เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 85. ทัสสเนนปหาตัพพเหตุกทุกะ 7. ปัญหาวาร
[76] สภาวธรรมที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่
โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา
ซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย ขันธ์ที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค
ซึ่งเกิดก่อน ๆ ฯลฯ เป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติโดยอนันตรปัจจัย (พึงเพิ่มบทที่เป็นมูล)
โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา
ซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย อาวัชชนจิตเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่มีเหตุต้องประหาณ
ด้วยโสดาปัตติมรรคโดยอนันตรปัจจัย (พึงเพิ่มบทที่เป็นมูล) โมหะที่สหรคตด้วย
วิจิกิจฉาซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและโมหะซึ่งเกิด
หลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย อาวัชชนจิตเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและ
โมหะโดยอนันตรปัจจัย (3)
[77] สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและที่มีเหตุไม่
ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วย
โสดาปัตติมรรคโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและโมหะซึ่ง
เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย
(พึงเพิ่มบทที่เป็นมูล) ขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและโมหะซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็น
ปัจจัยแก่โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย ขันธ์ที่
สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและโมหะเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะโดยอนันตรปัจจัย (พึงเพิ่มบทที่
เป็นมูล) ขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและโมหะซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่
สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและโมหะที่เกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย (3)

... เป็นปัจจัยโดยสมนันตรปัจจัย มี 9 วาระ
... เป็นปัจจัยโดยสหชาตปัจจัย มี 9 วาระ
... เป็นปัจจัยโดยอัญญมัญญปัจจัย มี 6 วาระ
... เป็นปัจจัยโดยนิสสยปัจจัย มี 9 วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 43 หน้า :454 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 85. ทัสสเนนปหาตัพพเหตุกทุกะ 7. ปัญหาวาร
อุปนิสสยปัจจัย
[78] สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคโดยอุปนิสสยปัจจัย มี 3 อย่าง
คือ อารัมมณูนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ขันธ์ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคโดยอุปนิสสยปัจจัย วาระทั้ง 2
ที่เหลือ มีทั้งอนันตรูปนิสสยะและปกตูปนิสสยะ(พึงเพิ่มบทที่เป็นมูล) ขันธ์ที่มีเหตุ
ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วย
โสดาปัตติมรรคและโมหะโดยอุปนิสสยปัจจัย (พึงเพิ่มบทที่เป็นมูล) ขันธ์ที่มีเหตุ
ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและโมหะ
โดยอุปนิสสยปัจจัย (3)
[79] สภาวธรรมที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัย แก่
สภาวธรรมที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคโดยอุปนิสสยปัจจัย มี 3
อย่าง คือ อารัมมณูนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธาแล้วให้ทาน ฯลฯ ทําสมาบัติให้
เกิดขึ้น มีมานะ อาศัยศีล ฯลฯ ปัญญา ฯลฯ ราคะที่มีเหตุไม่ต้องประหาณ
ด้วยโสดาปัตติมรรค ... โทสะ ... โมหะ ... มานะ ... ความปรารถนา ... สุขทางกาย
... ทุกข์ทางกาย ... อุตุ ... โภชนะ และเสนาสนะแล้วให้ทาน ฯลฯ ทําสมาบัติ
ให้เกิดขึ้น ศรัทธา ฯลฯ เสนาสนะเป็นปัจจัยแก่ศรัทธา ฯลฯ ปัญญา ฯลฯ
ราคะที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค ฯลฯ ความปรารถนาและ
ผลสมาบัติโดยอุปนิสสยปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัยแก่สภาว-
ธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคโดยอุปนิสสยปัจจัย มี 3 อย่าง คือ
อารัมมณูนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธาแล้วถือทิฏฐิ อาศัยศีล ฯลฯ ปัญญา
... ราคะที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค ... โทสะ ... โมหะ ... มานะ
... ความปรารถนา ... สุขทางกาย ... ทุกข์ทางกาย ฯลฯ เสนาสนะแล้ว

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 43 หน้า :455 }