เตสํ ธมฺมานํ สจฺฉิกิริยาย ฉนฺทํ ชเนติ, วายมติ, อโนลีนวุตฺติโก จ โหติ อสาถลิโก ฯ โส สมาธิสมฺปทํ อาราเธติฯ โส ตาย สมาธิสมฺปทาย อตฺตมโน โหติ, ปริปุณฺณสงฺกปฺโปฯ โส ตาย สมาธิสมฺปทาย อตฺตานุกฺกํเสติ, ปรํ วมฺเภติ – ‘อหมสฺมิ สมาหิโต เอกคฺคจิตฺโต, อิเม ปนญฺเญ ภิกฺขู อสมาหิตา วิพฺภนฺตจิตฺตา’ติฯ สมาธิสมฺปทาย จ เย อญฺเญ ธมฺมา อุตฺตริตรา จ ปณีตตรา จ, เตสํ ธมฺมานํ สจฺฉิกิริยาย น ฉนฺทํ ชเนติ, น วายมติ, โอลีนวุตฺติโก จ โหติ สาถลิโกฯ เสยฺยถาปิ โส, พฺราหฺมณ, ปุริโส สารตฺถิโก สารคเวสี สารปริเยสนํ จรมาโน มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺฐโต สารวโต อติกฺกมฺเมว สารํ อติกฺกมฺม เผคฺคุํ, ตจํ เฉตฺวา อาทาย ปกฺกนฺโต ‘สาร’นฺติ มญฺญมาโนฯ ยญฺจสฺส สาเรน สารกรณียํ ตญฺจสฺส อตฺถํ นานุภวิสฺสติฯ ตถูปมาหํ, พฺราหฺมณ, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิฯ

[321] ‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหติ – ‘โอติณฺโณมฺหิ ชาติยา ชราย มรเณน…เป.… อนฺตกิริยา ปญฺญาเยถา’ติฯ โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน ลาภสกฺการสิโลกํ อภินิพฺพตฺเตติฯ โส เตน ลาภสกฺการสิโลเกน น อตฺตมโน โหติ น ปริปุณฺณสงฺกปฺโปฯ โส เตน ลาภสกฺการสิโลเกน น อตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติฯ ลาภสกฺการสิโลเกน จ เย อญฺเญ ธมฺมา อุตฺตริตรา จ ปณีตตรา จ เตสํ ธมฺมานํ สจฺฉิกิริยาย ฉนฺทํ ชเนติ, วายมติ, อโนลีนวุตฺติโก จ โหติ อสาถลิโกฯ โส สีลสมฺปทํ อาราเธติฯ โส ตาย สีลสมฺปทาย อตฺตมโน โหติ, โน จ โข ปริปุณฺณสงฺกปฺโปฯ โส ตาย สีลสมฺปทาย น อตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติฯ สีลสมฺปทาย จ เย อญฺเญ ธมฺมา อุตฺตริตรา จ ปณีตตรา จ เตสํ ธมฺมานํ สจฺฉิกิริยาย ฉนฺทํ ชเนติ, วายมติ, อโนลีนวุตฺติโก จ โหติ อสาถลิโกฯ โส สมาธิสมฺปทํ อาราเธติฯ โส ตาย สมาธิสมฺปทาย อตฺตมโน โหติ, โน จ โข ปริปุณฺณสงฺกปฺโปฯ โส ตาย สมาธิสมฺปทาย น อตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติฯ สมาธิสมฺปทาย จ เย อญฺเญ ธมฺมา อุตฺตริตรา จ ปณีตตรา จ เตสํ ธมฺมานํ สจฺฉิกิริยาย ฉนฺทํ ชเนติ, วายมติ, อโนลีนวุตฺติโก จ โหติ อสาถลิโกฯ โส ญาณทสฺสนํ อาราเธติฯ

โส เตน ญาณทสฺสเนน อตฺตมโน โหติ, ปริปุณฺณสงฺกปฺโป ฯ โส เตน ญาณทสฺสเนน อตฺตานุกฺกํเสติ, ปรํ วมฺเภติ – ‘อหมสฺมิ ชานํ ปสฺสํ วิหรามิ, อิเม ปนญฺเญ ภิกฺขู อชานํ อปสฺสํ วิหรนฺตี’ติฯ ญาณทสฺสเนน จ เย อญฺเญ ธมฺมา อุตฺตริตรา จ ปณีตตรา จ เตสํ ธมฺมานํ สจฺฉิกิริยาย น ฉนฺทํ ชเนติ, น วายมติ, โอลีนวุตฺติโก จ โหติ สาถลิโกฯ เสยฺยถาปิ โส, พฺราหฺมณ, ปุริโส สารตฺถิโก สารคเวสี สารปริเยสนํ จรมาโน มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺฐโต สารวโต อติกฺกมฺเมว สารํ, เผคฺคุํ เฉตฺวา อาทาย ปกฺกนฺโต ‘สาร’นฺติ มญฺญมาโนฯ ยญฺจสฺส สาเรน สารกรณียํ ตญฺจสฺส อตฺถํ นานุภวิสฺสติฯ ตถูปมาหํ, พฺราหฺมณ, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิฯ

