เมนู

4. สิวกสามเณรคาถาวณฺณนา

อุปชฺฌาโยติ สิวกสฺส สามเณรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? โส กิร อิโต เอกติํเส กปฺเป เวสฺสภุสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺโต เอกทิวสํ เกนจิเทว กรณีเยน อรญฺญํ ปวิฏฺโฐ ตตฺถ ปพฺพตนฺตเร นิสินฺนํ เวสฺสภุํ ภควนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺโต อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคยฺห อฏฺฐาสิฯ ปุน ตตฺถ มโนหรานิ กาสุมาริกผลานิ ทิสฺวา ตานิ คเหตฺวา ภควโต อุปเนสิ, ปฏิคฺคเหสิ ภควา อนุกมฺปํ อุปาทายฯ โส เตน ปุญฺญกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต กสฺสปสฺส ภควโต สาสเน มาตุเล ปพฺพชนฺเต เตน สทฺธิํ ปพฺพชิตฺวา พหุํ วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท วนวจฺฉตฺเถรสฺส ภาคิเนยฺโย หุตฺวา นิพฺพตฺโต, สิวโกติสฺส นามํ อโหสิฯ ตสฺส มาตา อตฺตโน เชฏฺฐภาติเก วนวจฺเฉ สาสเน ปพฺพชิตฺวา ปพฺพชิตกิจฺจํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา อรญฺเญ วิหรนฺเต ตํ ปวตฺติํ สุตฺวา ปุตฺตํ อาห – ‘‘ตาต สิวก, เถรสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา เถรํ อุปฏฺฐห, มหลฺลโก ทานิ เถโร’’ติฯ โส มาตุ เอกวจเนเนว จ ปุพฺเพ กตาธิการตาย จ มาตุลตฺเถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปพฺพชิตฺวา ตํ อุปฏฺฐหนฺโต อรญฺเญ วสติฯ

ตสฺส เอกทิวสํ เกนจิเทว กรณีเยน คามนฺตํ คตสฺส ขโร อาพาโธ อุปฺปชฺชิฯ มนุสฺเสสุ เภสชฺชํ กโรนฺเตสุปิ น ปฏิปฺปสฺสมฺภิฯ ตสฺมิํ จิรายนฺเต เถโร ‘‘สามเณโร จิรายติ, กิํ นุ โข การณ’’นฺติ ตตฺถ คนฺตฺวา ตํ คิลานํ ทิสฺวา ตสฺส ตํ ตํ กตฺตพฺพยุตฺตกํ กโรนฺโต ทิวสภาคํ วีตินาเมตฺวา รตฺติภาเค พลวปจฺจูสเวลายํ อาห – ‘‘สิวก, น มยา ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺฐาย คาเม วสิตปุพฺพํ, อิโต อรญฺญเมว คจฺฉามา’’ติฯ ตํ สุตฺวา สิวโก ‘‘ยทิปิ เม, ภนฺเต, อิทานิ กาโย คามนฺเต ฐิโต, จิตฺตํ ปน อรญฺเญ, ตสฺมา สยาโนปิ อรญฺญเมว คมิสฺสามี’’ติ, ตํ สุตฺวา เถโร ตํ พาหายํ คเหตฺวา อรญฺญเมว เนตฺวา โอวาทํ อทาสิฯ โส เถรสฺส โอวาเท ฐตฺวา วิปสฺสิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร 1.38.53-58) –

‘‘กณิการํว โชตนฺตํ, นิสินฺนํ ปพฺพตนฺตเร;

อทฺทสํ วิรชํ พุทฺธํ, โลกเชฏฺฐํ นราสภํฯ

‘‘ปสนฺนจิตฺโต สุมโน, กิเร กตฺวาน อญฺชลิํ;

กาสุมาริกมาทาย, พุทฺธเสฏฺฐสฺสทาสหํฯ

‘‘เอกติํเส อิโต กปฺเป, ยํ ผลํ อททิํ ตทา;

ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, ผลทานสฺสิทํ ผลํฯ

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

โส อรหตฺตํ ปตฺวา อุปชฺฌาเยน อตฺตนา จ วุตฺตมตฺถํ สํสนฺทิตฺวา อตฺตโน วิเวกาภิรติกตํ กตกิจฺจตญฺจ ปเวเทนฺโต ‘‘อุปชฺฌาโย มํ อวจา’’ติ คาถํ อภาสิฯ

[14] ตตฺถ อุปชฺฌาโยติ วชฺชาวชฺชํ อุปนิชฺฌายติ หิเตสิตํ ปจฺจุปฏฺฐเปตฺวา ญาณจกฺขุนา เปกฺขตีติ อุปชฺฌาโยฯ นฺติ อตฺตานํ วทติฯ อวจาติ อภาสิฯ

อิโต คจฺฉาม สีวกาติ วุตฺตาการทสฺสนํ, สิวก, อิโต คามนฺตโต อรญฺญฏฺฐานเมว เอหิ คจฺฉาม, ตเทว อมฺหากํ วสนโยคฺคนฺติ อธิปฺปาโยฯ เอวํ ปน อุปชฺฌาเยน วุตฺโต สิวโก ภทฺโร อสฺสาชานีโย วิย กสาภิหโต สญฺชาตสํเวโค หุตฺวา อรญฺญเมว คนฺตุกามตํ ปเวเทนฺโต –

‘‘คาเม เม วสติ กาโย, อรญฺญํ เม คตํ มโน;

เสมานโกปิ คจฺฉามิ, นตฺถิ สงฺโค วิชานต’’นฺติฯ –อาห;

ตสฺสตฺโถ – ยสฺมา อิทานิ ยทิปิ เม อิทํ สรีรํ คามนฺเต ฐิตํ, อชฺฌาสโย ปน อรญฺญเมว คโต, ตสฺมา เสมานโกปิ คจฺฉามิ เคลญฺเญน ฐานนิสชฺชาคมเนสุ อสมตฺถตาย สยาโนปิ อิมินา สยิตากาเรน สรีสโป วิย สรีสปนฺโต, เอถ, ภนฺเต, อรญฺญเมว คจฺฉาม, กสฺมา? นตฺถิ สงฺโค วิชานตนฺติ, ยสฺมา ธมฺมสภาวา กาเมสุ สํสาเร จ อาทีนวํ, เนกฺขมฺเม นิพฺพาเน จ อานิสํสํ ยาถาวโต ชานนฺตสฺส น กตฺถจิ สงฺโค, ตสฺมา เอกปเทเนว อุปชฺฌายสฺส อาณา อนุฐิตาติ, ตทปเทเสน อญฺญํ พฺยากาสิฯ

สิวกสามเณรคาถาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

5. กุณฺฑธานตฺเถรคาถาวณฺณนา

ปญฺจ ฉินฺเท ปญฺจ ชเหติ อายสฺมโต กุณฺฑธานตฺเถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? โส กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร กุลเคเห อุปฺปนฺโน วยปฺปตฺโต เหฏฺฐา วุตฺตนเยเนว ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารา เอกํ ภิกฺขุํ ปฐมํ สลากํ คณฺหนฺตานํ อคฺคฏฺฐาเน ฐปิยมานํ ทิสฺวา ตํ ฐานนฺตรํ ปตฺเถตฺวา ตทนุรูปํ ปุญฺญํ กโรนฺโต วิจริฯ โส เอกทิวสํ ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต นิโรธสมาปตฺติโต วุฏฺฐาย นิสินฺนสฺส มโนสิลาจุณฺณปิญฺชรํ มหนฺตํ กทลิผลกณฺณิกํ อุปเนสิ, ตํ ภควา ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุญฺชิฯ โส เตน ปุญฺญกมฺเมน เอกาทสกฺขตฺตุํ เทเวสุ เทวรชฺชํ กาเรสิฯ จตุวีสติวาเร ราชา อโหสิ จกฺกวตฺตีฯ เอวํ โส ปุนปฺปุนํ ปุญฺญานิ กตฺวา อปราปรํ เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต กสฺสปพุทฺธกาเล ภุมฺมเทวตา หุตฺวา นิพฺพตฺติฯ ทีฆายุกพุทฺธานญฺจ นาม น อนฺวทฺธมาสิโก อุโปสโถ โหติฯ ตถา หิ วิปสฺสิสฺส ภควโต ฉพฺพสฺสนฺตเร ฉพฺพสฺสนฺตเร อุโปสโถ อโหสิฯ กสฺสปทสพโล ปน ฉฏฺเฐ ฉฏฺเฐ มาเส ปาติโมกฺขํ โอสาเรสิฯ ตสฺส ปาติโมกฺขสฺส โอสารณกาเล ทิสาวาสิกา ทฺเว สหายกา ภิกฺขู ‘‘อุโปสถํ กริสฺสามา’’ติ คจฺฉนฺติฯ

