เมนู

ตถา ‘‘ปสนฺนา’’ติ อิมินา สกฺกจฺจทานํ อนุปหจฺจทานนฺติ จ อิเม ทฺเว ทานคุณา ทสฺสิตา, ‘‘เสหิ ปาณิภี’’ติ อิมินา สหตฺเถน ทานํ อนุปวิทฺธทานนฺติ อิเม ทฺเว ทานคุณา ทสฺสิตา, ปีตวตฺถสฺส อตฺถรเณน นิสีทนกาลญฺญุตาย จิตฺติํ กตฺวา ทานํ กาเลน ทานนฺติ อิเม ทฺเว ทานคุณา ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพาฯ เสสํ เหฏฺฐา วุตฺตนยเมวฯ

ตติยปีฐวิมานวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

4. จตุตฺถปีฐวิมานวณฺณนา

ปีฐํ เต เวฬุริยมยนฺติ จตุตฺถปีฐวิมานํฯ อิมสฺสาปิ วตฺถุ ราชคเห สมุฏฺฐิตํ, ตํ ทุติยวิมาเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํฯ นีลวตฺเถน หิ อตฺถริตฺวา ปีฐสฺส ทินฺนตฺตา อิมิสฺสาปิ วิมานํ เวฬุริยมยํ นิพฺพตฺตํฯ เสสํ ปฐมวิมาเน วุตฺตสทิสํฯ เตน วุตฺตํ –

[23]

‘‘ปีฐํ เต เวฬุริยมยํ อุฬารํ, มโนชวํ คจฺฉติ เยนกามํ;

อลงฺกเต มลฺยธเร สุวตฺเถ, โอภาสสิ วิชฺชุริวพฺภกูฏํฯ

[24]

‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;

อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยาฯ

[25]

‘‘ปุจฺฉามิ ตํ เทวิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปุญฺญํ;

เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติฯ

[26]

‘‘สา เทวตา อตฺตมนา, โมคฺคลฺลาเนน ปุจฺฉิตา;

ปญฺหํ ปุฏฺฐา วิยากาสิ, ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ’’ฯ

[27]

‘‘อปฺปสฺส กมฺมสฺส ผลํ มเมทํ, เยนมฺหิ เอวํ ชลิตานุภาวา;

อหํ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูตา, ปุริมาย ชาติยา มนุสฺสโลเกฯ

[28]

‘‘อทฺทสํ วิรชํ ภิกฺขุํ, วิปฺปสนฺนมนาวิลํ;

ตสฺส อทาสหํ ปีฐํ, ปสนฺนา เสหิ ปาณิภิฯ

[29]

‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ, เตน เม อิธ มิชฺฌติ;

อุปฺปชฺชนฺติ จ เม โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยาฯ

[30]

‘‘อกฺขามิ เต ภิกฺขุ มหานุภาว, มนุสฺสภูตา ยมกาสิ ปุญฺญํ;

เตนมฺหิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติฯ

เอตฺถาปิ หิ นีลวตฺเถน อตฺถริตฺวา ปีฐสฺส ทินฺนตฺตา อิมิสฺสาปิ วิมานํ เวฬุริยมยํ นิพฺพตฺตํฯ เตเนเวตฺถ ‘‘ปีฐํ เต เวฬุริยมย’’นฺติ อาทิโต อาคตํฯ เสสํ ตติยสทิสเมวาติ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพฯ

จตุตฺถปีฐวิมานวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

5. กุญฺชรวิมานวณฺณนา

กุญฺชโร เต วราโรโหติ กุญฺชรวิมานํฯ ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ อเถกทิวสํ ราชคหนคเร นกฺขตฺตํ โฆสิตํฯ นาครา วีถิโย โสเธตฺวา วาลุกํ โอกิริตฺวา ลาชปญฺจมกานิ ปุปฺผานิ วิปฺปกิริํสุ, เคหทฺวาเร เคหทฺวาเร กทลิโย จ ปุณฺณฆเฏ จ ฐเปสุํ, ยถาวิภวํ นานาวิราควณฺณวิจิตฺตา ธชปฏากาทโย อุสฺสาเปสุํ, สพฺโพ ชโน อตฺตโน อตฺตโน วิภวานุรูปํ สุมณฺฑิตปสาธิโต นกฺขตฺตกีฬํ กีฬิ, สกลนครํ เทวนครํ วิย อลงฺกตปฏิยตฺตํ อโหสิฯ อถ พิมฺพิสารมหาราชา ปุพฺพจาริตฺตวเสน มหาชนสฺส จิตฺตานุรกฺขณตฺถญฺจ อตฺตโน ราชภวนโต นิกฺขมิตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน มหตา ราชานุภาเวน อุฬาเรน สิริโสภคฺเคน นครํ ปทกฺขิณํ กโรติฯ

เตน จ สมเยน ราชคหวาสินี เอกา กุลธีตา รญฺโญ ตํ วิภวสมฺปตฺติํ สิริโสภคฺคํ ราชานุภาวญฺจ ปสฺสิตฺวา อจฺฉริยพฺภุตจิตฺตชาตา ‘‘อยํ เทวิทฺธิสทิสา วิภวสมฺปตฺติ กีทิเสน นุ โข กมฺมุนา ลพฺภตี’’ติ ปณฺฑิตสมฺมเต ปุจฺฉิฯ เต ตสฺสา กเถสุํ ‘‘ภทฺเท, ปุญฺญกมฺมํ นาม จินฺตามณิสทิสํ กปฺปรุกฺขสทิสํ, เขตฺตสมฺปตฺติยา จิตฺตสมฺปตฺติยา จ สติ ยํ ยํ ปตฺเถตฺวา กโรติ, ตํ ตํ นิปฺผาเทติเยวฯ อปิจ อาสนทาเนน อุจฺจากุลีนตา โหติ, อนฺนทาเนน พลสมฺปตฺติปฏิลาโภ, วตฺถทาเนน วณฺณสมฺปตฺติปฏิลาโภ, ยานทาเนน สุขวิเสสปฏิลาโภ, ทีปทาเนน จกฺขุสมฺปตฺติปฏิลาโภ, อาวาสทาเนน สพฺพสมฺปตฺติปฏิลาโภ โหตี’’ติฯ สา ตํ สุตฺวา ‘‘เทวสมฺปตฺติ อิโต อุฬารา โหติ มญฺเญ’’ติ ตตฺถ จิตฺตํ ฐเปตฺวา ปุญฺญกิริยาย อติวิย อุสฺสาหชาตา อโหสิฯ

มาตาปิตโร จสฺสา อหตํ วตฺถยุคํ นวปีฐํ เอกํ ปทุมกลาปํ สปฺปิมธุสกฺขรา ตณฺฑุลขีรานิ จ ปริโภคตฺถาย เปเสสุํฯ