[322] ‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหติ – ‘โอติณฺโณมฺหิ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ , ทุกฺโขติณฺโณ ทุกฺขปเรโต , อปฺเปว นาม อิมสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส อนฺตกิริยา ปญฺญาเยถา’ติฯ โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน ลาภสกฺการสิโลกํ อภินิพฺพตฺเตติฯ โส เตน ลาภสกฺการสิโลเกน น อตฺตมโน โหติ, น ปริปุณฺณสงฺกปฺโปฯ โส เตน ลาภสกฺการสิโลเกน น อตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติฯ ลาภสกฺการสิโลเกน จ เย อญฺเญ ธมฺมา อุตฺตริตรา จ ปณีตตรา จ เตสํ ธมฺมานํ สจฺฉิกิริยาย ฉนฺทํ ชเนติ, วายมติ, อโนลีนวุตฺติโก จ โหติ อสาถลิโกฯ โส สีลสมฺปทํ อาราเธติฯ โส ตาย สีลสมฺปทาย อตฺตมโน โหติ, โน จ โข ปริปุณฺณสงฺกปฺโปฯ โส ตาย สีลสมฺปทาย น อตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติฯ สีลสมฺปทาย จ เย อญฺเญ ธมฺมา อุตฺตริตรา จ ปณีตตรา จ เตสํ ธมฺมานํ สจฺฉิกิริยาย ฉนฺทํ ชเนติ, วายมติ, อโนลีนวุตฺติโก จ โหติ อสาถลิโกฯ โส สมาธิสมฺปทํ อาราเธติฯ โส ตาย สมาธิสมฺปทาย อตฺตมโน โหติ, โน จ โข ปริปุณฺณสงฺกปฺโปฯ โส ตาย สมาธิสมฺปทาย น อตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติฯ สมาธิสมฺปทาย จ เย อญฺเญ ธมฺมา อุตฺตริตรา จ ปณีตตรา จ เตสํ ธมฺมานํ สจฺฉิกิริยาย ฉนฺทํ ชเนติ, วายมติ, อโนลีนวุตฺติโก จ โหติ อสาถลิโกฯ โส ญาณทสฺสนํ อาราเธติฯ โส เตน ญาณทสฺสเนน อตฺตมโน โหติ, โน จ โข ปริปุณฺณสงฺกปฺโปฯ

โส เตน ญาณทสฺสเนน น อตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติฯ ญาณทสฺสเนน จ เย อญฺเญ ธมฺมา อุตฺตริตรา จ ปณีตตรา จ เตสํ ธมฺมานํ สจฺฉิกิริยาย ฉนฺทํ ชเนติ, วายมติ, อโนลีนวุตฺติโก จ โหติ อสาถลิโกฯ

[323] ‘‘กตเม จ, พฺราหฺมณ, ธมฺมา ญาณทสฺสเนน อุตฺตริตรา จ ปณีตตรา จ? อิธ, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, ธมฺโม ญาณทสฺสเนน อุตฺตริตโร จ ปณีตตโร จฯ

‘‘ปุน จปรํ, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, ธมฺโม ญาณทสฺสเนน อุตฺตริตโร จ ปณีตตโร จฯ

‘‘ปุน จปรํ, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ, สโต จ สมฺปชาโน สุขญฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยมฺปิ โข , พฺราหฺมณ, ธมฺโม ญาณทสฺสเนน อุตฺตริตโร จ ปณีตตโร จฯ

‘‘ปุน จปรํ, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิํ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, ธมฺโม ญาณทสฺสเนน อุตฺตริตโร จ ปณีตตโร จฯ

‘‘ปุน จปรํ, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ สพฺพโส รูปสญฺญานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสญฺญานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสญฺญานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานญฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, ธมฺโม ญาณทสฺสเนน อุตฺตริตโร จ ปณีตตโร จฯ

‘‘ปุน จปรํ, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ สพฺพโส อากาสานญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิญฺญาณ’นฺติ วิญฺญาณญฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, ธมฺโม ญาณทสฺสเนน อุตฺตริตโร จ ปณีตตโร จฯ

‘‘ปุน จปรํ, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ สพฺพโส วิญฺญาณญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิญฺจี’ติ อากิญฺจญฺญายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, ธมฺโม ญาณทสฺสเนน อุตฺตริตโร จ ปณีตตโร จฯ

‘‘ปุน จปรํ, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ สพฺพโส อากิญฺจญฺญายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, ธมฺโม ญาณทสฺสเนน อุตฺตริตโร จ ปณีตตโร จฯ

