เมนู

5. ติโรกุฏฺฏเปตวตฺถุวณฺณนา

ติโรกุฏฺเฏสุ ติฏฺฐนฺตีติ อิทํ สตฺถา ราชคเห วิหรนฺโต สมฺพหุเล เปเต อารพฺภ กเถสิฯ

ตตฺรายํ วิตฺถารกถา – อิโต ทฺวานวุติกปฺเป กาสิ นาม นครํ อโหสิฯ ตตฺถ ชยเสโน นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิฯ ตสฺส สิริมา นาม เทวีฯ ตสฺสา กุจฺฉิยํ ผุสฺโส นาม โพธิสตฺโต นิพฺพตฺติตฺวา อนุปุพฺเพน สมฺมาสมฺโพธิํ อภิสมฺพุชฺฌิฯ ชยเสโน ราชา ‘‘มม ปุตฺโต มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิตฺวา พุทฺโธ ชาโต, มยฺหเมว พุทฺโธ, มยฺหํ ธมฺโม, มยฺหํ สงฺโฆ’’ติ มมตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา สพฺพกาลํ สยเมว อุปฏฺฐหติ, น อญฺเญสํ โอกาสํ เทติฯ

ภควโต กนิฏฺฐภาตโร เวมาติกา ตโย ภาตโร จินฺเตสุํ – ‘‘พุทฺธา นาม สพฺพโลก หิตตฺถาย อุปฺปชฺชนฺติ, น เอกสฺเสว อตฺถายฯ อมฺหากญฺจ ปิตา อญฺเญสํ โอกาสํ น เทติฯ กถํ นุ โข มยํ ลเภยฺยาม ภควนฺตํ อุปฏฺฐาตุํ ภิกฺขุสงฺฆญฺจา’’ติ? เตสํ เอตทโหสิ – ‘‘หนฺท มยํ กิญฺจิ อุปายํ กโรมา’’ติฯ เต ปจฺจนฺตํ กุปิตํ วิย การาเปสุํฯ ตโต ราชา ‘‘ปจฺจนฺโต กุปิโต’’ติ สุตฺวา ตโยปิ ปุตฺเต ปจฺจนฺตํ วูปสเมตุํ เปเสสิฯ เต คนฺตฺวา วูปสเมตฺวา อาคตาฯ ราชา ตุฏฺโฐ วรํ อทาสิ ‘‘ยํ อิจฺฉถ, ตํ คณฺหถา’’ติฯ เต ‘‘มยํ ภควนฺตํ อุปฏฺฐาตุํ อิจฺฉามา’’ติ อาหํสุฯ ราชา ‘‘เอตํ ฐเปตฺวา อญฺญํ คณฺหถา’’ติ อาหฯ เต ‘‘มยํ อญฺเญน อนตฺถิกา’’ติ อาหํสุฯ เตน หิ ปริจฺเฉทํ กตฺวา คณฺหถาติฯ เต สตฺต วสฺสานิ ยาจิํสุฯ ราชา น อทาสิฯ เอวํ ‘‘ฉ, ปญฺจ, จตฺตาริ, ตีณิ, ทฺเว, เอกํ, สตฺต มาเส, ฉ, ปญฺจ, จตฺตาโร’’ติ วตฺวา ยาว เตมาสํ ยาจิํสุฯ ตทา ราชา ‘‘คณฺหถา’’ติ อทาสิฯ

เต ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา อาหํสุ – ‘‘อิจฺฉาม มยํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ เตมาสํ อุปฏฺฐาตุํ, อธิวาเสตุ โน, ภนฺเต, ภควา อิมํ เตมาสํ วสฺสาวาส’’นฺติฯ อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวนฯ เต ตโย อตฺตโน ชนปเท นิยุตฺตกปุริสสฺส เลขํ เปเสสุํ ‘‘อิมํ เตมาสํ อมฺเหหิ ภควา อุปฏฺฐาตพฺโพ, วิหารํ อาทิํ กตฺวา สพฺพํ ภควโต อุปฏฺฐานสมฺภารํ สมฺปาเทหี’’ติฯ โส สพฺพํ สมฺปาเทตฺวา ปฏิเปเสสิฯ

เต กาสายวตฺถนิวตฺถา หุตฺวา ปุริสสหสฺเสหิ เวยฺยาวจฺจกเรหิ ภควนฺตํ ภิกฺขุสงฺฆญฺจ สกฺกจฺจํ อุปฏฺฐหมานา ชนปทํ เนตฺวา วิหารํ นิยฺยาเตตฺวา วสฺสํ วสาเปสุํฯ

เตสํ ภณฺฑาคาริโก เอโก คหปติปุตฺโต สปชาปติโก สทฺโธ อโหสิ ปสนฺโนฯ โส พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทานวตฺตํ สกฺกจฺจํ อทาสิฯ ชนปเท นิยุตฺตกปุริโส ตํ คเหตฺวา ชานปเทหิ เอกาทสมตฺเตหิ ปุริสสหสฺเสหิ สทฺธิํ สกฺกจฺจเมว ทานํ ปวตฺตาเปสิฯ ตตฺถ เกจิ ชานปทา ปฏิหตจิตฺตา อเหสุํฯ เต ทานสฺส อนฺตรายํ กตฺวา เทยฺยธมฺมํ อตฺตนา ขาทิํสุ, ภตฺตสาลญฺจ อคฺคินา ทหิํสุฯ ปวาริตา ราชปุตฺตา ภควโต สกฺการํ กตฺวา ภควนฺตํ ปุรกฺขตฺวา ปิตุ สนฺติกเมว ปจฺจาคมิํสุฯ ตตฺถ คนฺตฺวา ภควา ปรินิพฺพายิฯ ราชปุตฺตา จ ชนปเท นิยุตฺตกปุริโส จ ภณฺฑาคาริโก จ อนุปุพฺเพน กาลํ กตฺวา สทฺธิํ ปริสาย สคฺเค อุปฺปชฺชิํสุ, ปฏิหตจิตฺตา ชนา นิรเย อุปฺปชฺชิํสุฯ เอวํ เตสํ อุภเยสํ ชนานํ สคฺคโต สคฺคํ นิรยโต นิรยํ อุปปชฺชนฺตานํ ทฺวานวุติกปฺปา วีติวตฺตาฯ

