เมนู

2. วจฺฉโคตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา

เตวิชฺโชหํ มหาฌายีติ อายสฺมโต วจฺฉโคตฺตตฺเถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลพีชํ โรเปนฺโต วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล พนฺธุมตีนคเร กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปตฺโต เอกทิวสํ รญฺญา นาคเรหิ จ สทฺธิํ พุทฺธปูชํ กตฺวา ตโต ปรํ เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห วิภวสมฺปนฺนสฺส พฺราหฺมณสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ตสฺส วจฺฉโคตฺตตาย วจฺฉโคตฺโตตฺเวว สมญฺญา อโหสิฯ โส วิญฺญุตํ ปตฺวา พฺราหฺมณวิชฺชาสุ นิปฺผตฺติํ คโต วิมุตฺติํ คเวสนฺโต ตตฺถ สารํ อทิสฺวา ปริพฺพาชกปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา วิจรนฺโต สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺหํ ปุจฺฉิตฺวา ตสฺมิํ วิสฺสชฺชิเต ปสนฺนมานโส สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต นจิรสฺเสว ฉฬภิญฺโญ อโหสิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร 1.16.15-20) –

‘‘อุเทนฺตํ สตรํสิํว, ปีตรํสิํว ภาณุมํ;

ปนฺนรเส ยถา จนฺทํ, นิยฺยนฺตํ โลกนายกํฯ

‘‘อฏฺฐสฏฺฐิสหสฺสานิ, สพฺเพ ขีณาสวา อหุํ;

ปริวาริํสุ สมฺพุทฺธํ, ทฺวิปทินฺทํ นราสภํฯ

‘‘สมฺมชฺชิตฺวาน ตํ วีถิํ, นิยฺยนฺเต โลกนายเก;

อุสฺสาเปสิํ ธชํ ตตฺถ, วิปฺปสนฺเนน เจตสาฯ

‘‘เอกนวุติโต กปฺเป, ยํ ธชํ อภิโรปยิํ;

ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, ธชทานสฺสิทํ ผลํฯ

‘‘อิโต จตุตฺถเก กปฺเป, ราชาโหสิํ มหพฺพโล;

สพฺพากาเรน สมฺปนฺโน, สุธโช อิติ วิสฺสุโตฯ

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

ฉฬภิญฺโญ ปน หุตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺติํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา โสมนสฺสชาโต อุทานวเสน –

[112]

‘‘เตวิชฺโชหํ มหาฌายี, เจโตสมถโกวิโท;

สทตฺโถ เม อนุปฺปตฺโต, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ – คาถํ อภาสิ;

ตตฺถ เตวิชฺโชหนฺติ ยทิปิ มํ ปุพฺเพ ติณฺณํ เวทานํ ปารํ คตตฺตา ‘‘พฺราหฺมโณ เตวิชฺโช’’ติ สญฺชานนฺติ, ตํ ปน สมญฺญามตฺตํ เวเทสุ วิชฺชากิจฺจสฺส อภาวโตฯ อิทานิ ปน ปุพฺเพนิวาสญาณาทีนํ ติสฺสนฺนํ วิชฺชานํ อธิคตตฺตา ปรมตฺถโต เตวิชฺโช อหํ, มหนฺตสฺส อนวเสสสฺส สมุทยปกฺขิยสฺส กิเลสคณสฺส ฌาปนโต, มหนฺเตน มคฺคผลฌาเนน มหนฺตสฺส อุฬารสฺส ปณีตสฺส นิพฺพานสฺส ฌายนโต จ มหาฌายีฯ เจโตสมถโกวิโทติ จิตฺตสงฺโขภกรานํ สํกิเลสธมฺมานํ วูปสมเนน เจตโส สมาทหเน กุสโลฯ เอเตน เตวิชฺชภาวสฺส การณมาหฯ สมาธิโกสลฺลสหิเตน หิ อาสวกฺขเยน เตวิชฺชตา, น เกวเลนฯ สทตฺโถติ สกตฺโถ ก-การสฺสายํ ท-กาโร กโต ‘‘อนุปฺปตฺตสทตฺโถ’’ติอาทีสุ (ม. นิ. 1.9; อ. นิ. 3.38) วิยฯ ‘‘สทตฺโถ’’ติ จ อรหตฺตํ เวทิตพฺพํฯ ตญฺหิ อตฺตปฏิพนฺธฏฺเฐน อตฺตานํ อวิชหนฏฺเฐน อตฺตโน ปรมตฺถฏฺเฐน อตฺตโน อตฺถตฺตา ‘‘สกตฺโถ’’ติ วุจฺจติฯ สฺวายํ สทตฺโถ เม มยา อนุปฺปตฺโต อธิคโตฯ เอเตน ยถาวุตฺตํ มหาฌายิภาวํ สิขาปตฺตํ กตฺวา ทสฺเสติฯ เสสํ วุตฺตนยเมวฯ

วจฺฉโคตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

3. วนวจฺฉตฺเถรคาถาวณฺณนา

อจฺโฉทิกา ปุถุสิลาติ อายสฺมโต วนวจฺฉตฺเถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลพีชํ โรเปนฺโต วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปตฺโต ปรสฺส กมฺมํ กตฺวา ชีวนฺโต กสฺสจิ อปราธํ กตฺวา มรณภเยน ตชฺชิโต ปลายนฺโต อนฺตรามคฺเค โพธิรุกฺขํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส ตสฺส มูลํ สมฺมชฺชิตฺวา ปิณฺฑิพนฺเธหิ อโสกปุปฺเผหิ ปูชํ กตฺวา วนฺทิตฺวา โพธิํ อภิมุโข นมสฺสมาโน ปลฺลงฺเกน นิสินฺโน มาเรตุํ อาคเต ปจฺจตฺถิเก ทิสฺวา เตสุ จิตฺตํ อโกเปตฺวา โพธิํ เอว อาวชฺเชนฺโต สตโปริเส ปปาเต ปปติฯ โส เตน ปุญฺญกมฺเมน เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา อปราปรํ ปุญฺญานิ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห วิภวสมฺปนฺนสฺส พฺราหฺมณสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ‘‘วจฺโฉ’’ติสฺส นามํ อโหสิฯ โส วยปฺปตฺโต พิมฺพิสารสมาคเม ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร 1.16.7-14) –

‘‘ปรกมฺมายเน ยุตฺโต, อปราธํ อกาสหํ;

วนนฺตํ อภิธาวิสฺสํ, ภยเวรสมปฺปิโตฯ

‘‘ปุปฺผิตํ ปาทปํ ทิสฺวา, ปิณฺฑิพนฺธํ สุนิมฺมิตํ;

ตมฺพปุปฺผํ คเหตฺวาน, โพธิยํ โอกิริํ อหํฯ

‘‘สมฺมชฺชิตฺวาน ตํ โพธิํ, ปาฏลิํ ปาทปุตฺตมํ;

ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวาน, โพธิมูเล อุปาวิสิํฯ

‘‘คตมคฺคํ คเวสนฺตา, อาคจฺฉุํ มม สนฺติกํ;

เต จ ทิสฺวานหํ ตตฺถ, อาวชฺชิํ โพธิมุตฺตมํฯ

‘‘วนฺทิตฺวาน อหํ โพธิํ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา;

อเนกตาเล ปปติํ, คิริทุคฺเค ภยานเกฯ

‘‘เอกนวุติโต กปฺเป, ยํ ปุปฺผมภิโรปยิํ;

ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, โพธิปูชายิทํ ผลํฯ

‘‘อิโต จ ตติเย กปฺเป, ราชา สุสญฺญโต อหํ;

สตฺตรตนสมฺปนฺโน, จกฺกวตฺตี มหพฺพโลฯ

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา วิเวกาภิรติยา วเนเยว วสิ, เตน วนวจฺโฉติ สมญฺญา อุทปาทิฯ