เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 60. จิตตสมุฏฐานทุกะ 3. ปัจจยวาร
[202] สภาวธรรมที่มีจิตเป็นสมุฏฐานทำสภาวธรรมที่มีจิตเป็นสมุฏฐานและ
ที่ไม่มีจิตเป็นสมุฏฐานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 2
ทำขันธ์ 1 ที่มีจิตเป็นสมุฏฐานและทำจิตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ... ทำขันธ์ 2 ฯลฯ
ขันธ์ 2 ทำขันธ์ 1 ที่มีจิตเป็นสมุฏฐานและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ...
ทำขันธ์ 2 ฯลฯ (ในปฏิสนธิขณะพึงเพิ่มเป็น 2 วาระ เหมือนกับปฏิจจวาร) (1)
สภาวธรรมที่ไม่มีจิตเป็นสมุฏฐานทำสภาวธรรมที่มีจิตเป็นสมุฏฐานและที่ไม่มี
จิตเป็นสมุฏฐานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตทำขันธ์ที่มีจิตเป็น
สมุฏฐานและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (ในปฏิสนธิขณะ พึงเพิ่มเป็น 3 วาระ
เหมือนกับปฏิจจวาร) (2)
สภาวธรรมที่มีจิตเป็นสมุฏฐานและที่ไม่มีจิตเป็นสมุฏฐานทำสภาวธรรมที่มีจิต
เป็นสมุฏฐานและที่ไม่มีจิตเป็นสมุฏฐานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่
ขันธ์ 2 และจิตทำขันธ์ 1 ที่มีจิตเป็นสมุฏฐานและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
... ทำขันธ์ 2 ฯลฯ (ในปฏิสนธิขณะ พึงเพิ่มเป็น 2 วาระเหมือนกับปฏิจจวาร) (3)

อารัมมณปัจจัย
[203] สภาวธรรมที่มีจิตเป็นสมุฏฐานทำสภาวธรรมที่มีจิตเป็นสมุฏฐานให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย มี 3 วาระ (เหมือนกับปฏิจจวาร)
สภาวธรรมที่ไม่มีจิตเป็นสมุฏฐานทำสภาวธรรมที่ไม่มีจิตเป็นสมุฏฐานให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จักขุวิญญาณทำจักขายตนะให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ กายวิญญาณทำกายายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ จิตทำ
หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (1)
สภาวธรรมที่มีจิตเป็นสมุฏฐานทำสภาวธรรมที่ไม่มีจิตเป็นสมุฏฐานให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่สหรคตด้วยจักขุวิญญาณทำ
จักขายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่สหรคตด้วยกายวิญญาณทำกายายตนะ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น สัมปยุตตขันธ์ทำจิตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่มีจิตเป็น
สมุฏฐานทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (ในปฏิสนธิขณะ พึงเพิ่มเป็น 2 วาระ) (2)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 43 หน้า :113 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 60. จิตตสมุฏฐานทุกะ 3. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่มีจิตเป็นสมุฏฐานและที่ไม่มีจิตเป็นสมุฏฐานทำสภาวธรรมที่ไม่มี
จิตเป็นสมุฏฐานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จักขุวิญญาณและ
สัมปยุตตขันธ์ทำจักขายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำกายายตนะ ฯลฯ จิตและ
สัมปยุตตขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (3)
[204] สภาวธรรมที่มีจิตเป็นสมุฏฐานทำสภาวธรรมที่มีจิตเป็นสมุฏฐานและ
ที่ไม่มีจิตเป็นสมุฏฐานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 2
ทำขันธ์ 1 ที่มีจิตเป็นสมุฏฐานและทำจิตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ... ทำขันธ์ 2 ฯลฯ
ขันธ์ 2 ทำขันธ์ 1 ที่มีจิตเป็นสมุฏฐานและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ...
ทำขันธ์ 2 ฯลฯ (ในปฏิสนธิขณะ พึงเพิ่มเป็น 2 วาระ) (1)
สภาวธรรมที่ไม่มีจิตเป็นสมุฏฐานทำสภาวธรรมที่มีจิตเป็นสมุฏฐานและที่ไม่มี
จิตเป็นสมุฏฐานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จักขุวิญญาณทำ
ขันธ์ที่สหรคตด้วยจักขุวิญญาณและทำจักขายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำขันธ์
ที่สหรคตด้วยกายวิญญาณ ฯลฯ จิตทำขันธ์ที่มีจิตเป็นสมุฏฐานและทำหทัยวัตถุให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (2)
สภาวธรรมที่มีจิตเป็นสมุฏฐานและที่ไม่มีจิตเป็นสมุฏฐานทำสภาวธรรมที่มี
จิตเป็นสมุฏฐานและที่ไม่มีจิตเป็นสมุฏฐานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ 2 และจักขุวิญญาณทำขันธ์ 1 ที่สหรคตด้วยจักขุวิญญาณและทำ
จักขายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ... ทำขันธ์ 2 ฯลฯ ที่สหรคตด้วยกายวิญญาณ ฯลฯ
ขันธ์ 2 และจิตทำขันธ์ 1 ที่มีจิตเป็นสมุฏฐานและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
... ทำขันธ์ 2 ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (3) (ย่อ)

1. ปัจจยานุโลม 2. สังขยาวาร

[205] เหตุปัจจัย มี 9 วาระ
อารัมมณปัจจัย มี 9 วาระ
อธิปติปัจจัย มี 9 วาระ

(ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ 9 วาระ)

อวิคตปัจจัย มี 9 วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 43 หน้า :114 }