เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 71. อุปาทานสัมปยุตตทุกะ 7. ปัญหาวาร
สัมปยุตด้วยอุปาทานโดยอนันตรปัจจัย (พึงเพิ่มบทที่เป็นมูล) โลภะที่วิปปยุตจาก
ทิฏฐิซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สหรคตด้วยโลภะซึ่งวิปปยุตจากทิฏฐิและ
โลภะที่เกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย อาวัชชนจิตเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สหรคตด้วย
โลภะซึ่งวิปปยุตจากทิฏฐิและโลภะโดยอนันตรปัจจัย (3)
[74] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอุปาทานและที่วิปปยุตจากอุปาทานเป็น
ปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอุปาทานโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่สหรคต
ด้วยโลภะซึ่งวิปปยุตจากทิฏฐิและโลภะที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สหรคตด้วย
โลภะซึ่งวิปปยุตจากทิฏฐิที่เกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย (พึงเพิ่มบทที่เป็นมูล) ขันธ์
ที่สหรคตด้วยโลภะซึ่งวิปปยุตจากทิฏฐิและโลภะที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่โลภะที่
วิปปยุตจากทิฏฐิซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย ขันธ์ที่สหรคตด้วยโลภะซึ่งวิปปยุต
จากทิฏฐิและโลภะเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะโดยอนันตรปัจจัย (พึงเพิ่มบท ที่เป็นมูล)
ขันธ์ที่สหรคตด้วยโลภะซึ่งวิปปยุตจากทิฏฐิและโลภะที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์
ที่สหรคตด้วยโลภะซึ่งวิปปยุตจากทิฏฐิและโลภะที่เกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย (3)

สมนันตรปัจจัยเป็นต้น
[75] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยอุปาทานโดยสมนันตรปัจจัย

เป็นปัจจัยโดยสหชาตปัจจัย (เหมือนกับปฏิจจวาร) มี 9 วาระ
เป็นปัจจัยโดยอัญญมัญญปัจจัย (เหมือนกับปฏิจจวาร) มี 6 วาระ
เป็นปัจจัยโดยนิสสยปัจจัย (เหมือนกับปัจจยวาร) มี 9 วาระ

อุปนิสสยปัจจัย
[76] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยอุปาทานโดยอุปนิสสยปัจจัย มี 3 อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ
อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 43 หน้า :328 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 71. อุปาทานสัมปยุตตทุกะ 7. ปัญหาวาร
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สัมปยุต
ด้วยอุปาทานโดยอุปนิสสยปัจจัย (พึงเพิ่มบทที่เป็นมูล) ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอุปาทาน
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่วิปปยุตจากอุปาทานและโลภะโดยอุปนิสสยปัจจัย (พึงเพิ่มบทที่
เป็นมูล) ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สหรคตด้วยโลภะซึ่งวิปปยุต
จากทิฏฐิและโลภะโดยอุปนิสสยปัจจัย (3)
[77] สภาวธรรมที่วิปปยุตจากอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่วิปปยุตจาก
อุปาทานโดยอุปนิสสยปัจจัย มี 3 อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ
และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธาแล้วให้ทาน ฯลฯ ทำสมาบัติให้
เกิดขึ้น มีมานะ อาศัยศีล ฯลฯ ปัญญา ... ราคะที่วิปปยุตจากอุปาทาน ... มานะ
... ความปรารถนา ฯลฯ เสนาสนะแล้วให้ทาน ฯลฯ ทำลายสงฆ์ ศรัทธา ฯลฯ
เสนาสนะเป็นปัจจัยแก่ศรัทธา ฯลฯ ปัญญา ... ราคะที่วิปปยุตจากอุปาทาน ...
มานะ ... ความปรารถนา ... สุขทางกาย ฯลฯ ผลสมาบัติโดยอุปนิสสยปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่วิปปยุตจากอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
อุปาทานโดยอุปนิสสยปัจจัย (อุปนิสสยปัจจัยมี 3 วาระ) ได้แก่ บุคคลอาศัย
ศรัทธาแล้ว มีมานะ ถือทิฏฐิ อาศัยศีล ฯลฯ ปัญญา ... ราคะที่วิปปยุตจากอุปาทาน
... มานะ ... ความปรารถนา ... เสนาสนะแล้ว ลักทรัพย์ พูดเท็จ ฯลฯ พูดส่อเสียด
ฯลฯ พูดเพ้อเจ้อ ฯลฯ งัดแงะ ฯลฯ ปล้นไม่ให้เหลือ ฯลฯ ปล้นเรือนหลังเดียว ฯลฯ
ดักจี้ที่ทางเปลี่ยว ฯลฯ ล่วงเกินภรรยาผู้อื่น ฯลฯ ฆ่าชาวบ้าน ฯลฯ ฆ่าชาวนิคม
ศรัทธา ฯลฯ เสนาสนะเป็นปัจจัยแก่ราคะที่สัมปยุตด้วยอุปาทาน ... โมหะ ... มานะ
... ทิฏฐิ ... ความปรารถนาโดยอุปนิสสยปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่วิปปยุตจากอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
อุปาทานและที่วิปปยุตจากอุปาทานโดยอุปนิสสยปัจจัย มี 3 อย่าง คือ
อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธาแล้ว มีมานะ อาศัยศีล ฯลฯ ปัญญา
... ราคะที่วิปปยุตจากอุปาทาน ฯลฯ เสนาสนะ ฯลฯ ฆ่าชาวบ้าน ฆ่าชาวนิคม
ศรัทธา ฯลฯ เสนาสนะเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สหรคตด้วยโลภะซึ่งวิปปยุตจากทิฏฐิ
และโลภะโดยอุปนิสสยปัจจัย (3)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 43 หน้า :329 }