อถ อิมสฺมิํ ภทฺทกปฺเป กสฺสปสฺส ภควโต กาเล เต ปฏิหตจิตฺตา ชนา เปเตสุ อุปฺปนฺนาฯ ตทา มนุสฺสา อตฺตโน อตฺตโน ญาตกานํ เปตานํ อตฺถาย ทานํ ทตฺวา อุทฺทิสนฺติ ‘‘อิทํ โน ญาตีนํ โหตู’’ติ, เต สมฺปตฺติํ ลภนฺติฯ อถ อิเมปิ เปตา ตํ ทิสฺวา กสฺสปํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิํสุ – ‘‘กิํ นุ โข, ภนฺเต, มยมฺปิ เอวรูปํ สมฺปตฺติํ ลเภยฺยามา’’ติ? ภควา อาห – ‘‘อิทานิ น ลภถ, อนาคเต ปน โคตโม นาม สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภวิสฺสติ, ตสฺส ภควโต กาเล พิมฺพิสาโร นาม ราชา ภวิสฺสติ, โส ตุมฺหากํ อิโต ทฺวานวุติกปฺเป ญาติ อโหสิ, โส พุทฺธสฺส ทานํ ทตฺวา ตุมฺหากํ อุทฺทิสิสฺสติ, ตทา ลภิสฺสถา’’ติฯ เอวํ วุตฺเต กิร เตสํ เปตานํ ตํ วจนํ ‘‘สฺเว ลภิสฺสถา’’ติ วุตฺตํ วิย อโหสิฯ

ตโต เอกสฺมิํ พุทฺธนฺตเร วีติวตฺเต อมฺหากํ ภควา อุปฺปชฺชิฯ เตปิ ตโย ราชปุตฺตา ปุริสสหสฺเสน สทฺธิํ เทวโลกโต จวิตฺวา มคธรฏฺเฐ พฺราหฺมณกุเล อุปฺปชฺชิตฺวา อนุปุพฺเพน ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา คยาสีเส ตโย ชฏิลา อเหสุํ, ชนปเท นิยุตฺตกปุริโส ราชา พิมฺพิสาโร อโหสิ, ภณฺฑาคาริโก คหปติปุตฺโต วิสาโข นาม เสฏฺฐิ อโหสิ, ตสฺส ปชาปติ ธมฺมทินฺนา นาม เสฏฺฐิธีตา อโหสิ, อวเสสา ปน ปริสา รญฺโญ เอว ปริวารา หุตฺวา นิพฺพตฺติํสุฯ

อมฺหากมฺปิ ภควา โลเก อุปฺปชฺชิตฺวา สตฺตสตฺตาหํ อติกฺกมิตฺวา อนุปุพฺเพน พาราณสิํ อาคมฺม ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตฺวา ปญฺจวคฺคิเย อาทิํ กตฺวา ยาว สหสฺสปริวาเร ตโย ชฏิเล วิเนตฺวา ราชคหํ อคมาสิฯ ตตฺถ จ ตทหุปสงฺกมนฺตํเยว ราชานํ พิมฺพิสารํ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺฐาเปสิ สทฺธิํ เอกาทสนหุเตหิ องฺคมคธวาสีหิ พฺราหฺมณคหปติเกหิฯ อถ รญฺญา สฺวาตนาย ภตฺเตน นิมนฺติโต อธิวาเสตฺวา ทุติยทิวเส มาณวกวณฺเณน สกฺเกน เทวานมินฺเทน ปุรโต คจฺฉนฺเตน –

‘‘ทนฺโต ทนฺเตหิ สห ปุราณชฏิเลหิ, วิปฺปมุตฺโต วิปฺปมุตฺเตหิ;

สิงฺคีนิกฺขสวณฺโณ, ราชคหํ ปาวิสิ ภควา’’ติฯ (มหาว. 58) –

เอวมาทีหิ คาถาหิ อภิตฺถวิยมาโน ราชคหํ ปวิสิตฺวา รญฺโญ นิเวสเน มหาทานํ สมฺปฏิจฺฉิฯ เต ปน เปตา ‘‘อิทานิ ราชา ทานํ อมฺหากํ อุทฺทิสิสฺสติ, อิทานิ อุทฺทิสิสฺสตี’’ติ อาสาย สมฺปริวาเรตฺวา อฏฺฐํสุฯ

ราชา ทานํ ทตฺวา ‘‘กตฺถ นุ โข ภควา วิหเรยฺยา’’ติ ภควโต วิหารฏฺฐานเมว จินฺเตสิ, น ตํ ทานํ กสฺสจิ อุทฺทิสิฯ ตถา ตํ ทานํ อลภนฺตา เปตา ฉินฺนาสา หุตฺวา รตฺติยํ รญฺโญ นิเวสเน อติวิย ภิํสนกํ วิสฺสรมกํสุฯ

