เมนู

7. ทุติยนาวาวิมานวณฺณนา

สุวณฺณจฺฉทนํ นาวนฺติ ทุติยนาวาวิมานํฯ ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควติ สาวตฺถิยํ วิหรนฺเต อญฺญตโร ขีณาสวตฺเถโร อุปกฏฺฐาย วสฺสูปนายิกาย คามกาวาเส วสฺสํ อุปคนฺตุกาโม สาวตฺถิโต ตํ คามํ อุทฺทิสฺส ปจฺฉาภตฺตํ อทฺธานมคฺคปฏิปนฺโน, มคฺคปริสฺสเมน กิลนฺโต ตสิโต อนฺตรามคฺเค อญฺญตรํ คามํ สมฺปตฺโต, พหิคาเม ตาทิสํ ฉายูทกสมฺปนฺนฏฺฐานํ อปสฺสนฺโต ปริสฺสเมน จ อภิภุยฺยมาโน จีวรํ ปารุปิตฺวา คามํ ปวิสิตฺวา ธุรเคหสฺเสว ทฺวาเร อฏฺฐาสิฯ ตตฺถ อญฺญตรา อิตฺถี เถรํ ปสฺสิตฺวา ‘‘กุโต, ภนฺเต, อาคตตฺถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา มคฺคปริสฺสมํ ปิปาสิตภาวญฺจ ญตฺวา ‘‘เอถ, ภนฺเต’’ติ เคหํ ปเวเสตฺวา ‘‘อิธ นิสีทถา’’ติ อาสนํ ปญฺญาเปตฺวา อทาสิฯ ตตฺถ นิสินฺเน ปาโททกํ ปาทพฺภญฺชนเตลญฺจ ทตฺวา ตาลวณฺฏํ คเหตฺวา พีชิฯ ปริฬาเห วูปสนฺเต มธุรํ สีตลํ สุคนฺธํ ปานกํ โยเชตฺวา อทาสิฯ เถโร ตํ ปิวิตฺวา ปฏิปฺปสฺสทฺธกิลมโถ อนุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิฯ สา อปรภาเค กาลํ กตฺวา ตาวติํสภวเน นิพฺพตฺตีติ สพฺพํ อนนฺตรวิมานสทิสนฺติ เวทิตพฺพํฯ คาถาสุปิ อปุพฺพํ นตฺถิฯ เตน วุตฺตํ –

[53]

‘‘สุวณฺณจฺฉทนํ นาวํ, นาริ อารุยฺห ติฏฺฐสิ;

โอคาหสิ โปกฺขรณิํ, ปทฺมํ ฉินฺทสิ ปาณินาฯ

[54]

‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;

อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยาฯ

[55]

‘‘ปุจฺฉามิ ตํ เทวิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปุญฺญํ;

เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติฯ

[56]

‘‘สา เทวตา อตฺตมนา, โมคฺคลฺลาเนน ปุจฺฉิตา;

ปญฺหํ ปุฏฺฐา วิยากาสิ, ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ’’ฯ

[57]

‘‘อหํ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูตา, ปุริมาย ชาติยา มนุสฺสโลเก;

ทิสฺวาน ภิกฺขุํ ตสิตํ กิลนฺตํ, อุฏฺฐาย ปาตุํ อุทกํ อทาสิํฯ

[58]

‘‘โย เว กิลนฺตสฺส ปิปาสิตสฺส, ฏฺฐาย ปาตุํ อุทกํ ททาติ;

สีโตทกา ตสฺส ภวนฺติ นชฺโช, ปหูตมลฺยา พหุปุณฺฑรีกาฯ

[59]

‘‘ตํ อาปคา อนุปริยนฺติ สพฺพทา, สีโตทกา วาลุกสนฺถตา นที;

อมฺพา จ สาลา ติลกา จ ชมฺพุโย, อุทฺทาลกา ปาฏลิโย จ ผุลฺลาฯ

[60]

‘‘ตํภูมิภาเคหิ อุเปตรูปํ, วิมานเสฏฺฐํ ภุส โสภมานํ;

ตสฺสีธ กมฺมสฺส อยํ วิปาโก, เอตาทิสํ ปุญฺญกตา ลภนฺติฯ

[61]

‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ, เตน เม อิธ มิชฺฌติ;

อุปฺปชฺชนฺติ จ เม โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยาฯ

[62]

‘‘อกฺขามิ เต ภิกฺขุ มหานุภาว, มนุสฺสภูตา ยมกาสิ ปุญฺญํ;

เตนมฺหิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติฯ

อตฺถวณฺณนาสุปิ อิธ เอโกว เถโรติ อปุพฺพํ นตฺถิฯ

ทุติยนาวาวิมานวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

8. ตติยนาวาวิมานวณฺณนา

สุวณฺณจฺฉทนํ นาวนฺติ ตติยนาวาวิมานํฯ ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา ชนปทจาริกํ จรนฺโต มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ โกสลชนปเท เยน ถูณํ นาม พฺราหฺมณคาโม ตทวสริฯ อสฺโสสุํ โข ถูเณยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา ‘‘สมโณ กิร โคตโม อมฺหากํ คามเขตฺตํ อนุปฺปตฺโต’’ติ ฯ อถ ถูเณยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา อปฺปสนฺนา มิจฺฉาทิฏฺฐิกา มจฺเฉรปกตา ‘‘สเจ สมโณ โคตโม อิมํ คามํ ปวิสิตฺวา ทฺวีหตีหํ วเสยฺย, สพฺพํ อิมํ ชนํ อตฺตโน วจเน ปติฏฺฐเปยฺย, ตโต พฺราหฺมณธมฺโม ปติฏฺฐํ น ลเภยฺยา’’ติ ตตฺถ ภควโต อวาสาย ปริสกฺกนฺตา นทีติตฺเถสุ ฐปิตนาวาโย อปเนสุํ, เสตุสงฺกมนานิ จ อวลญฺเช อกํสุ, ตถา ปปามณฺฑปาทีนิ, เอกํ อุทปานํ ฐเปตฺวา อิตรานิ อุทปานานิ ติณาทีหิ ปูเรตฺวา ปิทหิํสุฯ เตน วุตฺตํ อุทาเน (อุทา. 69) ‘‘อถ โข ถูเณยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา อุทปานํ ติณสฺส จ ภุสสฺส จ ยาว มุขโต ปูเรสุํ ‘มา เต มุณฺฑกา สมณกา ปานียํ อปํสู’’’ติฯ

ภควา เตสํ ตํ วิปฺปการํ ญตฺวา เต อนุกมฺปนฺโต สทฺธิํ ภิกฺขุสงฺเฆน อากาเสน นทิํ อติกฺกมิตฺวา คนฺตฺวา อนุกฺกเมน ถูณํ พฺราหฺมณคามํ ปตฺวา มคฺคา โอกฺกมฺม อญฺญตรสฺมิํ รุกฺขมูเล ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิฯ เตน จ สมเยน สมฺพหุลา อุทกหารินิโย ภควโต อวิทูเรน อติกฺกมนฺติฯ ตสฺมิญฺจ คาเม ‘‘สเจ สมโณ โคตโม อิธาคมิสฺสติ, น ตสฺส ปจฺจุคฺคมนาทิกํ กาตพฺพํ, เคหํ อาคตสฺส จสฺส สาวกานญฺจ ภิกฺขาปิ น ทาตพฺพา’’ติ กติกา กตา โหติฯ