เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 93. กามาวจรทุกะ 7. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่ไม่เป็นกามาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกามาวจรโดย
อธิปติปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อารัมมณาธิปติและสหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลออกจากฌานแล้วพิจารณาฌานให้เป็นอารมณ์
อย่างหนักแน่น ยินดีเพลิดเพลิน เพราะทําความยินดีเพลิดเพลินฌานนั้นให้เป็น
อารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น พระอริยะออกจากมรรค
แล้วพิจารณามรรคให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น พิจารณาผล ฯลฯ พิจารณา
นิพพานให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น นิพพานเป็นปัจจัยแก่โคตรภู และโวทาน
โดยอธิปติปัจจัย บุคคลพิจารณาอากาสานัญจายตนะให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น
พิจารณาวิญญาณัญจายตนะ ฯลฯ อากิญจัญญายตนะ ฯลฯ เนวสัญญานา-
สัญญายตนะให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น พิจารณาทิพพจักขุ ฯลฯ ทิพพโสตธาตุ
ฯลฯ อิทธิวิธญาณ ฯลฯ อนาคตังสญาณให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น บุคคล
ยินดีเพลิดเพลินขันธ์ที่ไม่เป็นกามาวจรให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะทํา
ความยินดีเพลิดเพลินขันธ์นั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิ
จึงเกิดขึ้น
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่ไม่เป็นกามาวจรเป็นปัจจัยแก่จิตต-
สมุฏฐานรูปโดยอธิปติปัจจัย
สภาวธรรมที่ไม่เป็นกามาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกามาวจรและที่ไม่
เป็นกามาวจรโดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรม
ที่ไม่เป็นกามาวจรเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอธิปติปัจจัย (3)

อนันตรปัจจัยเป็นต้น
[211] สภาวธรรมที่เป็นกามาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกามาวจร
โดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกามาวจรซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่
เป็นกามาวจรซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย อนุโลมเป็นปัจจัยแก่โคตรภู
อนุโลมเป็นปัจจัยแก่โวทาน อาวัชชนจิตเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นกามาวจรโดย
อนันตรปัจจัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 43 หน้า :548 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 93. กามาวจรทุกะ 7. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่เป็นกามาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นกามาวจรโดย
อนันตรปัจจัย ได้แก่ จุติจิตที่เป็นกามาวจรเป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิตที่ไม่เป็นกามาวจร
อาวัชชนจิตเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่ไม่เป็นกามาวจรโดยอนันตรปัจจัย ขันธ์ที่เป็นกามาวจร
เป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะที่ไม่เป็นกามาวจรโดยอนันตรปัจจัย บริกรรมปฐมฌานเป็น
ปัจจัยแก่ปฐมฌานโดยอนันตรปัจจัย ฯลฯ บริกรรมจตุตถฌาน ฯลฯ บริกรรม
เนวสัญญานาสัญญายตนะ ฯลฯ บริกรรมทิพพจักขุ ฯลฯ ทิพพโสตธาตุ ฯลฯ
อิทธิวิธญาณ ฯลฯ เจโตปริยญาณ ฯลฯ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ฯลฯ
ยถากัมมูปคญาณ ฯลฯ บริกรรมอนาคตังสญาณเป็นปัจจัยแก่อนาคตังสญาณโดย
อนันตรปัจจัย โคตรภูเป็นปัจจัยแก่มรรค โวทานเป็นปัจจัยแก่มรรค อนุโลมเป็น
ปัจจัยแก่ผลสมาบัติโดยอนันตรปัจจัย (2)
[212] สภาวธรรมที่ไม่เป็นกามาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นกามาวจร
โดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่เป็นกามาวจรซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัย แก่ขันธ์
ที่ไม่เป็นกามาวจรซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย มรรคเป็นปัจจัยแก่ผล ผลเป็น
ปัจจัยแก่ผล เนวสัญญานาสัญญายตนะของท่านผู้ออกจากนิโรธเป็นปัจจัยแก่
ผลสมาบัติโดยอนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่ไม่เป็นกามาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกามาวจรโดย
อนันตรปัจจัย ได้แก่ จุติจิตที่ไม่เป็นกามาวจรเป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิตที่เป็นกามาวจร
ภวังคจิตที่ไม่เป็นกามาวจรเป็นปัจจัยแก่อาวัชชนจิต ขันธ์ที่ไม่เป็นกามาวจรเป็น
ปัจจัยแก่วุฏฐานะที่เป็นกามาวจรโดยอนันตรปัจจัย (2)

... เป็นปัจจัยโดยสมนันตรปัจจัย
... เป็นปัจจัยโดยสหชาตปัจจัย มี 7 วาระ
... เป็นปัจจัยโดยอัญญมัญญปัจจัย มี 6 วาระ
... เป็นปัจจัยโดยนิสสยปัจจัย มี 7 วาระ

อุปนิสสยปัจจัย
[213] สภาวธรรมที่เป็นกามาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกามาวจร
โดยอุปนิสสยปัจจัย มี 3 อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และ
ปกตูปนิสสยะ ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 43 หน้า :549 }