เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 69. อุปาทานทุกะ 7. ปัญหาวาร
อารัมมณปุเรชาตะ ได้แก่ บุคคลยินดีเพลิดเพลินจักษุ ฯลฯ หทัยวัตถุ
เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินจักษุเป็นต้นนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น
วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่อุปาทานโดยปุเรชาตปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอุปาทานและที่
ไม่เป็นอุปาทานโดยปุเรชาตปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อารัมมณปุเรชาตะและ
วัตถุปุเรชาตะ
อารัมมณปุเรชาตะ ได้แก่ บุคคลยินดีเพลิดเพลินจักษุ ฯลฯ หทัยวัตถุเพราะ
ปรารภความยินดีเพลิดเพลินจักษุเป็นต้นนั้น อุปาทานและสัมปยุตตขันธ์จึงเกิดขึ้น
วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่อุปาทานและสัมปยุตตขันธ์โดย
ปุเรชาตปัจจัย (3)

ปัจฉาชาตปัจจัยและอาเสวนปัจจัย
[29] สภาวธรรมที่เป็นอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทาน
โดยปัจฉาชาตปัจจัย (ย่อ) (1)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทานโดย
ปัจฉาชาตปัจจัย (ย่อ) (1)
สภาวธรรมที่เป็นอุปาทานและที่ไม่เป็นอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่
เป็นอุปาทานโดยปัจฉาชาตปัจจัย (ย่อ) (1)
... เป็นปัจจัยโดยอาเสวนปัจจัย

กัมมปัจจัย
[30] สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทาน
โดยกัมมปัจจัย มี 2 อย่าง คือ สหชาตะและนานาขณิกะ
สหชาตะ ได้แก่ เจตนาที่ไม่เป็นอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และ
จิตตสมุฏฐานรูปโดยกัมมปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 43 หน้า :303 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 69. อุปาทานทุกะ 7. ปัญหาวาร
นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่ไม่เป็นอุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบากและ
กฏัตตารูปโดยกัมมปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอุปาทานโดย
กัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่ไม่เป็นอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตอุปาทานโดย
กัมมปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอุปาทานและที่
ไม่เป็นอุปาทานโดยกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่ไม่เป็นอุปาทานเป็นปัจจัยแก่
สัมปยุตตขันธ์อุปาทานและจิตตสมุฏฐานรูปโดยกัมมปัจจัย (3)

วิปากปัจจัยเป็นต้น
[31] สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็น
อุปาทานโดยวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 1 ที่เป็นวิบากซึ่งไม่เป็นอุปาทาน ฯลฯ
มี 1 วาระ
สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทานโดย
อาหารปัจจัย มี 3 วาระ (มีเฉพาะกวฬิงการาหารอย่างเดียว) เป็นปัจจัยโดย
อินทรียปัจจัย มี 3 วาระ (รูปชีวิตินทรีย์ มีเพียง 1 วาระเท่านั้น) เป็นปัจจัย
โดยฌานปัจจัย มี 3 วาระ
สภาวธรรมที่เป็นอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอุปาทานโดยมัคคปัจจัย
ได้แก่ องค์มรรคที่เป็นอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตอุปาทานโดยมัคคปัจจัย
(โดยเหตุนี้ พึงเพิ่มเป็น 9 วาระ) เป็นปัจจัยโดยสัมปยุตตปัจจัย มี 9 วาระ

วิปปยุตตปัจจัย
[32] สภาวธรรมที่เป็นอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทาน
โดยวิปปยุตตปัจจัย มี 2 อย่าง คือ สหชาตะและปัจฉาชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ อุปาทานเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยวิปปยุตตปัจจัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 43 หน้า :304 }