เมนู

10. สีวลิตฺเถรคาถาวณฺณนา

เต เม อิชฺฌิํสุ สงฺกปฺปาติ อายสฺมโต สีวลิตฺเถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล เหฏฺฐา วุตฺตนเยน วิหารํ คนฺตฺวา ปริสปริยนฺเต ฐิโต ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ ลาภีนํ อคฺคฏฺฐาเน ฐเปนฺตํ ทิสฺวา ‘‘มยาปิ อนาคเต เอวรูเปน ภวิตุํ วฏฺฏตี’’ติ ทสพลํ นิมนฺเตตฺวา สตฺตาหํ สตฺถุ ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ มหาทานํ ทตฺวา ‘‘ภควา อหํ อิมินา อธิการกมฺเมน อญฺญํ สมฺปตฺติํ น ปตฺเถมิ, อนาคเต ปน เอกพุทฺธสฺส สาสเน อหมฺปิ ตุมฺเหหิ โส เอตทคฺเค ฐปิตภิกฺขุ วิย ลาภีนํ อคฺโค ภเวยฺย’’นฺติ ปตฺถนํ อกาสิฯ สตฺถา อนนฺตรายํ ทิสฺวา – ‘‘อยํ เต ปตฺถนา อนาคเต โคตมพุทฺธสฺส สนฺติเก สมิชฺฌิสฺสตี’’ติ พฺยากริตฺวา ปกฺกามิฯ โสปิ กุลปุตฺโต ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต วิปสฺสีพุทฺธกาเล พนฺธุมตีนครโต อวิทูเร เอกสฺมิํ คามเก ปฏิสนฺธิํ คณฺหิฯ ตสฺมิํ สมเย พนฺธุมตีนครวาสิโน รญฺญา สทฺธิํ สากจฺฉิตฺวา ทสพลสฺส ทานํ เทนฺติฯ เต เอกทิวสํ สพฺเพว เอกโต หุตฺวา ทานํ เทนฺตา ‘‘กิํ นุ โข อมฺหากํ ทานมุเข นตฺถี’’ติ (อ. นิ. อฏฺฐ. 1.1.207) มธุญฺจ คุฬทธิญฺจ น อทฺทสํสุฯ เต ‘‘ยโต กุโตจิ อาหริสฺสามา’’ติ ชนปทโต นครปวิสนมคฺเค ปุริสํ ฐเปสุํฯ ตทา เอส กุลปุตฺโต อตฺตโน คามโต คุฬทธิวารกํ คเหตฺวา, ‘‘กิญฺจิเทว อาหริสฺสามี’’ติ นครํ คจฺฉนฺโต, ‘‘มุขํ โธวิตฺวา โธตหตฺถปาโท ปวิสิสฺสามี’’ติ ผาสุกฏฺฐานํ โอโลเกนฺโต นงฺคลสีสมตฺตํ นิมฺมกฺขิกํ ทณฺฑกมธุํ ทิสฺวา ‘‘ปุญฺเญน เม อิทํ อุปฺปนฺน’’นฺติ คเหตฺวา นครํ ปาวิสิฯ นาคเรหิ ฐปิตปุริโส ตํ ทิสฺวา, ‘‘โภ ปุริส, กสฺสิมํ อาหรสี’’ติ ปุจฺฉิฯ ‘‘น กสฺสจิ, สามิ, วิกฺกิณิตุํ ปน เม อิทํ อาภต’’นฺติฯ ‘‘เตน หิ, โภ, อิทํ กหาปณํ คเหตฺวา เอตํ มธุญฺจ คุฬทธิญฺจ เทหี’’ติฯ โส จินฺเตสิ – ‘‘อิทํ น พหุมูลํ, อยญฺจ เอกปฺปหาเรเนว พหุํ เทติ, วีมํสิตุํ วฏฺฏตี’’ติฯ ตโต นํ ‘‘นาหํ เอเกน กหาปเณน เทมี’’ติ อาหฯ ‘‘ยทิ เอวํ ทฺเว คเหตฺวา เทหี’’ติฯ ‘‘ทฺวีหิปิ น เทมี’’ติฯ เอเตนุปาเยน วฑฺเฒตฺวา สหสฺสํ ปาปุณิฯ