ราชา ภยสนฺตาสสํเวคํ อาปชฺชิตฺวา วิภาตาย รตฺติยา ภควโต อาโรเจหิ – ‘‘เอวรูปํ สทฺทํ อสฺโสสิํ, กิํ นุ โข เม, ภนฺเต, ภวิสฺสตี’’ติ? ภควา ‘‘มา ภายิ, มหาราช, น เต กิญฺจิ ปาปกํ ภวิสฺสติ, อปิจ โข สนฺติ เต ปุราณญาตกา เปเตสุ อุปฺปนฺนาฯ เต เอกํ พุทฺธนฺตรํ ตเมว ปจฺจาสีสนฺตา ‘พุทฺธสฺส ทานํ ทตฺวา อมฺหากํ อุทฺทิสิสฺสตี’ติ วิจรนฺตา ตยา หิยฺโย ทานํ ทตฺวา น อุทฺทิสิตตฺตา ฉินฺนาสา หุตฺวา ตถารูปํ วิสฺสรมกํสู’’ติ อาหฯ ‘‘กิํ อิทานิปิ, ภนฺเต, ทินฺเน เต ลเภยฺยุ’’นฺติ? ‘‘อาม, มหาราชา’’ติฯ ‘‘เตน หิ, ภนฺเต, อธิวาเสตุ เม ภควา อชฺชตนาย ทานํ, เตสํ อุทฺทิสิสฺสามี’’ติฯ อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวนฯ

ราชา นิเวสนํ คนฺตฺวา มหาทานํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ ฯ ภควา ราชนฺเตปุรํ คนฺตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิ สทฺธิํ ภิกฺขุสงฺเฆนฯ เต เปตา ‘‘อปิ นาม อชฺช ลเภยฺยามา’’ติ คนฺตฺวา ติโรกุฏฺฏาทีสุ อฏฺฐํสุฯ ภควา ตถา อกาสิ, ยถา เต สพฺเพว รญฺโญ อาปาถํ คตา อเหสุํฯ ราชา ทกฺขิโณทกํ เทนฺโต ‘‘อิทํ เม ญาตีนํ โหตู’’ติ อุทฺทิสิฯ ตาวเทว เปตานํ กมลกุวลยสญฺฉนฺนา โปกฺขรณิโย นิพฺพตฺติํสุฯ เต ตตฺถ นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ ปฏิปฺปสฺสทฺธทรถกิลมถปิปาสา สุวณฺณวณฺณา อเหสุํฯ ราชา ยาคุขชฺชโภชฺชานิ ทตฺวา อุทฺทิสิฯ เตสํ ตงฺขณญฺเญว ทิพฺพยาคุขชฺชโภชฺชานิ นิพฺพตฺติํสุฯ เต ตานิ ปริภุญฺชิตฺวา ปีณินฺทฺริยา อเหสุํฯ อถ วตฺถเสนาสนานิ ทตฺวา อุทฺทิสิฯ เตสํ ทิพฺพวตฺถปาสาทปจฺจตฺถรณเสยฺยาทิอลงฺการวิธโย นิพฺพตฺติํสุฯ สา จ เตสํ สมฺปตฺติ สพฺพาปิ ยถา รญฺโญ ปากฏา โหติ, ตถา ภควา อธิฏฺฐาสิฯ ราชา ตํ ทิสฺวา อติวิย อตฺตมโน อโหสิฯ ตโต ภควา ภุตฺตาวี ปวาริโต รญฺโญ พิมฺพิสารสฺส อนุโมทนตฺถํ ติโรกุฏฺฏเปตวตฺถุํ อภาสิ –

[14]

‘‘ติโรกุฏฺเฏสุ ติฏฺฐนฺติ, สนฺธิสิงฺฆาฏเกสุ จ;

ทฺวารพาหาสุ ติฏฺฐนฺติ, อาคนฺตฺวาน สกํ ฆรํฯ

[15]

‘‘ปหูเต อนฺนปานมฺหิ, ขชฺชโภชฺเช อุปฏฺฐิเต;

น เตสํ โกจิ สรติ, สตฺตานํ กมฺมปจฺจยาฯ

[16]

‘‘เอวํ ททนฺติ ญาตีนํ, เย โหนฺติ อนุกมฺปกา;

สุจิํ ปณีตํ กาเลน, กปฺปิยํ ปานโภชนํฯ

[17]

‘‘อิทํ โว ญาตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ ญาตโย;

เต จ ตตฺถ สมาคนฺตฺวา, ญาติเปตา สมาคตา;

ปหูเต อนฺนปานมฺหิ, สกฺกจฺจํ อนุโมทเรฯ

[18]

‘‘จิรํ ชีวนฺตุ โน ญาตี, เยสํ เหตุ ลภามเส;

อมฺหากญฺจ กตา ปูชา, ทายกา จ อนิปฺผลาฯ

[19]

‘‘น หิ ตตฺถ กสิ อตฺถิ, โครกฺเขตฺถ น วิชฺชติ;

วณิชฺชา ตาทิสี นตฺถิ, หิรญฺเญน กยากยํ;

อิโต ทินฺเนน ยาเปนฺติ, เปตา กาลคตา ตหิํฯ

[20]

‘‘อุนฺนเม อุทกํ วุฏฺฐํ, ยถา นินฺนํ ปวตฺตติ;

เอวเมว อิโต ทินฺนํ, เปตานํ อุปกปฺปติฯ

[21]

‘‘ยถา วาริวหา ปูรา, ปริปูเรนฺติ สาครํ;

เอวเมว อิโต ทินฺนํ, เปตานํ อุปกปฺปติฯ

[22]

‘‘อทาสิ เม อกาสิ เม, ญาติมิตฺตา สขา จ เม;

เปตานํ ทกฺขิณํ ทชฺชา, ปุพฺเพ กตมนุสฺสรํฯ

[23]

‘‘น หิ รุณฺณํ วา โสโก วา, ยา จญฺญา ปริเทวนา;

น ตํ เปตานมตฺถาย, เอวํ ติฏฺฐนฺติ ญาตโยฯ

[24]

‘‘อยญฺจ โข ทกฺขิณา ทินฺนา, สงฺฆมฺหิ สุปฺปติฏฺฐิตา;

ทีฆรตฺตํ หิตายสฺส, ฐานโส อุปกปฺปติฯ

[25]

‘‘โส ญาติธมฺโม จ อยํ นิทสฺสิโต, เปตาน ปูชา จ กตา อุฬารา;

