เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 63. จิตตสังสัฏฐสมุฏฐานทุกะ 3. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่ไม่ระคนกับจิตและมีจิตเป็นสมุฏฐานทำสภาวธรรมที่ไม่ระคนกับ
จิตและมีจิตเป็นสมุฏฐานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูป
ทำจิตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
(พึงเพิ่มข้อความจนถึงมหาภูตรูป) (1)
สภาวธรรมที่ระคนกับจิตและมีจิตเป็นสมุฏฐานทำสภาวธรรมที่ไม่ระคนกับจิต
และมีจิตเป็นสมุฏฐานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ สัมปยุตตขันธ์ทำ
จิตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่ระคนกับจิตและมีจิตเป็นสมุฏฐานทำหทัยวัตถุให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น (ในปฏิสนธิขณะ พึงเพิ่มเป็น 2 วาระ) มี 3 วาระ (3)
[290] สภาวธรรมที่ระคนกับจิตและมีจิตเป็นสมุฏฐานทำสภาวธรรมที่
ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานและที่ไม่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 2 ทำขันธ์ 1 ที่ระคนกับจิตมีจิตเป็น
สมุฏฐานและทำจิตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ... ทำขันธ์ 2 ฯลฯ ขันธ์ 2 ทำขันธ์ 1
ที่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ... ทำขันธ์ 2
ฯลฯ (ในปฏิสนธิขณะ พึงเพิ่มเป็น 2 วาระ) (1)
สภาวธรรมที่ไม่ระคนกับจิตและมีจิตเป็นสมุฏฐานทำสภาวธรรมที่ระคนกับจิต
มีจิตเป็นสมุฏฐานและที่ไม่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัย ได้แก่ รูปที่ไม่ระคนกับจิตและมีจิตเป็นสมุฏฐานทำขันธ์ที่ระคนกับจิตมี
จิตเป็นสมุฏฐานและทำจิตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น รูปที่ไม่ระคนกับจิตและมีจิตเป็น
สมุฏฐานทำขันธ์ที่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานและทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
จิตทำขันธ์ที่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
(ในปฏิสนธิขณะ พึงเพิ่มเป็น 3 วาระ) (2)
สภาวธรรมที่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานและที่ไม่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐาน
ทำสภาวธรรมที่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานและที่ไม่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐาน
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 2 และรูปที่ระคนกับจิต
มีจิตเป็นสมุฏฐานทำขันธ์ 1 ที่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานและทำจิตให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น ... ทำขันธ์ 2 ฯลฯ ขันธ์ 2 และจิตทำขันธ์ 1 ที่ระคนกับจิตมีจิตเป็น
สมุฏฐานและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ... ทำขันธ์ 2 ฯลฯ (ในปฏิสนธิขณะ
พึงเพิ่มเป็น 2 วาระ) (3)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 43 หน้า :163 }