โส จินฺเตสิ – ‘‘อติวฑฺฒิตุํ น วฏฺฏติ, โหตุ ตาว อิมินา กตฺตพฺพกิจฺจํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติฯ อถ นํ อาห – ‘‘อิทํ น พหุํ อคฺฆนกํ, ตฺวญฺจ พหุํ เทสิ, เกน กมฺเมน อิทํ คณฺหาสี’’ติฯ ‘‘อิธ, โภ, นครวาสิโน รญฺญา สทฺธิํ ปฏิวิรุชฺฌิตฺวา วิปสฺสีทสพลสฺส ทานํ เทนฺตา อิทํ ทฺวยํ ทานมุเข อปสฺสนฺตา ปริเยสนฺติ, สเจ อิทํ ทฺวยํ น ลภิสฺสนฺติ, นาครานํ ปราชโย ภวิสฺสติ, ตสฺมา สหสฺสํ กตฺวา คณฺหามี’’ติฯ ‘‘กิํ ปเนตํ นาครานเมว วฏฺฏติ, อญฺเญสํ ทาตุํ น วฏฺฏตี’’ติฯ ‘‘ยสฺส กสฺสจิ ทาตุํ อวาริตเมต’’นฺติฯ ‘‘อตฺถิ ปน โกจิ นาครานํ ทาเน เอกทิวสํ สหสฺสํ ทาตา’’ติ? ‘‘นตฺถิ, สมฺมา’’ติฯ ‘‘อิเมสํ ปน ทฺวินฺนํ สหสฺสคฺฆนกภาวํ ชานาสี’’ติ? ‘‘อาม, ชานามี’’ติฯ

‘‘เตน หิ คจฺฉ, นาครานํ อาจิกฺข ‘เอโก ปุริโส อิมานิ ทฺเว มูเลน น เทติ สหตฺเถเนว ทาตุกาโม, ตุมฺเห อิเมสํ ทฺวินฺนํ การณา นิพฺพิตกฺกา โหถา’ติ, ตฺวํ ปน เม อิมสฺมิํ ทานมุเข เชฏฺฐกภาวสฺส กายสกฺขี โหหี’’ติฯ โส ปริพฺพยตฺถํ คหิตมาสเกน ปญฺจกฏุกํ คเหตฺวา จุณฺณํ กตฺวา ทธิโต กญฺชิยํ คเหตฺวา ตตฺถ มธุปฏลํ ปีเฬตฺวา ปญฺจกฏุกจุณฺเณน โยเชตฺวา เอกสฺมิํ ปทุมินิปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา ตํ สํวิทหิตฺวา อาทาย ทสพลสฺส อวิทูรฏฺฐาเน นิสีทิ มหาชเนน อาหริยมานสฺส สกฺการสฺส อวิทูเร อตฺตโน ปตฺตวารํ โอโลกยมาโน, โส โอกาสํ ญตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ภควา อยํ อุปฺปนฺนทุคฺคตปณฺณากาโร, อิมํ เม อนุกมฺปํ ปฏิจฺจ ปฏิคฺคณฺหถาติฯ สตฺถา ตสฺส อนุกมฺปํ ปฏิจฺจ จตุมหาราชทตฺติเยน เสลมยปตฺเตน ตํ ปฏิคฺคเหตฺวา ยถา อฏฺฐสฏฺฐิยา ภิกฺขุสตสหสฺสสฺส ทิยฺยมานํ น ขียติ, เอวํ อธิฏฺฐาสิฯ โส กุลปุตฺโต นิฏฺฐิตภตฺตกิจฺจํ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ ฐิโต อาห – ‘‘ทิฏฺโฐ เม, ภควา, อชฺช พนฺธุมตีนครวาสิเกหิ ตุมฺหากํ สกฺกาโร อาหริยมาโน, อหมฺปิ อิมสฺส กมฺมสฺส นิสฺสนฺเทน นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตภเว ลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺโต ภเวยฺย’’นฺติ (อ. นิ. อฏฺฐ. 1.1.207)ฯ สตฺถา, ‘‘เอวํ โหตุ, กุลปุตฺตา’’ติ วตฺวา ตสฺส จ นครวาสีนญฺจ ภตฺตานุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิฯ

โสปิ กุลปุตฺโต ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท สุปฺปวาสาย ราชธีตาย กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธิํ คณฺหิฯ ปฏิสนฺธิคฺคหณโต ปฏฺฐาย สายํ ปาตญฺจ ปณฺณาการสตานิ สกเฏนาทาย สุปฺปวาสาย อุปนียนฺติฯ อถ นํ ปุญฺญวีมํสนตฺถํ หตฺเถน พีชปจฺฉิํ ผุสาเปนฺติฯ เอเกกพีชโต สลากสตมฺปิ สลากสหสฺสมฺปิ นิคฺคจฺฉติฯ เอเกกกรีสเขตฺเต ปณฺณาสมฺปิ สฏฺฐิปิ สกฏปฺปมาณานิ อุปฺปชฺชนฺติฯ โกฏฺเฐ ปูรณกาเลปิ โกฏฺฐทฺวารํ หตฺเถน ผุสาเปนฺติฯ ราชธีตาย ปุญฺเญน คณฺหนฺตานํ คหิตคหิตฏฺฐานํ ปุน ปูรติฯ ปริปุณฺณภตฺตภาชนโตปิ ‘‘ราชธีตาย ปุญฺญ’’นฺติ วตฺวา ยสฺส กสฺสจิ เทนฺตานํ ยาว น อุกฺกฑฺฒนฺติ, น ตาว ภตฺตํ ขียติ, ทารเก กุจฺฉิคเตเยว สตฺตวสฺสานิ อติกฺกมิํสุฯ

คพฺเภ ปน ปริปกฺเก สตฺตาหํ มหาทุกฺขํ อนุโภสิฯ สา สามิกํ อามนฺเตตฺวา, ‘‘ปุเร มรณา ชีวมานาว ทานํ ทสฺสามี’’ติ สตฺถุ สนฺติกํ เปเสสิ – ‘‘คจฺฉ, อิมํ ปวตฺติํ สตฺถุ อาโรเจตฺวา สตฺถารํ นิมนฺเตหิ, ยญฺจ สตฺถา วเทติ, ตํ สาธุกํ อุปลกฺเขตฺวา อาคนฺตฺวา มยฺหํ กเถหี’’ติฯ โส คนฺตฺวา ตสฺสา สาสนํ ภควโต อาโรเจสิฯ สตฺถา, ‘‘สุขินี โหตุ สุปฺปวาสา โกลิยธีตา อโรคา, อโรคํ ปุตฺตํ วิชายตู’’ติ (อุทา. 18) อาหฯ ราชา ตํ สุตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา อตฺตโน คามาภิมุโข ปายาสิฯ ตสฺส ปุเร อาคมนาเยว สุปฺปวาสาย กุจฺฉิโต ธมกรณา อุทกํ วิย คพฺโภ นิกฺขมิ, ปริวาเรตฺวา นิสินฺนชโน อสฺสุมุโขว หสิตุํ อารทฺโธ ตุฏฺฐปหฏฺโฐ มหาชโน รญฺโญ สาสนํ อาโรเจตุํ อคมาสิฯ