พลญฺจ ภิกฺขูนมนุปฺปทินฺนํ, ตุมฺเหหิ ปุญฺญํ ปหุตํ อนปฺปก’’นฺติฯ

[14] ตตฺถ ติโรกุฏฺเฏสูติ กุฏฺฏานํ ปรภาเคสุฯ ติฏฺฐนฺตีติ นิสชฺชาทิปฏิกฺเขปโต ฐานกปฺปนวจนเมตํ, เคหปาการกุฏฺฏานํ ทฺวารโต พหิ เอว ติฏฺฐนฺตีติ อตฺโถฯ สนฺธิสิงฺฆาฏเกสุ จาติ สนฺธีสุ จ สิงฺฆาฏเกสุ จฯ สนฺธีติ จตุกฺโกณรจฺฉา, ฆรสนฺธิภิตฺติสนฺธิอาโลกสนฺธิโยปิ วุจฺจนฺติฯ สิงฺฆาฏกาติ ติโกณรจฺฉาฯ ทฺวารพาหาสุ ติฏฺฐนฺตีติ นครทฺวารฆรทฺวารานํ พาหา นิสฺสาย ติฏฺฐนฺติฯ อาคนฺตฺวาน สกํ ฆรนฺติ สกฆรํ นาม ปุพฺพญาติฆรมฺปิ อตฺตนา สามิภาเวน อชฺฌาวุตฺถฆรมฺปิ, ตทุภยมฺปิ เต ยสฺมา สกฆรสญฺญาย อาคจฺฉนฺติ, ตสฺมา ‘‘อาคนฺตฺวาน สกํ ฆร’’นฺติ อาหฯ

[15] เอวํ ภควา ปุพฺเพ อนชฺฌาวุตฺถปุพฺพมฺปิ ปุพฺพญาติฆรตฺตา พิมฺพิสารนิเวสนํ สกฆรสญฺญาย อาคนฺตฺวา ติโรกุฏฺฏาทีสุ ฐิเต อิสฺสามจฺฉริยผลํ อนุภวนฺเต อติวิย ทุทฺทสิกวิรูปภยานกทสฺสเน พหู เปเต รญฺโญ ทสฺเสนฺโต ‘‘ติโรกุฏฺเฏสุ ติฏฺฐนฺตี’’ติ คาถํ วตฺวา ปุน เตหิ กตสฺส กมฺมสฺส ทารุณภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปหูเต อนฺนปานมฺหี’’ติ ทุติยคาถมาหฯ

ตตฺถ ปหูเตติ อนปฺปเก พหุมฺหิ, ยาวทตฺเถติ อตฺโถ ฯ พ-การสฺส หิ ป-กาโร ลพฺภติ ‘‘ปหุ สนฺโต น ภรตี’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. 98) วิยฯ เกจิ ปน ‘‘พหุเก’’ติ ปฐนฺติ, โส ปน ปมาทปาโฐฯ อนฺนปานมฺหีติ อนฺเน จ ปาเน จฯ ขชฺชโภชฺเชติ ขชฺเช จ โภชฺเช จฯ เอเตน อสิตปีตขายิตสายิตวเสน จตุพฺพิธมฺปิ อาหารํ ทสฺเสติฯ อุปฏฺฐิเตติ อุปคมฺม ฐิเต สชฺชิเต, ปฏิยตฺเตติ อตฺโถฯ น เตสํ โกจิ สรติ สตฺตานนฺติ เตสํ เปตฺติวิสเย อุปฺปนฺนานํ สตฺตานํ โกจิ มาตา วา ปิตา วา ปุตฺโต วา นตฺตา วา น สรติฯ กิํ การณา? กมฺมปจฺจยาติ, อตฺตนา กตสฺส อทานทานปฏิเสธนาทิเภทสฺส กทริยกมฺมสฺส การณภาวโตฯ ตญฺหิ กมฺมํ เตสํ ญาตีนํ สริตุํ น เทติฯ

[16] เอวํ ภควา อนปฺปเกปิ อนฺนปานาทิมฺหิ วิชฺชมาเน ญาตีนํ ปจฺจาสีสนฺตานํ เปตานํ กมฺมผเลน ญาตกานํ อนุสฺสรณมตฺตสฺสาปิ อภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เปตฺติวิสยุปปนฺเน ญาตเก อุทฺทิสฺส รญฺญา ทินฺนทานํ ปสํสนฺโต ‘‘เอวํ ททนฺติ ญาตีน’’นฺติ ตติยคาถมาหฯ

ตตฺถ เอวนฺติ อุปมาวจนํฯ ตสฺส ทฺวิธา สมฺพนฺโธ – เตสํ สตฺตานํ กมฺมปจฺจยา อสรนฺเตสุปิ เกสุจิ เกจิ ททนฺติ ญาตีนํ, เย เอวํ อนุกมฺปกา โหนฺตีติ จ, มหาราช, ยถา ตยา ทินฺนํ, เอวํ สุจิํ ปณีตํ กาเลน กปฺปิยํ ปานโภชนํ ททนฺติ ญาตีนํ, เย โหนฺติ อนุกมฺปกาติ จฯ ตตฺถ ททนฺตีติ เทนฺติ อุทฺทิสนฺติ นิยฺยาเตนฺติฯ ญาตีนนฺติ มาติโต จ ปิติโต จ สมฺพนฺธานํฯ เยติ เย เกจิ ปุตฺตาทโยฯ โหนฺตีติ ภวนฺติฯ อนุกมฺปกาติ อตฺถกามา หิเตสิโนฯ สุจินฺติ สุทฺธํ มโนหรํ ธมฺมิกญฺจฯ ปณีตนฺติ อุฬารํฯ กาเลนาติ ทกฺขิเณยฺยานํ ปริโภคโยคฺคกาเลน, ญาติเปตานํ วา ติโรกุฏฺฏาทีสุ อาคนฺตฺวา ฐิตกาเลนฯ กปฺปิยนฺติ อนุจฺฉวิกํ ปติรูปํ อริยานํ ปริโภคารหํฯ ปานโภชนนฺติ ปานญฺจ โภชนญฺจ, ตทุปเทเสน เจตฺถ สพฺพํ เทยฺยธมฺมํ วทติฯ