อยํ ภุมฺมเทวตา จินฺเตสิ – ‘‘อิเมสํ ทฺวินฺนํ ภิกฺขูนํ เมตฺติ อติวิย ทฬฺหา, กิํ นุ โข, เภทเก สติ ภิชฺเชยฺย, น ภิชฺเชยฺยา’’ติ, สา เตสํ โอกาสํ โอโลกยมานา เตสํ อวิทูเรเนว คจฺฉติฯ อเถโก เถโร เอกสฺส หตฺเถ ปตฺตจีวรํ ทตฺวา สรีรวฬญฺชนตฺถํ อุทกผาสุกฏฺฐานํ คนฺตฺวา โธตหตฺถปาโท หุตฺวา คุมฺพสมีปโต นิกฺขมติ ภุมฺมเทวตา ตสฺส เถรสฺส ปจฺฉโต อุตฺตมรูปา อิตฺถี หุตฺวา เกเส วิธุนิตฺวา สํวิธาย สมฺพนฺธนฺตี วิย ปิฏฺฐิยํ ปํสุํ ปุญฺฉมานา วิย สาฏกํ สํวิธาย นิวาสยมานา วิย จ หุตฺวา เถรสฺส ปทานุปทิกา หุตฺวา คุมฺพโต นิกฺขนฺตาฯ เอกมนฺเต ฐิโต สหายกตฺเถโร ตํ การณํ ทิสฺวาว โทมนสฺสชาโต ‘‘นฏฺโฐ ทานิ เม อิมินา ภิกฺขุนา สทฺธิํ ทีฆรตฺตานุคโต สิเนโห, สจาหํ เอวํวิธภาวํ ชาเนยฺยํ, เอตฺตกํ อทฺธานํ อิมินา สทฺธิํ วิสฺสาสํ น กเรยฺย’’นฺติ จินฺเตตฺวา อาคจฺฉนฺตสฺเสวสฺส, ‘‘หนฺทาวุโส, ตุยฺหํ ปตฺตจีวรํ, ตาทิเสน ปาเปน สทฺธิํ เอกมคฺคํ นาคจฺฉามี’’ติ อาหฯ ตํ กถํ สุตฺวา ตสฺส ลชฺชิภิกฺขุโน หทยํ ติขิณสตฺติํ คเหตฺวา วิทฺธํ วิย อโหสิฯ ตโต นํ อาห – ‘‘อาวุโส, กิํ นาเมตํ วทสิ, อหํ เอตฺตกํ กาลํ ทุกฺกฏมตฺตมฺปิ อาปตฺติํ น ชานามิฯ ตฺวํ ปน มํ อชฺช ‘ปาโป’ติ วทสิ, กิํ เต ทิฏฺฐ’’นฺติฯ ‘‘กิํ อญฺเญน ทิฏฺเฐน, กิํ ตฺวํ เอวํวิเธน อลงฺกตปฏิยตฺเตน มาตุคาเมน สทฺธิํ เอกฏฺฐาเน หุตฺวา นิกฺขนฺโต’’ติฯ ‘‘นตฺเถตํ, อาวุโส, มยฺหํ, นาหํ เอวรูปํ มาตุคามํ ปสฺสามี’’ติฯ