ราชา เตสํ อาคมนํ ทิสฺวาว, ‘‘ทสพเลน กถิตกถา นิปฺผนฺนา ภวิสฺสติ มญฺเญ’’ติ จินฺเตสิฯ โส อาคนฺตฺวา สตฺถุ สาสนํ ราชธีตาย อาโรเจสิฯ ราชธีตา ตยา นิมนฺติตํ ชีวิตภตฺตเมว มงฺคลภตฺตํ ภวิสฺสติ, คจฺฉ สตฺตาหํ ทสพลํ นิมนฺเตหีติฯ ราชา ตถา อกาสิฯ สตฺตาหํ พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส มหาทานํ ปวตฺตยิํสุฯ ทารโก สพฺเพสํ ญาตีนํ สนฺตตฺตํ จิตฺตํ นิพฺพาเปนฺโต ชาโตติ สีวลิทารโกตฺเววสฺส นามํ อกํสุฯ โส สตฺตวสฺสานิ คพฺเภ วสิตตฺตา ชาตกาลโต ปฏฺฐาย สพฺพกมฺมกฺขโม อโหสิฯ ธมฺมเสนาปติ สาริปุตฺโต สตฺตเม ทิวเส เตน สทฺธิํ กถาสลฺลาปํ อกาสิฯ สตฺถาปิ ธมฺมปเท คาถํ อภาสิ –

‘‘โยมํ ปลิปถํ ทุคฺคํ, สํสารํ โมหมจฺจคา;

ติณฺโณ ปารงฺคโต ฌายี, อเนโช อกถํกถี;

อนุปาทาย นิพฺพุโต, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณ’’นฺติฯ (ธ. ป. 414);

อถ นํ เถโร เอวมาห – ‘‘กิํ ปน ตยา เอวรูปํ ทุกฺขราสิํ อนุภวิตฺวา ปพฺพชิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘ลภมาโน ปพฺพเชยฺยํ, ภนฺเต’’ติฯ สุปฺปวาสา นํ ทารกํ เถเรน สทฺธิํ กเถนฺตํ ทิสฺวา ‘‘กิํ นุ โข เม ปุตฺโต ธมฺมเสนาปตินา สทฺธิํ กเถตี’’ติ เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘มยฺหํ ปุตฺโต ตุมฺเหหิ สทฺธิํ กิํ กเถติ, ภนฺเต’’ติ? ‘‘อตฺตนา อนุภูตํ คพฺภวาสทุกฺขํ กเถตฺวา, ‘ตุมฺเหหิ อนุญฺญาโต ปพฺพชิสฺสามี’ติ วทตี’’ติฯ

‘‘สาธุ , ภนฺเต, ปพฺพาเชถ น’’นฺติฯ เถโร ตํ วิหารํ เนตฺวา ตจปญฺจกกมฺมฏฺฐานํ ทตฺวา ปพฺพาเชนฺโต ‘‘สีวลิ, น ตุยฺหํ อญฺเญน โอวาเทน กมฺมํ อตฺถิ, ตยา สตฺต วสฺสานิ อนุภูตทุกฺขเมว ปจฺจเวกฺขาหี’’ติฯ ‘‘ภนฺเต, ปพฺพาชนเมว ตุมฺหากํ ภาโร, ยํ ปน มยา กาตุํ สกฺกา, ตมหํ ชานิสฺสามี’’ติฯ โส ปน ปฐมเกสวฏฺฏิยา โอหารณกฺขเณเยว โสตาปตฺติผเล ปติฏฺฐาสิ, ทุติยาย โอหารณกฺขเณ สกทาคามิผเล, ตติยาย อนาคามิผเล สพฺเพสํเยว ปน เกสานํ โอโรปนญฺจ อรหตฺตสจฺฉิกิริยา จ อปจฺฉา อปุริมา อโหสิฯ ตสฺส ปพฺพชิตทิวสโต ปฏฺฐาย ภิกฺขุสงฺฆสฺส จตฺตาโร ปจฺจยา ยาวติจฺฉกํ อุปฺปชฺชนฺติฯ เอวํ เอตฺถ วตฺถุ สมุฏฺฐิตํฯ

