เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 74. อุปาทานวิปปยุตตอุปาทานิยทุกะ 1. ปฏิจจวาร
ได้แก่ ขันธ์ 3 และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ 1 ที่วิปปยุตจากอุปาทานแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ 2 ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
อาศัยมหาภูตรูป 1 ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัย
มหาภูตรูปเกิดขึ้น (1)
สภาวธรรมที่วิปปยุตจากอุปาทานและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานอาศัย
สภาวธรรมที่วิปปยุตจากอุปาทาน และไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 อาศัยขันธ์ 1 ที่วิปปยุตจากอุปาทานและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ 2 ฯลฯ (1)
สภาวธรรมที่วิปปยุตจากอุปาทานแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรม
ที่วิปปยุตจากอุปาทานและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่วิปปยุตจากอุปาทาน และไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน
เกิดขึ้น (2)
สภาวธรรมที่วิปปยุตจากอุปาทานแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่วิปปยุตจาก
อุปาทานไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่วิปปยุตจากอุปาทานและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 และจิตตสมุฏฐานรูป
อาศัยขันธ์ 1 ที่วิปปยุตจากอุปาทานและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้น ฯลฯ (3)
สภาวธรรมที่วิปปยุตจากอุปาทานแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรม
ที่วิปปยุตจากอุปาทานแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่วิปปยุตจากอุปาทานไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่
วิปปยุตจากอุปาทานและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน และอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (1)

เหตุปัจจัย มี 5 วาระ
อารัมมณปัจจัย มี 2 วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย มี 5 วาระ

(ทุกะนี้เหมือนกับโลกิยทุกะในจูฬันตรทุกะ ไม่มีข้อแตกต่างกัน)
อุปาทานวิปปยุตตอุปาทานิยทุกะ จบ
อุปาทานโคจฉกะ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 43 หน้า :350 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 75. กิเลสทุกะ 1. ปฎิจจวาร
12. กิเลสโคจฉกะ
75. กิเลสทุกะ 1. ปฏิจจวาร
1. ปัจจยานุโลม 1.วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[1] สภาวธรรมที่เป็นกิเลสอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกิเลสเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย
ได้แก่ โมหะ ทิฏฐิ ถีนะ อุทธัจจะ อหิริกะ และอโนตตัปปะอาศัยโลภะเกิดขึ้น โมหะ
ทิฏฐิ อุทธัจจะ อหิริกะ และอโนตตัปปะอาศัยโลภะเกิดขึ้น โมหะ มานะ ถีนะ
อุทธัจจะ อหิริกะ และอโนตตัปปะอาศัยโลภะเกิดขึ้น โมหะ มานะ อุทธัจจะ อหิริกะ
และอโนตตัปปะอาศัยโลภะเกิดขึ้น โมหะ ถีนะ อุทธัจจะ อหิริกะ และอโนตตัปปะ
อาศัยโลภะเกิดขึ้น โมหะ อุทธัจจะ อหิริกะ และอโนตตัปปะอาศัยโลภะเกิดขึ้น
โมหะ ถีนะ อุทธัจจะ อหิริกะ และอโนตตัปปะอาศัยโทสะเกิดขึ้น โมหะ อุทธัจจะ
อหิริกะ และอโนตตัปปะอาศัยโทสะเกิดขึ้น โมหะ อุทธัจจะ อหิริกะ และ
อโนตตัปปะอาศัยวิจิกิจฉาเกิดขึ้น โมหะ อหิริกะ และอโนตตัปปะอาศัยอุทธัจจะ
เกิดขึ้น (1)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นกิเลสอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกิเลสเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย
ได้แก่ สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยกิเลสเกิดขึ้น (2)
สภาวธรรมที่เป็นกิเลสและที่ไม่เป็นกิเลสอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกิเลสเกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ โมหะ ทิฏฐิ ถีนะ อุทธัจจะ อหิริกะ อโนตตัปปะ
สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยโลภะเกิดขึ้น (พึงทำเป็นจักกนัย) (3)
[2] สภาวธรรมที่ไม่เป็นกิเลสอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นกิเลสเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ 1 ที่ไม่เป็นกิเลสเกิดขึ้น
ฯลฯ อาศัยขันธ์ 2 ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ หทัยวัตถุอาศัยขันธ์เกิดขึ้น
ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ... อาศัยมหาภูตรูป 1 ฯลฯ (1)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 43 หน้า :351 }