[17] อิทานิ เยน ปกาเรน เตสํ เปตานํ ทินฺนํ นาม โหติ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิทํ โว ญาตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ ญาตโย’’ติ จตุตฺถคาถาย ปุพฺพฑฺฒํ อาหฯ ตํ ตติยคาถาย ปุพฺพฑฺเฒน สมฺพนฺธิตพฺพํ –

‘‘เอวํ ททนฺติ ญาตีนํ, เย โหนฺติ อนุกมฺปกา;

อิทํ โว ญาตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ ญาตโย’’ติฯ

เตน ‘‘อิทํ โว ญาตีนํ โหตูติ เอวํ ปกาเรน ททนฺติ, โน อญฺญถา’’ติ อาการตฺเถน เอวํสทฺเทน ทาตพฺพาการนิทสฺสนํ กตํ โหติฯ

ตตฺถ อิทนฺติ เทยฺยธมฺมนิทสฺสนํฯ โวติ นิปาตมตฺตํ ‘‘เยหิ โว อริยา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. 1.36) วิยฯ ญาตีนํ โหตูติ เปตฺติวิสเย อุปฺปนฺนานํ ญาตกานํ โหตุฯ ‘‘โน ญาตีน’’นฺติ จ ปฐนฺติ, อมฺหากํ ญาตีนนฺติ อตฺโถฯ สุขิตา โหนฺตุ ญาตโยติ เต เปตฺติวิสยูปปนฺนา ญาตโย อิทํ ผลํ ปจฺจนุภวนฺตา สุขิตา สุขปฺปตฺตา โหนฺตุฯ

ยสฺมา ‘‘อิทํ โว ญาตีนํ โหตู’’ติ วุตฺเตปิ อญฺเญน กตกมฺมํ น อญฺญสฺส ผลทํ โหติ , เกวลํ ปน ตถา อุทฺทิสฺส ทียมานํ ตํ วตฺถุ ญาติเปตานํ กุสลกมฺมสฺส ปจฺจโย โหติ, ตสฺมา ยถา เตสํ ตสฺมิํ วตฺถุสฺมิํ ตสฺมิํเยว ขเณ ผลนิพฺพตฺตกํ กุสลกมฺมํ โหติ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เต จ ตตฺโถ’’ติอาทิมาหฯ

ตตฺถ เตติ ญาติเปตาฯ ตตฺถาติ ยตฺถ ทานํ ทียติ, ตตฺถฯ สมาคนฺตฺวาติ ‘‘อิเม โน ญาตโย อมฺหากํ อตฺถาย ทานํ อุทฺทิสนฺตี’’ติ อนุโมทนตฺถํ ตตฺถ สมาคตา หุตฺวาฯ ปหูเต อนฺนปานมฺหีติ อตฺตโน อุทฺทิสฺส ทียมาเน ตสฺมิํ วตฺถุสฺมิํฯ สกฺกจฺจํ อนุโมทเรติ กมฺมผลํ อภิสทฺทหนฺตา จิตฺตีการํ อวิชหนฺตา อวิกฺขิตฺตจิตฺตา หุตฺวา ‘‘อิทํ โน ทานํ หิตาย สุขาย โหตู’’ติ โมทนฺติ อนุโมทนฺติ ปีติโสมนสฺสชาตา โหนฺติฯ

[18] จิรํ ชีวนฺตูติ จิรํ ชีวิโน ทีฆายุกา โหนฺตุฯ โน ญาตีติ อมฺหากํ ญาตกาฯ เยสํ เหตูติ เยสํ การณา เย นิสฺสายฯ ลภามเสติ อีทิสํ สมฺปตฺติํ ปฏิลภามฯ อิทญฺหิ อุทฺทิสเนน ลทฺธสมฺปตฺติํ อนุภวนฺตานํ เปตานํ อตฺตโน ญาตีนํ โถมนาการทสฺสนํฯ เปตานญฺหิ อตฺตโน อนุโมทเนน, ทายกานํ อุทฺทิสเนน, อุกฺขิเณยฺยสมฺปตฺติยา จาติ ตีหิ องฺเคหิ ทกฺขิณา ตงฺขณญฺเญว ผลนิพฺพตฺติกา โหติฯ ตตฺถ ทายกา วิเสสเหตุฯ เตนาห ‘‘เยสํ เหตุ ลภามเส’’ติฯ อมฺหากญฺจ กตา ปูชาติ ‘‘อิทํ โว ญาตีนํ โหตู’’ติ เอวํ อุทฺทิสนฺเตหิ ทายเกหิ อมฺหากญฺจ ปูชา กตา, เต ทายกา จ อนิปฺผลา ยสฺมิํ สนฺตาเน ปริจฺจาคมยํ กมฺมํ นิพฺพตฺตํ ตสฺส ตตฺเถว ผลทานโตฯ

เอตฺถาห – ‘‘กิํ ปน เปตฺติวิสยูปปนฺนา เอว ญาตี เหตุสมฺปตฺติโย ลภนฺติ, อุทาหุ อญฺเญปี’’ติ? น เจตฺถ อมฺเหหิ วตฺตพฺพํ, อตฺถิ ภควตา เอวํ พฺยากตตฺตาฯ วุตฺตญฺเหตํ –-

‘‘มยมสฺสุ, โภ โคตม, พฺราหฺมณา นาม ทานานิ เทม, ปุญฺญานิ กโรม ‘อิทํ ทานํ เปตานํ ญาติสาโลหิตานํ อุปกปฺปตุ, อิทํ ทานํ เปตา ญาติสาโลหิตา ปริภุญฺชนฺตู’ติฯ

