เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 66. อัชฌัตติกทุกะ 7. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่เป็นภายในเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นภายในและที่เป็น
ภายนอกโดยปุเรชาตปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อารัมมณปุเรชาตะและวัตถุปุเรชาตะ
อารัมมณปุเรชาตะ ได้แก่ บุคคลเห็นแจ้งจักษุ ฯลฯ กายโดยเป็นสภาวะ
ไม่เที่ยง ฯลฯ เพราะปรารภจักษุเป็นต้นนั้น จิตและสัมปยุตตขันธ์จึงเกิดขึ้น
วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่ จักขายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณและสัมปยุตตขันธ์
ฯลฯ กายายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณและสัมปยุตตขันธ์โดยปุเรชาตปัจจัย (3)
[346] สภาวธรรมที่เป็นภายนอกเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นภายนอก
โดยปุเรชาตปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อารัมมณปุเรชาตะและวัตถุปุเรชาตะ
อารัมมณปุเรชาตะ ได้แก่ บุคคลเห็นแจ้งรูป ฯลฯ โผฏฐัพพะ ฯลฯ หทัย
วัตถุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น บุคคลเห็นรูปด้วยทิพพจักขุ
ฟังเสียงด้วยทิพพโสตธาตุ
วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นภายนอกโดย
ปุเรชาตปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่เป็นภายนอกเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นภายในโดยปุเรชาตปัจจัย
มี 2 อย่าง คือ อารัมมณปุเรชาตะและวัตถุปุเรชาตะ
อารัมมณปุเรชาตะ ได้แก่ บุคคลเห็นแจ้งรูป ฯลฯ โผฏฐัพพะ ฯลฯ
หทัยวัตถุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง ฯลฯ เพราะปรารภการเห็นแจ้งรูปเป็นต้นนั้น
จิตจึงเกิดขึ้น บุคคลเห็นรูปด้วยทิพพจักขุ ฟังเสียงด้วยทิพพโสตธาตุ
วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่จิตโดยปุเรชาตปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่เป็นภายนอกเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นภายในและที่เป็น
ภายนอกโดยปุเรชาตปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อารัมมณปุเรชาตะและวัตถุปุเรชาตะ
อารัมมณปุเรชาตะ ได้แก่ บุคคลเห็นแจ้งรูป ฯลฯ โผฏฐัพพะ ฯลฯ
หทัยวัตถุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง ฯลฯ เพราะปรารภรูปเป็นต้นนั้น จิตและ
สัมปยุตตขันธ์จึงเกิดขึ้น บุคคลเห็นรูปด้วยทิพพจักขุ ฟังเสียงด้วยทิพพโสตธาตุ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 43 หน้า :199 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 66. อัชฌัตติกทุกะ 7. ปัญหาวาร
วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่จิตและสัมปยุตตขันธ์โดย
ปุเรชาตปัจจัย (3)
[347] สภาวธรรมที่เป็นภายในและที่เป็นภายนอกเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่เป็นภายในโดยปุเรชาตปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อารัมมณปุเรชาตะและ
วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่ จักขายตนะและหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่จิต ฯลฯ กายายตนะและ
หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่จิตโดยปุเรชาตปัจจัย รูปายตนะและจักขายตนะเป็นปัจจัยแก่
จักขุวิญญาณ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะและกายายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณโดย
ปุเรชาตปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่เป็นภายในและที่เป็นภายนอกเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็น
ภายนอกโดยปุเรชาตปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อารัมมณปุเรชาตะและวัตถุปุเรชาตะ
ได้แก่ จักขายตนะและหทัยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นภายนอกโดยปุเรชาตปัจจัย
ฯลฯ กายายตนะและหทัยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นภายนอกโดยปุเรชาตปัจจัย
รูปายตนะและจักขายตนะ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สหรคตด้วยจักขุวิญญาณโดย
ปุเรชาตปัจจัย ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะและกายายตนะเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สหรคต
ด้วยกายวิญญาณโดยปุเรชาตปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่เป็นภายในและที่เป็นภายนอกเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็น
ภายในและที่เป็นภายนอกโดยปุเรชาตปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อารัมมณปุเรชาตะ
และวัตถุปุเรชาตะ ได้แก่ จักขายตนะและหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่จิตและสัมปยุตตขันธ์
โดยปุเรชาตปัจจัย ฯลฯ กายายตนะและหทัยวัตถุ ฯลฯ รูปายตนะและจักขายตนะ
เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณและสัมปยุตตขันธ์โดยปุเรชาตปัจจัย ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะ
ฯลฯ (3)

ปัจฉาชาตปัจจัยและอาเสวนปัจจัย
[348] สภาวธรรมที่เป็นภายในเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นภายในโดย
ปัจฉาชาตปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นภายในเป็น
ปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งเป็นภายในโดยปัจฉาชาตปัจจัย (พึงเพิ่มบทที่เป็นมูล)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 43 หน้า :200 }