‘‘ปุน จปรํ, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ สพฺพโส เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ สมติกฺกมฺม สญฺญาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ปญฺญาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติฯ อยมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, ธมฺโม ญาณทสฺสเนน อุตฺตริตโร จ ปณีตตโร จฯ อิเม โข, พฺราหฺมณ, ธมฺมา ญาณทสฺสเนน อุตฺตริตรา จ ปณีตตรา จฯ

[324] ‘‘เสยฺยถาปิ โส, พฺราหฺมณ, ปุริโส สารตฺถิโก สารคเวสี สารปริเยสนํ จรมาโน มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺฐโต สารวโต สารํเยว เฉตฺวา อาทาย ปกฺกนฺโต ‘สาร’นฺติ ชานมาโนฯ ยญฺจสฺส สาเรน สารกรณียํ ตญฺจสฺส อตฺถํ อนุภวิสฺสติฯ ตถูปมาหํ, พฺราหฺมณ, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิฯ

‘‘อิติ โข, พฺราหฺมณ, นยิทํ พฺรหฺมจริยํ ลาภสกฺการสิโลกานิสํสํ, น สีลสมฺปทานิสํสํ, น สมาธิสมฺปทานิสํสํ, น ญาณทสฺสนานิสํสํฯ ยา จ โข อยํ , พฺราหฺมณ, อกุปฺปา เจโตวิมุตฺติ – เอตทตฺถมิทํ, พฺราหฺมณ, พฺรหฺมจริยํ, เอตํ สารํ เอตํ ปริโยสาน’’นฺติฯ

เอวํ วุตฺเต, ปิงฺคลโกจฺโฉ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป.… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ

จูฬสาโรปมสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ทสมํฯ

โอปมฺมวคฺโค นิฏฺฐิโต ตติโยฯ

ตสฺสุทฺทานํ –

โมฬิยผคฺคุนริฏฺฐญฺจ นาโม, อนฺธวเน กถิปุณฺณํ นิวาโป;

ราสิกเณรุมหาคชนาโม, สารูปโม [สารวโร (สฺยา.), สารวโน (ก.)] ปุน ปิงฺคลโกจฺโฉฯ

4. มหายมกวคฺโค

1. จูฬโคสิงฺคสุตฺตํ

[325] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา นาติเก [นาทิเก (สี. สฺยา. ปี.), ญาติเก (ก.)] วิหรติ คิญฺชกาวสเถฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา จ อนุรุทฺโธ อายสฺมา จ นนฺทิโย อายสฺมา จ กิมิโล [กิมฺพิโล (สี. ปี. ก.)] โคสิงฺคสาลวนทาเย วิหรนฺติฯ อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺฐิโต เยน โคสิงฺคสาลวนทาโย เตนุปสงฺกมิฯ อทฺทสา โข ทายปาโล ภควนฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํฯ ทิสฺวาน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘มา, สมณ, เอตํ ทายํ ปาวิสิฯ สนฺเตตฺถ ตโย กุลปุตฺตา อตฺตกามรูปา วิหรนฺติฯ มา เตสํ อผาสุมกาสี’’ติฯ

อสฺโสสิ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ ทายปาลสฺส ภควตา สทฺธิํ มนฺตยมานสฺสฯ สุตฺวาน ทายปาลํ เอตทโวจ – ‘‘มา, อาวุโส ทายปาล, ภควนฺตํ วาเรสิฯ สตฺถา โน ภควา อนุปฺปตฺโต’’ติฯ อถ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ เยนายสฺมา จ นนฺทิโย อายสฺมา จ กิมิโล เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตญฺจ นนฺทิยํ อายสฺมนฺตญฺจ กิมิลํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกมถายสฺมนฺโต, อภิกฺกมถายสฺมนฺโต, สตฺถา โน ภควา อนุปฺปตฺโต’’ติฯ อถ โข อายสฺมา จ อนุรุทฺโธ อายสฺมา จ นนฺทิโย อายสฺมา จ กิมิโล ภควนฺตํ ปจฺจุคฺคนฺตฺวา – เอโก ภควโต ปตฺตจีวรํ ปฏิคฺคเหสิ, เอโก อาสนํ ปญฺญเปสิ, เอโก ปาโททกํ อุปฏฺฐาเปสิฯ นิสีทิ ภควา ปญฺญตฺเต อาสเนฯ นิสชฺช โข ภควา ปาเท ปกฺขาเลสิฯ เตปิ โข อายสฺมนฺโต ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ ภควา เอตทโวจ –

[326] ‘‘กจฺจิ โว, อนุรุทฺธา, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิ ปิณฺฑเกน น กิลมถา’’ติ ? ‘‘ขมนียํ, ภควา, ยาปนียํ, ภควา; น จ มยํ, ภนฺเต, ปิณฺฑเกน กิลมามา’’ติฯ