กจฺจิ ตํ, โภ โคตม, ทานํ เปตานํ ญาติสาโลหิตานํ อุปกปฺปติ , กจฺจิ เต เปตา ญาติสาโลหิตา ตํ ทานํ ปริภุญฺชนฺตีติ? ฐาเน โข, พฺราหฺมณ, อุปกปฺปติ, โน อฏฺฐาเนติฯ

‘‘กตมํ ปน, โภ โคตม, ฐานํ, กตมํ อฏฺฐานนฺติ? อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ…เป.… มิจฺฉาทิฏฺฐิโก โหติ, โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา นิรยํ อุปปชฺชติฯ โย เนรยิกานํ สตฺตานํ อาหาโร, เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, เตน โส ตตฺถ ติฏฺฐติฯ อิทํ โข, พฺราหฺมณ, อฏฺฐานํ, ยตฺถ ฐิตสฺส ตํ ทานํ น อุปกปฺปติฯ

‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ…เป.… มิจฺฉาทิฏฺฐิโก โหติ, โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ติรจฺฉานโยนิํ อุปปชฺชติฯ โย ติรจฺฉานโยนิกานํ สตฺตานํ อาหาโร, เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, เตน โส ตตฺถ ติฏฺฐติฯ อิทมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, อฏฺฐานํ, ยตฺถ ฐิตสฺส ตํ ทานํ น อุปกปฺปติฯ

‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ…เป.… สมฺมาทิฏฺฐิโก โหติ, โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนุสฺสานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ…เป.… เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติฯ โย เทวานํ อาหาโร, เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, เตน โส ตตฺถ ติฏฺฐติฯ อิทมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, อฏฺฐานํ, ยตฺถ ฐิตสฺส ตํ ทานํ น อุปกปฺปติฯ

‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ…เป.… มิจฺฉาทิฏฺฐิโก โหติ, โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา เปตฺติวิสยํ อุปปชฺชติฯ โย เปตฺติวิสยิกานํ สตฺตานํ อาหาโร, เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, เตน โส ตตฺถ ติฏฺฐติฯ ยํ วา ปนสฺส อิโต อนุปเวจฺเฉนฺติ มิตฺตามจฺจา วา ญาติสาโลหิตา วา, เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, เตน โส ตตฺถ ติฏฺฐติฯ อิทํ โข, พฺราหฺมณ, ฐานํ, ยตฺถ ฐิตสฺส ตํ ทานํ อุปกปฺปตี’’ติฯ

‘‘สเจ ปน, โภ โคตม, โส เปโต ญาติสาโลหิโต ตํ ฐานํ อนุปปนฺโน โหติ, โก ตํ ทานํ ปริภุญฺชตี’’ติ ? ‘‘อญฺเญปิสฺส, พฺราหฺมณ, เปตา ญาติสาโลหิตา ตํ ฐานํ อุปปนฺนา โหนฺติ, เต ตํ ทานํ ปริภุญฺชนฺตี’’ติฯ

‘‘สเจ ปน, โภ โคตม, โส เจว เปโต ญาติสาโลหิโต ตํ ฐานํ อนุปปนฺโน โหติ, อญฺเญปิสฺส เปตา ญาติสาโลหิตา ตํ ฐานํ อนุปปนฺนา โหนฺติ, โก ตํ ทานํ ปริภุญฺชตี’’ติ? ‘‘อฏฺฐานํ โข เอตํ, พฺราหฺมณ, อนวกาโส, ยํ ตํ ฐานํ วิวิตฺตํ อสฺส อิมินา ทีเฆน อทฺธุนา ยทิทํ เปเตหิ ญาติสาโลหิเตหิ, อปิจ, พฺราหฺมณ, ทายโกปิ อนิปฺผโล’’ติ (อ. นิ. 10.177)ฯ

[19] อิทานิ เปตฺติวิสยูปปนฺนานํ ตตฺถ อญฺญสฺส กสิโครกฺขาทิโน สมฺปตฺติปฏิลาภการณสฺส อภาวํ อิโต ทินฺเนน ยาปนญฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘น หี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ

ตตฺถ น หิ ตตฺถ กสิ อตฺถีติ ตสฺมิํ เปตฺติวิสเย กสิ น หิ อตฺถิ, ยํ นิสฺสาย เปตา สุเขน ชีเวยฺยุํฯ โครกฺเขตฺถ น วิชฺชตีติ เอตฺถ เปตฺติวิสเย น เกวลํ กสิเยว นตฺถิ, อถ โข โครกฺขาปิ น วิชฺชติ, ยํ นิสฺสาย เต สุเขน ชีเวยฺยุํฯ วณิชฺชา ตาทิสี นตฺถีติ วณิชฺชาปิ ตาทิสี นตฺถิ, ยา เตสํ สมฺปตฺติปฏิลาภเหตุ ภเวยฺยฯ หิรญฺเญน กยากยนฺติ หิรญฺเญน กยวิกฺกยมฺปิ ตตฺถ ตาทิสํ นตฺถิ, ยํ เตสํ สมฺปตฺติปฏิลาภเหตุ ภเวยฺยฯ อิเต ทินฺเนน ยาเปนฺติ, เปตา กาลคตา ตหินฺติ เกวลํ ปน อิโต ญาตีหิ วา มิตฺตามจฺเจหิ วา ทินฺเนน ยาเปนฺติ, อตฺตภาวํ ปวตฺเตนฺติฯ เปตาติ เปตฺติวิสยูปปนฺนา สตฺตาฯ กาลคตาติ อตฺตโน มรณกาเลน คตาฯ ‘‘กาลกตา’’ติ วา ปาโฐ, กตกาลา กตมรณา มรณํ สมฺปตฺตาฯ ตหินฺติ ตสฺมิํ เปตฺติวิสเยฯ

[20-21] อิทานิ ยถาวุตฺตมตฺถํ อุปมาหิ ปกาเสตุํ ‘‘อุนฺนเม อุทกํ วุฏฺฐ’’นฺติ คาถาทฺวยมาหฯ

