เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 83. ทัสสเนนปหาตัพพทุกะ 7. ปัญหาวาร
[12] สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเกิดระคนกับสภาวธรรม
ที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ โมหะที่สหรคตด้วย
วิจิกิจฉาเกิดระคนกับขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา (1)
สภาวธรรมที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเกิดระคนกับสภาวธรรมที่ไม่
ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเพราะนเหตุปัจจัย (ย่อ) (1)

นเหตุปัจจัย มี 2 วาระ
นอธิปติปัจจัย มี 2 วาระ
นปุเรชาตปัจจัย มี 2 วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย มี 2 วาระ
นอาเสวนปัจจัย มี 2 วาระ
นกัมมปัจจัย มี 2 วาระ
นวิปากปัจจัย มี 2 วาระ
นฌานปัจจัย มี 1 วาระ
นมัคคปัจจัย มี 1 วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย มี 2 วาระ

ปัจจนียะ จบ
(การนับ 2 อย่างนอกนี้และสัมปยุตตวารพึงทำอย่างนี้)

83. ทัสสเนนปหาตัพพทุกะ 7. ปัญหาวาร
1. ปัจจยานุโลม 1. วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[13] สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคโดยเหตุปัจจัย มี 3 วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 43 หน้า :412 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 83. ทัสสเนนปหาตัพพทุกะ 7. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่
ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่ไม่ต้องประหาณด้วย
โสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยเหตุปัจจัย
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (1)

อารัมมณปัจจัย
[14] สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลยินดีเพลิด
เพลินราคะที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลิน
ราคะนั้น ราคะที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิ ฯลฯ วิจิกิจฉา
ฯลฯ โทมนัสที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคจึงเกิดขึ้น บุคคลยินดีเพลิดเพลิน
ทิฏฐิที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินทิฏฐินั้น
ราคะที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิ ฯลฯ วิจิกิจฉา ฯลฯ
โทมนัสที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคจึงเกิดขึ้นเพราะปรารภวิจิกิจฉา วิจิกิจฉา
จึงเกิดขึ้น ทิฏฐิ ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้นเพราะปรารภโทมนัสที่ต้องประหาณด้วย
โสดาปัตติมรรค โทมนัสที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น
วิจิกิจฉาจึงเกิดขึ้น (1)
สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่
ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ พระอริยะพิจารณา
กิเลสที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคซึ่งละได้แล้ว รู้กิเลสที่เคยเกิดขึ้น ฯลฯ
เห็นแจ้งขันธ์ที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง ฯลฯ รู้จิต
ของบุคคลผู้มีความพรั่งพร้อมด้วยจิต ที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคด้วย
เจโตปริยญาณ ขันธ์ที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัยแก่เจโตปริยญาณ
ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ยถากัมมูปคญาณ อนาคตังสญาณ และอาวัชชนจิตโดย
อารัมมณปัจจัย (2)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 43 หน้า :413 }