เมนู

[487] เย จ เต สตตานุโยคิโนติ โอสานคาถาย อยํ สงฺเขปตฺโถ – อหมฺปิ นาม รตฺติยํ ปาณวธมตฺตโต วิรโต เอวรูปํ สมฺปตฺติํ อนุภวามิฯ เย ปน เต ปุริสา สุคตสฺส พุทฺธสฺส ภควโต สาสเน อธิสีลาทิเก ธุวํ ปยุตฺตา ทฬฺหํ ปยุตฺตา สตตํ สพฺพกาลํ อนุโยควนฺตา, เต ปุญฺญวนฺโต เกวลํ โลกิยสุเขน อสมฺมิสฺสํ ‘‘อสงฺขตํ ปท’’นฺติ ลทฺธนามํ อมตเมว อธิคจฺฉนฺติ มญฺเญ, นตฺถิ เตสํ ตทธิคเม โกจิ วิพนฺโธติฯ

เอวํ เตน เปเตน วุตฺเต เถโร ตํ ปวตฺติํ สตฺถุ อาโรเจสิฯ สตฺถา ตมตฺถํ อฏฺฐุปฺปตฺติํ กตฺวา สมฺปตฺตปริสาย ธมฺมํ เทเสสิฯ สพฺพมฺปิ วุตฺตนยเมวฯ

มิคลุทฺทกเปตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

8. ทุติยมิคลุทฺทกเปตวตฺถุวณฺณนา

กูฏาคาเร จ ปาสาเทติ อิทํ ภควติ เวฬุวเน วิหรนฺเต อปรํ มิคลุทฺทกเปตํ อารพฺภ วุตฺตํฯ ราชคเห กิร อญฺญตโร มาควิโก มาณโว วิภวสมฺปนฺโนปิ สมาโน โภคสุขํ ปหาย รตฺตินฺทิวํ มิเค หนนฺโต วิจรติฯ ตสฺส สหายภูโต เอโก อุปาสโก อนุทฺทยํ ปฏิจฺจ – ‘‘สาธุ, สมฺม, ปาณาติปาตโต วิรมาหิ, มา เต อโหสิ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ โอวาทํ อทาสิฯ โส ตํ อนาทิยิฯ อถ โส อุปาสโก อญฺญตรํ อตฺตโน มโนภาวนียํ ขีณาสวตฺเถรํ ยาจิ – ‘‘สาธุ, ภนฺเต, อสุกปุริสสฺส ตถา ธมฺมํ เทเสถ, ยถา โส ปาณาติปาตโต วิรเมยฺยา’’ติฯ

อเถกทิวสํ โส เถโร ราชคเห ปิณฺฑาย จรนฺโต ตสฺส เคหทฺวาเร อฏฺฐาสิฯ ตํ ทิสฺวา โส มาควิโก สญฺชาตพหุมาโน ปจฺจุคฺคนฺตฺวา เคหํ ปเวเสตฺวา อาสนํ ปญฺญาเปตฺวา อทาสิฯ นิสีทิ เถโร ปญฺญตฺเต อาสเน, โสปิ เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา นิสีทิฯ ตสฺส เถโร ปาณาติปาเต อาทีนวํ, ตโต วิรติยา อานิสํสญฺจ ปกาเสสิฯ โส ตํ สุตฺวาปิ ตโต วิรมิตุํ น อิจฺฉิฯ อถ นํ เถโร อาห – ‘‘สเจ, ตฺวํ อาวุโส, สพฺเพน สพฺพํ วิรมิตุํ น สกฺโกสิ, รตฺติมฺปิ ตาว วิรมสฺสู’’ติ, โส ‘‘สาธุ, ภนฺเต, วิรมามิ รตฺติ’’นฺติ ตโต วิรมิฯ เสสํ อนนฺตรวตฺถุสทิสํฯ คาถาสุ ปน –

[488]

‘‘กูฏาคาเร จ ปาสาเท, ปลฺลงฺเก โคนกตฺถเต;

ปญฺจงฺคิเกน ตุริเยน, รมสิ สุปฺปวาทิเตฯ

[489]

‘‘ตโต รตฺยา วิวสาเน, สูริยุคฺคมนํ ปติ;

อปวิทฺโธ สุสานสฺมิํ, พหุทุกฺขํ นิคจฺฉสิฯ

[490]

‘‘กิํ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;