อปรภาเค สตฺถา สาวตฺถิํ อคมาสิฯ เถโร สตฺถารํ อภิวาเทตฺวา, ‘‘ภนฺเต, มยฺหํ ปุญฺญํ วีมํสิสฺสามิ, ปญฺจ เม ภิกฺขุสตานิ เทถา’’ติ อาหฯ ‘‘คณฺห สีวลี’’ติฯ โส ปญฺจสเต ภิกฺขู คเหตฺวา หิมวนฺตาภิมุขํ คจฺฉนฺโต อฏวิมคฺคํ คจฺฉติ, ตสฺส ปฐมํ ทิฏฺฐนิคฺโรเธ อธิวตฺถา เทวตา สตฺตทิวสานิ ทานํ อทาสิฯ อิติ โส –

‘‘นิคฺโรธํ ปฐมํ ปสฺสิ, ทุติยํ ปณฺฑวปพฺพตํ;

ตติยํ อจิรวติยํ, จตุตฺถํ วรสาครํฯ

‘‘ปญฺจมํ หิมวนฺตํ โส, ฉฏฺฐํ ฉทฺทนฺตุปาคมิ;

สตฺตมํ คนฺธมาทนํ, อฏฺฐมํ อถ เรวต’’นฺติฯ

สพฺพฏฺฐาเนสุ สตฺต สตฺต ทิวสาเนว ทานํ อทํสุฯ คนฺธมาทนปพฺพเต ปน นาคทตฺตเทวราชา นาม สตฺตสุ ทิวเสสุ เอกทิวเส ขีรปิณฺฑปาตํ อทาสิ, เอกทิวเส สปฺปิปิณฺฑปาตํฯ ภิกฺขุสงฺโฆ อาห – ‘‘อิมสฺส เทวรญฺโญ เนว เธนุโย ทุยฺหมานา ปญฺญายนฺติ, น ทธินิมฺมถนํ , กุโต เต เทวราช อิทํ อุปฺปชฺชตี’’ติฯ ‘‘ภนฺเต กสฺสปทสพลสฺส กาเล ขีรสลากภตฺตทานสฺเสตํ ผล’’นฺติ เทวราชา อาหฯ อปรภาเค สตฺถา ขทิรวนิยเรวตสฺส ปจฺจุคฺคมนํ อฏฺฐุปฺปตฺติํ กตฺวา เถรํ อตฺตโน สาสเน ลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺตานํ อคฺคฏฺฐาเน ฐเปสิฯ

เอวํ ลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺตสฺส ปน อิมสฺส เถรสฺส อรหตฺตปฺปตฺติํ เอกจฺเจ อาจริยา เอวํ วทนฺติ – ‘‘เหฏฺฐา วุตฺตนเยน ธมฺมเสนาปตินา โอวาเท ทินฺเน ยํ มยา กาตุํ สกฺกา, ตมหํ ชานิสฺสามีติ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนากมฺมฏฺฐานํ คเหตฺวา ตํ ทิวสํเยว อญฺญตรํ วิวิตฺตํ กุฏิกํ ทิสฺวา ตํ ปวิสิตฺวา มาตุกุจฺฉิสฺมิํ สตฺต วสฺสานิ อตฺตนา อนุภูตํ ทุกฺขํ อนุสฺสริตฺวา ตทนุสาเรน อตีตานาคเต ตสฺส อเวกฺขนฺตสฺส อาทิตฺตา วิย ตโย ภวา อุปฏฺฐหิํสุฯ ญาณสฺส ปริปากํ คตตฺตา วิปสฺสนาวีถิํ โอตริ, ตาวเทว มคฺคปฺปฏิปาฏิยา สพฺเพปิ อาสเว เขเปนฺโต อรหตฺตํ ปาปุณี’’ติฯ อุภยถาปิ เถรสฺส อรหตฺตปฺปตฺติเยว ปกาสิตาฯ เถโร ปน ปภินฺนปฏิสมฺภิโท ฉฬภิญฺโญ อโหสิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร 1.12.31-39) –

‘‘วรุโณ นาม นาเมน, เทวราชา อหํ ตทา;