ตสฺสตฺโถ – ยถา อุนฺนเม ถเล อุนฺนตปฺปเทเส เมเฆหิ อภิวุฏฺฐํ อุทกํ ยถา นินฺนํ ปวตฺตติ, โย ภูมิภาโค นินฺโน โอณโต, ตํ อุปคจฺฉติ; เอวเมว อิโต ทินฺนํ ทานํ เปตานํ อุปกปฺปติ , ผลุปฺปตฺติยา วินิยุชฺชติฯ นินฺนมิว หิ อุทกปฺปวตฺติยา ฐานํ เปตโลโก ทานูปกปฺปนายฯ ยถาห – ‘‘อิทํ โข, พฺราหฺมณ, ฐานํ, ยตฺถ ฐิตสฺส ตํ ทานํ อุปกปฺปตี’’ติ (อ. นิ. 10.177)ฯ ยถา จ กนฺทรปทรสาขปสาขกุโสพฺภมหาโสพฺเภ หิ โอคลิเตน อุทเกน วาริวหา มหานชฺโช ปูรา หุตฺวา สาครํ ปริปูเรนฺติ, เอวํ อิโต ทินฺนทานํ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน เปตานํ อุปกปฺปตีติฯ

[22] ยสฺมา เปตา ‘‘อิโต กิญฺจิ ลภามา’’ติ อาสาภิภูตา ญาติฆรํ อาคนฺตฺวาปิ ‘‘อิทํ นาม โน เทถา’’ติ ยาจิตุํ น สกฺโกนฺติ, ตสฺมา เตสํ อิมานิ อนุสฺสรณวตฺถูนิ อนุสฺสรนฺโต กุลปุตฺโต ทกฺขิณํ ทชฺชาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อทาสิ เม’’ติ คาถมาหฯ

ตสฺสตฺโถ – อิทํ นาม เม ธนํ วา ธญฺญํ วา อทาสิ, อิทํ นาม เม กิจฺจํ อตฺตนาเยว โยคํ อาปชฺชนฺโต อกาสิ, ‘‘อสุโก เม มาติโต วา ปิติโต วา สมฺพนฺธตฺตา ญาติ, สิเนหวเสน ตาณสมตฺถตาย มิตฺโต, อสุโก เม สหปํสุกีฬกสหาโย สขา’’ติ จ เอตํ สพฺพมนุสฺสรนฺโต เปตานํ ทกฺขิณํ ทชฺชา ทานํ นิยฺยาเตยฺยฯ ‘‘ทกฺขิณา ทชฺชา’’ติ วา ปาโฐ, เปตานํ ทกฺขิณา ทาตพฺพา, เตน ‘‘อทาสิ เม’’ติอาทินา นเยน ปุพฺเพ กตมนุสฺสรํ อนุสฺสรตาติ วุตฺตํ โหติฯ กรณตฺเถ หิ อิทํ ปจฺจตฺตวจนํฯ

[23-24] เย ปน สตฺตา ญาติมรเณน รุณฺณโสกาทิปรา เอว หุตฺวา ติฏฺฐนฺติ, น เตสํ อตฺถาย กิญฺจิ เทนฺติ, เตสํ ตํ รุณฺณโสกาทิ เกวลํ อตฺตปริตาปนมตฺตเมว โหติ, ตํ น เปตานํ กญฺจิ อตฺถํ สาเธตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น หิ รุณฺณํ วา’’ติ คาถํ วตฺวา ปุน มคธราเชน ทินฺนทกฺขิณาย สาตฺถกภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘อยญฺจ โข’’ติ คาถมาหฯ เตสํ อตฺโถ เหฏฺฐา วุตฺโตเยวฯ

[25] อิทานิ ยสฺมา อิมํ ทกฺขิณํ เทนฺเตน รญฺญา ญาตีนํ ญาตีหิ กตฺตพฺพกิจฺจกรเณน ญาติธมฺโม นิทสฺสิโต, พหุชนสฺส ปากโฏ กโต, นิทสฺสนํ ปากฏํ กตํ ‘‘ตุมฺเหหิปิ เอวเมว ญาตีสุ ญาติธมฺโม ปริปูเรตพฺโพ’’ติฯ

เต จ เปเต ทิพฺพสมฺปตฺติํ อธิคเมนฺเตน เปตานํ ปูชา กตา อุฬารา , พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ อนฺนปานาทีหิ สนฺตปฺเปนฺเตน ภิกฺขูนํ พลํ อนุปฺปทินฺนํ, อนุกมฺปาทิคุณปริวารญฺจ จาคเจตนํ นิพฺพตฺเตนฺเตน อนปฺปกํ ปุญฺญํ ปสุตํ, ตสฺมา ภควา อิเมหิ ยถาภุจฺจคุเณหิ ราชานํ สมฺปหํเสนฺโต ‘‘โส ญาติธมฺโม’’ติ โอสานคาถมาหฯ

ตตฺถ ญาติธมฺโมติ ญาตีหิ ญาตีนํ กตฺตพฺพกรณํฯ อุฬาราติ ผีตา สมิทฺธาฯ พลนฺติ กายพลํฯ ปสุตนฺติ อุปจิตํฯ เอตฺถ จ ‘‘โส ญาติธมฺโม จ อยํ นิทสฺสิโต’’ติ เอเตน ภควา ราชานํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิฯ ญาติธมฺมทสฺสนญฺเหตฺถ สนฺทสฺสนํฯ ‘‘เปตาน ปูชา จ กตา อุฬารา’’ติ อิมินา สมาทเปสิฯ ‘‘อุฬารา’’ติ ปสํสนญฺเหตฺถ ปุนปฺปุนํ ปูชากรเณ สมาทปนํฯ ‘‘พลญฺจ ภิกฺขูนมนุปฺปทินฺน’’นฺติ อิมินา สมุตฺเตเชสิฯ ภิกฺขูนํ พลานุปฺปทานญฺเหตฺถ เอวํวิธานํ พลานุปฺปทาเน อุสฺสาหวฑฺฒเนน สมุตฺเตชนํฯ ‘‘ตุมฺเหหิ ปุญฺญํ ปสุตํ อนปฺปก’’นฺติ อิมินา สมฺปหํเสสิฯ ปุญฺญปสวนกิตฺตนญฺเหตฺถ ตสฺส ยถาภุจฺจคุณสํวณฺณนภาเวน สมฺปหํสนนฺติ เอวเมตฺถ โยชนา เวทิตพฺพาฯ

