เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 67. อุปาทาทุกะ 7. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปและที่
ไม่เป็นอุปาทายรูปโดยอัตถิปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อาหาระและอินทรียะ ได้แก่
กวฬิงการาหารเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เป็นอุปาทายรูปและที่ไม่เป็นอุปาทายรูปโดย
อัตถิปัจจัย รูปชีวิตินทรีย์เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปและที่ไม่เป็น
อุปาทายรูปโดยอัตถิปัจจัย (3)
[408] สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็น
อุปาทายรูปโดยอัตถิปัจจัย มี 3 อย่าง คือ สหชาตะ ปุเรชาตะ และปัจฉาชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ 1 ที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 3 และ
จิตตสมุฏฐานรูปที่ไม่เป็นอุปาทายรูปโดยอัตถิปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ 2 ฯลฯ ใน
ปฏิสนธิขณะ ฯลฯ มหาภูตรูป 1 เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป 3 โดยอัตถิปัจจัย ฯลฯ
มหาภูตรูป 2 เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป 2 โดยอัตถิปัจจัย (พึงเพิ่มข้อความจน
ถึงอสัญญสัตตพรหม)
ปุเรชาตะ ได้แก่ บุคคลเห็นแจ้งโผฏฐัพพะโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง ฯลฯ
โทมนัสจึงเกิดขึ้น โผฏฐัพพายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณโดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่ง
ไม่เป็นอุปาทายรูปโดยอัตถิปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปโดย
อัตถิปัจจัย มี 2 อย่าง คือ สหชาตะและปัจฉาชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปที่เป็น
อุปาทายรูปโดยอัตถิปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่ง
เป็นอุปาทายรูปโดยอัตถิปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปและ
ที่ไม่เป็นอุปาทายรูปโดยอัตถิปัจจัย มี 2 อย่าง คือ สหชาตะและปัจฉาชาตะ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 43 หน้า :240 }