กิสฺสกมฺมวิปาเกน, อิทํ ทุกฺขํ นิคจฺฉสี’’ติฯ –

ตีหิ คาถาหิ นารทตฺเถโร นํ ปฏิปุจฺฉิฯ อถสฺส เปโต –

[491]

‘‘อหํ ราชคเห รมฺเม, รมณีเย คิริพฺพเช;

มิคลุทฺโท ปุเร อาสิํ, ลุทฺโท จาสิมสญฺญโตฯ

[492]

‘‘ตสฺส เม สหาโย สุหทโย, สทฺโธ อาสิ อุปาสโก;

ตสฺส กุลูปโก ภิกฺขุ, อาสิ โคตมสาวโก;

โสปิ มํ อนุกมฺปนฺโต, นิวาเรสิ ปุนปฺปุนํฯ

[493]

‘‘‘มากาสิ ปาปกํ กมฺมํ, มา ตาต ทุคฺคติํ อคา;

สเจ อิจฺฉสิ เปจฺจ สุขํ, วิรม ปาณวธา อสํยมา’ฯ

[494]

‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, สุขกามสฺส หิตานุกมฺปิโน;

นากาสิํ สกลานุสาสนิํ, จิรปาปาภิรโต อพุทฺธิมาฯ

[495]

‘‘โส มํ ปุน ภูริสุเมธโส, อนุกมฺปาย สํยเม นิเวสยิ;

‘สเจ ทิวา หนสิ ปาณิโน, อถ เต รตฺติํ ภวตุ สํยโม’ฯ

[496]

‘‘สฺวาหํ ทิวา หนิตฺวา ปาณิโน, วิรโต รตฺติมโหสิ สญฺญโต;

รตฺตาหํ ปริจาเรมิ, ทิวา ขชฺชามิ ทุคฺคโตฯ

[497]

‘‘ตสฺส กมฺมสฺส กุสลสฺส, อนุโภมิ รตฺติํ อมานุสิํ;

ทิวา ปฏิหตาว กุกฺกุรา, อุปธาวนฺติ สมนฺตา ขาทิตุํฯ

[498]

‘‘เย จ เต สตตานุโยคิโน, ธุวํ ปยุตฺตา สุคตสฺส สาสเน;

มญฺญามิ เต อมตเมว เกวลํ, อธิคจฺฉนฺติ ปทํ อสงฺขต’’นฺติฯ –

ตมตฺถํ อาจิกฺขิฯ ตาสํ อตฺโถ เหฏฺฐา วุตฺตนโยวฯ

ทุติยมิคลุทฺทกเปตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

9. กูฏวินิจฺฉยิกเปตวตฺถุวณฺณนา

มาลี กิริฏี กายูรีติ อิทํ สตฺถริ เวฬุวเน วิหรนฺเต กูฏวินิจฺฉยิกเปตํ อารพฺภ วุตฺตํฯ ตทา พิมฺพิสาโร ราชา มาสสฺส ฉสุ ทิวเสสุ อุโปสถํ อุปวสติ, ตํ อนุวตฺตนฺตา พหู มนุสฺสา อุโปสถํ อุปวสนฺติฯ ราชา อตฺตโน สนฺติกํ อาคตาคเต มนุสฺเส ปุจฺฉติ – ‘‘กิํ ตุมฺเหหิ อุโปสโถ อุปวุตฺโถ, อุทาหุ น อุปวุตฺโถ’’ติ? ตตฺเรโก อธิกรเณ นิยุตฺตกปุริโส ปิสุณวาโจ เนกติโก ลญฺชคาหโก ‘‘น อุปวุตฺโถมฺหี’’ติ วตฺตุํ อสหนฺโต ‘‘อุปวุตฺโถมฺหิ, เทวา’’ติ อาหฯ อถ นํ ราชสมีปโต นิกฺขนฺตํ สหาโย อาห – ‘‘กิํ, สมฺม, อชฺช ตยา อุปวุตฺโถ’’ติ? ‘‘ภเยนาหํ, สมฺม, รญฺโญ สมฺมุขา เอวํ อโวจํ, นาหํ อุโปสถิโก’’ติฯ

อถ นํ สหาโย อาห – ‘‘ยทิ เอวํ อุปฑฺฒุโปสโถปิ ตาว เต อชฺช โหตุ, อุโปสถงฺคานิ สมาทิยาหี’’ติฯ