อุปฏฺฐเหสิํ สมฺพุทฺธํ, สโยคฺคพลวาหโนฯ

‘‘นิพฺพุเต โลกนาถมฺหิ, อตฺถทสฺสีนรุตฺตเม;

ตูริยํ สพฺพมาทาย, อคมํ โพธิมุตฺตมํฯ

‘‘วาทิเตน จ นจฺเจน, สมฺมตาฬสมาหิโต;

สมฺมุขา วิย สมฺพุทฺธํ, อุปฏฺฐิํ โพธิมุตฺตมํฯ

‘‘อุปฏฺฐหิตฺวา ตํ โพธิํ, ธรณีรุหปาทปํ;

ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวาน, ตตฺถ กาลงฺกโต อหํฯ

‘‘สกกมฺมาภิรทฺโธหํ, ปสนฺโน โพธิมุตฺตเม;

เตน จิตฺตปฺปสาเทน, นิมฺมานํ อุปปชฺชหํฯ

‘‘สฏฺฐิตูริยสหสฺสานิ, ปริวาเรนฺติ มํ สทา;

มนุสฺเสสุ จ เทเวสุ, วตฺตมานํ ภวาภเวฯ

‘‘ติวิธคฺคี นิพฺพุตา มยฺหํ, ภวา สพฺเพ สมูหตา;

ธาเรมิ อนฺติมํ เทหํ, สมฺมาสมฺพุทฺธสาสเนฯ

‘‘สุพาหู นาม นาเมน, จตุตฺติํสาสุ ขตฺติยา;

สตฺตรตนสมฺปนฺนา, ปญฺจกปฺปสเต อิโตฯ

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา วิมุตฺติสุขปฏิสํเวทเนน ปีติเวเคน อุทาเนนฺโต ‘‘เต เม อิชฺฌิํสุ สงฺกปฺปา’’ติ คาถํ อภาสิฯ

[60] ตตฺถ เต เม อิชฺฌิํสุ สงฺกปฺปา, ยทตฺโถ ปาวิสิํ กุฏิํ, วิชฺชาวิมุตฺติํ ปจฺเจสนฺติ เย ปุพฺเพ มยา กามสงฺกปฺปาทีนํ สมุจฺเฉทกรา เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทโย อภิปตฺถิตาเยว ‘‘กทา นุ ขฺวาหํ ตทายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามิ, ยทริยา เอตรหิ อุปสมฺปชฺช วิหรนฺตี’’ติ, วิมุตฺตาธิปฺปายสญฺญิตา วิมุตฺติํ อุทฺทิสฺส สงฺกปฺปา มโนรถา อภิณฺหโส อปฺปมตฺตา ยทตฺโถ ยํปโยชโน เยสํ นิปฺผาทนตฺถํ กุฏิํ สุญฺญาคารํ วิปสฺสิตุํ ปาวิสิํ ติสฺโส วิชฺชา ผลวิมุตฺติญฺจ ปจฺเจสนฺโต, คเวสนฺโต เต เม อิชฺฌิํสุ เต สพฺเพว อิทานิ มยฺหํ อิชฺฌิํสุ สมิชฺฌิํสุ, นิปฺผนฺนกุสลสงฺกปฺโป ปริปุณฺณมโนรโถ ชาโตติ อตฺโถฯ เตสํ สมิทฺธภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘มานานุสยมุชฺชห’’นฺติ วุตฺตํฯ ยสฺมา มานานุสยมุชฺชหํ ปชหิํ สมุจฺฉินฺทิํ, ตสฺมา เต เม สงฺกปฺปา อิชฺฌิํสูติ โยชนาฯ มานานุสเย หิ ปหีเน อปฺปหีโน นาม อนุสโย นตฺถิ, อรหตฺตญฺจ อธิคตเมว โหตีติ มานานุสยปฺปหานํ ยถาวุตฺตสงฺกปฺปสมิทฺธิยา การณํ กตฺวา วุตฺตํฯ

สีวลิตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

ฉฏฺฐวคฺควณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

7. สตฺตมวคฺโค