เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 63. จิตตสังสัฏฐสมุฏฐานทุกะ 7. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่ไม่ระคนกับจิตและมีจิตเป็นสมุฏฐานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่
ระคนกับจิตและมีจิตเป็นสมุฏฐานโดยอัตถิปัจจัย มี 5 อย่าง คือ สหชาตะ ปุเรชาตะ
ปัจฉาชาตะ อาหาระ และอินทรียะ (ปัจจัยนี้เหมือนกับปุเรชาตปัจจัย พึงเพิ่ม
ปุเรชาตปัจจัยที่ย่อไว้ทั้งหมด พึงขยายให้พิสดาร) (1)
สภาวธรรมที่ไม่ระคนกับจิตและมีจิตเป็นสมุฏฐานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
ระคนกับจิตและมีจิตเป็นสมุฏฐานโดยอัตถิปัจจัย มี 2 อย่าง คือ สหชาตะ
และปุเรชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ จิตเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยอัตถิปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ
จิตเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยอัตถิปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ หทัยวัตถุเป็นปัจจัย
แก่ขันธ์ที่ระคนกับจิตและมีจิตเป็นสมุฏฐานโดยอัตถิปัจจัย
ปุเรชาตะ (ปัจจัยนี้เหมือนกับปุเรชาตปัจจัย ไม่มีข้อแตกต่างกัน) (2)
สภาวธรรมที่ไม่ระคนกับจิตและมีจิตเป็นสมุฏฐานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐาน และที่ไม่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานโดยอัตถิปัจจัย
มี 2 อย่าง คือ สหชาตะ และปุเรชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ จิตเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิ-
ปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ จิตเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และกฏัตตารูปโดยอัตถิปัจจัย
ในปฏิสนธิขณะ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่จิตและสัมปยุตตขันธ์โดยอัตถิปัจจัย
ปุเรชาตะ (ปัจจัยนี้เหมือนกับปุเรชาตปัจจัย) (3)
[308] สภาวธรรมที่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานและที่ไม่ระคนกับจิตมีจิต
เป็นสมุฏฐาน เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ระคนกับจิตและมีจิตเป็นสมุฏฐานโดย
อัตถิปัจจัย มี 2 อย่าง คือ สหชาตะ และปุเรชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ 1 ที่สหรคตด้วยจักขุวิญญาณ และจักขุวิญญาณเป็น
ปัจจัยแก่ขันธ์ 2 ฯลฯ ขันธ์ 2 ฯลฯ ขันธ์ 1 ที่สหรคตด้วยจักขุวิญญาณ
และจักขายตนะเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 2 ฯลฯ ที่สหรคตด้วยกายวิญญาณ ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 43 หน้า :173 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 63. จิตตสังสัฏฐสมุฏฐานทุกะ 7. ปัญหาวาร
ขันธ์ 1 ที่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐาน และจิตเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 2 โดยอัตถิปัจจัย
ขันธ์ 2 ฯลฯ ขันธ์ 1 ที่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานและหทัยวัตถุเป็นปัจจัย
แก่ขันธ์ 2 โดยอัตถิปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ 2 ฯลฯ (ในปฏิสนธิขณะ พึงเพิ่ม
เป็น 2 วาระ) (1)
สภาวธรรมที่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานและที่ไม่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐาน
เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่ระคนกับจิตและมีจิตเป็นสมุฏฐานโดยอัตถิปัจจัย
มี 5 อย่าง คือ สหชาตะ ปุเรชาตะ ปัจฉาชาตะ อาหาระ และอินทรียะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่สหรคตด้วยจักขุวิญญาณและจักขายตนะเป็นปัจจัยแก่
จักขุวิญญาณโดยอัตถิปัจจัย ฯลฯ ที่สหรคตด้วยกายวิญญาณ ฯลฯ ขันธ์ที่ระคน
กับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐาน และจิตเป็นปัจจัยแก่รูปที่ระคนกับจิตและมีจิตเป็น
สมุฏฐานโดยอัตถิปัจจัย ขันธ์ที่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานและมหาภูตรูปเป็น
ปัจจัยแก่รูปที่ระคนกับจิตและมีจิตเป็นสมุฏฐานโดยอัตถิปัจจัย ขันธ์ที่ระคนกับจิต
มีจิตเป็นสมุฏฐานและหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่จิตโดยอัตถิปัจจัย (ในปฏิสนธิขณะ
พึงเพิ่มเป็น 3 วาระ)
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐาน และจิตเป็นปัจจัยแก่
กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งไม่ระคนกับจิตและมีจิตเป็นสมุฏฐานโดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐาน จิตและกวฬิงการา-
หารเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่ไม่ระคนกับจิตและมีจิตเป็นสมุฏฐานโดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐาน จิตและรูปชีวิตินทรีย์
เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยอัตถิปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานและที่ไม่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐาน
เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานและที่ไม่ระคนกับจิตมีจิต
เป็นสมุฏฐานโดยอัตถิปัจจัย มี 2 อย่าง คือ สหชาตะ และปุเรชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ 1 ที่สหรคตด้วยจักขุวิญญาณ และจักขายตนะเป็น
ปัจจัยแก่ขันธ์ 2 และจักขุวิญญาณโดยอัตถิปัจจัย ขันธ์ 2 ฯลฯ ที่สหรคตด้วย
กายวิญญาณ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 43 หน้า :174 }