เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 95. อรูปาวจรทุกะ 7. ปัญหาวาร
ยินดีเพลิดเพลินกุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น
บุคคลพิจาณากุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้ว ฯลฯ ออกจากฌาน ฯลฯ พระอริยะออกจาก
มรรคแล้วพิจารณามรรค ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น พิจารณาผล ฯลฯ
พิจารณานิพพานให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น นิพพานเป็นปัจจัยแก่โคตรภู โวทาน
มรรค และผลโดยอธิปติปัจจัย ยินดีเพลิดเพลินจักษุ ฯลฯ ทหัยวัตถุ และขันธ์ที่
ไม่เป็นอรูปาวจรให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะทําความยินดีเพลิดเพลินจักษุ
เป็นต้นนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตต
ขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอธิปติปัจจัย (1)

อนันตรปัจจัยเป็นต้น
[283] สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจร
โดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอรูปาวจรซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่
เป็นอรูปาวจรซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรโดย
อนันตรปัจจัย ได้แก่ จุติจิตที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิตที่ไม่เป็นอรูปาวจร
ภวังคจิตที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่อาวัชชนจิต ขันธ์ที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่
วุฏฐานะที่ไม่เป็นอรูปาวจร เนวสัญญานาสัญญายตนะของท่านผู้ออกจากนิโรธเป็น
ปัจจัยแก่ผลสมาบัติโดยอนันตรปัจจัย (2)
[284] สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็น
อรูปาวจรโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่เป็นอรูปาวจรซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็น
ปัจจัยแก่ขันธ์ที่ไม่เป็นอรูปาวจรซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย อนุโลมเป็นปัจจัย
แก่โคตรภู ฯลฯ อนุโลมเป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติโดยอนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรโดย
อนันตรปัจจัย ได้แก่ จุติจิตที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิตที่เป็นอรูปาวจร
โดยอนันตรปัจจัย ขันธ์ที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะที่เป็นอรูปาวจรโดย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 43 หน้า :594 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 95. อรูปาวจรทุกะ 7. ปัญหาวาร
อนันตรปัจจัย บริกรรมอากาสานัญจายตนะเป็นปัจจัยแก่อากาสานัญจายตนะโดย
อนันตรปัจจัย บริกรรมวิญญาณัญจายตนะ ฯลฯ อากิญจัญญายตนะ ฯลฯ
บริกรรมเนวสัญญานาสัญญายตนะเป็นปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนะโดย
อนันตรปัจจัย (2)

... เป็นปัจจัยโดยสมนันตรปัจจัย มี 5 วาระ
... เป็นปัจจัยโดยสหชาตปัจจัย มี 5 วาระ
... เป็นปัจจัยโดยอัญญมัญญปัจจัย มี 2 วาระ
... เป็นปัจจัยโดยนิสสยปัจจัย มี 7 วาระ

อุปนิสสยปัจจัย
[285] สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจร
โดยอุปนิสสยปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อนันตรูปนิสสยะและปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ อากาสานัญจายตนะเป็นปัจจัยแก่วิญญาณัญจายตนะ
โดยอุปนิสสยปัจจัย วิญญาณัญจายตนะเป็นปัจจัยแก่อากิญจัญญายตนะ ฯลฯ
อากิญจัญญายตนะ เป็นปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนะโดยอุปนิสสยปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรโดย
อุปนิสสยปัจจัย มี 3 อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และ
ปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธาที่เป็นอรูปาวจรแล้วให้ทาน
สมาทานศีล รักษาอุโบสถ ทําฌานที่ไม่เป็นอรูปาวจรให้เกิดขึ้น ทำวิปัสสนา ฯลฯ
มรรค ฯลฯ อภิญญา ฯลฯ สมาบัติให้เกิดขึ้น มีมานะ ถือทิฏฐิ อาศัยศีลที่
เป็นอรูปาวจร ฯลฯ ปัญญาแล้วให้ทาน ฯลฯ ทําสมาบัติให้เกิดขึ้น มีมานะ ถือทิฏฐิ
ศรัทธาที่เป็นอรูปาวจร ฯลฯ ปัญญาเป็นปัจจัยแก่ศรัทธาที่ไม่เป็นอรูปาวจร ฯลฯ
ปัญญา ... ราคะ ฯลฯ ความปรารถนา ... สุขทางกาย ... ทุกข์ทางกาย ...มรรค
และผลสมาบัติโดยอุปนิสสยปัจจัย (2)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 43 หน้า :595 }