เทสนาปริโยสาเน จ เปตฺติวิสยูปปตฺติอาทีนวสํวณฺณเนน สํวิคฺคหทยานํ โยนิโส ปทหตํ จตุราสีติยา ปาณสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิฯ ทุติยทิวเสปิ เทวมนุสฺสานํ อิทเมว ติโรกุฏฺฏเทสนํ เทเสสิฯ เอวํ ยาว สตฺต ทิวสา ตาทิโสว ธมฺมาภิสมโย อโหสีติฯ

ติโรกุฏฺฏเปตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

6. ปญฺจปุตฺตขาทกเปติวตฺถุวณฺณนา

นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปาสีติ อิทํ สตฺถริ สาวตฺถิยํ วิหรนฺเต ปญฺจปุตฺตขาทกเปติํ อารพฺภ วุตฺตํฯ สาวตฺถิยา กิร อวิทูเร คามเก อญฺญตรสฺส กุฏุมฺพิกสฺส ภริยา วญฺฌา อโหสิฯ ตสฺส ญาตกา เอตทโวจุํ – ‘‘ตว ปชาปติ วญฺฌา, อญฺญํ เต กญฺญํ อาเนมา’’ติฯ โส ตสฺโส ภริยาย สิเนเหน น อิจฺฉิฯ อถสฺส ภริยา ตํ ปวตฺติํ สุตฺวา สามิกํ เอวมาห – ‘‘สามิ, อหํ วญฺฌา, อญฺญา กญฺญา อาเนตพฺพา, มา เต กุลวํโส อุปจฺฉิชฺชี’’ติฯ โส ตาย นิปฺปีฬิยมาโน อญฺญํ กญฺญํ อาเนสิฯ สา อปเรน สมเยน คพฺภินี อโหสิฯ วญฺฌิตฺถี – ‘‘อยํ ปุตฺตํ ลภิตฺวา อิมสฺส เคหสฺส อิสฺสรา ภวิสฺสตี’’ติ อิสฺสาปกตา ตสฺสา คพฺภปาตนูปายํ ปริเยสนฺตี อญฺญตรํ ปริพฺพาชิกํ อนฺนปานาทีหิ สงฺคณฺหิตฺวา ตาย ตสฺสา คพฺภปาตนํ ทาเปสิฯ สา คพฺเภ ปติเต อตฺตโน มาตุยา อาโรเจสิ, มาตา อตฺตโน ญาตเก สโมธาเนตฺวา ตมตฺถํ นิเวเทสิฯ เต วญฺฌิตฺถิํ เอตทโวจุํ – ‘‘ตยา อิมิสฺสา คพฺโภ ปาติโต’’ติ? ‘‘นาหํ ปาเตมี’’ติฯ ‘‘สเจ ตยา คพฺโภ น ปาติโต, สปถํ กโรหี’’ติ ฯ ‘‘สเจ มยา คพฺโภ ปาติโต, ทุคฺคติปรายณา ขุปฺปิปาสาภิภูตา สายํ ปาตํ ปญฺจ ปญฺจ ปุตฺเต วิชายิตฺวา ขาทิตฺวา ติตฺติํ น คจฺเฉยฺยํ, นิจฺจํ ทุคฺคนฺธา มกฺขิกาปริกิณฺณา จ ภเวยฺย’’นฺติ มุสา วตฺวา สปถํ อกาสิฯ สา นจิรสฺเสว กาลํ กตฺวา ตสฺเสว คามสฺส อวิทูเร ทุพฺพณฺณรูปา เปตี หุตฺวา นิพฺพตฺติฯ

ตทา ชนปเท วุตฺถวสฺสา อฏฺฐ เถรา สตฺถุ ทสฺสนตฺถํ สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺตา ตสฺส คามสฺส อวิทูเร ฉายูทกสมฺปนฺเน อรญฺญฏฺฐาเน วาสํ อุปคจฺฉิํสุฯ อถ สา เปตี เถรานํ อตฺตานํ ทสฺเสสิฯ เตสุ สงฺฆตฺเถโร ตํ เปติํ –

[26]

‘‘นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปาสิ, ทุคฺคนฺธา ปูติ วายสิ;

มกฺขิกาหิ ปริกิณฺณา, กา นุ ตฺวํ อิธ ติฏฺฐสี’’ติฯ –

คาถาย ปฏิปุจฺฉิฯ ตตฺถ นคฺคาติ นิจฺโจฬาฯ ทุพฺพณฺณรูปาสีติ ณวิรูปา อติวิย พีภจฺฉรูเปน สมนฺนาคตา อสิฯ ทุคฺคนฺธาติ อนิฏฺฐคนฺธาฯ ปูติ วายสีติ สรีรโต กุณปคนฺธํ วายสิฯ มกฺขิกาหิ ปริกิณฺณาติ นีลมกฺขิกาหิ สมนฺตโต อากิณฺณาฯ กา นุ ตฺวํ อิธ ติฏฺฐสีติ กา นาม เอวรูปา อิมสฺมิํ ฐาเน ติฏฺฐสิ, อิโต จิโต จ วิจรสีติ อตฺโถฯ

อถ สา เปตี มหาเถเรน เอวํ ปุฏฺฐา อตฺตานํ ปกาเสนฺตี สตฺตานํ สํเวคํ ชเนนฺตี –

[27]