เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 6.นเหตุสเหตุกทุกะ 7.ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุและไม่มีเหตุ
โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่ไม่เป็น
เหตุแต่มีเหตุเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยอธิปติปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุ
และที่ไม่เป็นเหตุไม่มีเหตุโดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่
อธิบดีธรรมที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และจิตตสมุฏฐานรูป
โดยอธิปติปัจจัย (3)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุและไม่มีเหตุเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุ
โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระอริยะพิจารณา
นิพพานให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น นิพพานเป็นปัจจัยแก่โคตรภู โวทาน มรรค
และผลโดยอธิปติปัจจัย บุคคลยินดีเพลิดเพลินจักษุ ฯลฯ หทัยวัตถุ ฯลฯ ขันธ์ที่ไม่
เป็นเหตุและไม่มีเหตุให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะทำความยินดีเพลิดเพลิน
จักษุเป็นต้นนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น (1)

อนันตรปัจจัย
[179] สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุ
แต่มีเหตุโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็น
ปัจจัยแก่ขันธ์ที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย อนุโลมเป็น
ปัจจัยแก่โคตรภู ฯลฯ เนวสัญญานาสัญญายตนะเป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติโดย
อนันตรปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุและไม่มี
เหตุโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ จุติจิตที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุเป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิตที่
ไม่เป็นเหตุและไม่มีเหตุโดยอนันตรปัจจัย ภวังคจิตที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุเป็นปัจจัย
แก่อาวัชชนจิต ภวังคจิตที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุเป็นปัจจัยแก่ภวังคจิตที่ไม่เป็นเหตุ
และไม่มีเหตุ ขันธ์ที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะที่ไม่เป็นเหตุและไม่มี
เหตุโดยอนันตรปัจจัย (2)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 42 หน้า :97 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 6.นเหตุสเหตุกทุกะ 7.ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุและไม่มีเหตุเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุและ
ไม่มีเหตุโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่เป็นเหตุและไม่มีเหตุซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็น
ปัจจัยแก่ขันธ์ที่ไม่เป็นเหตุและไม่มีเหตุซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย อาวัชชนจิต
เป็นปัจจัยแก่วิญญาณ 5 โดยอนันตรปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุและไม่มีเหตุเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุแต่มี
เหตุโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ จุติจิตที่ไม่เป็นเหตุและไม่มีเหตุเป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิต
ที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุโดยอนันตรปัจจัย อาวัชชนจิตเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่ไม่เป็นเหตุ
แต่มีเหตุโดยอนันตรปัจจัย ขันธ์ที่ไม่เป็นเหตุและไม่มีเหตุเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะที่ไม่
เป็นเหตุแต่มีเหตุโดยอนันตรปัจจัย (2)

สมนันตรปัจจัยเป็นต้น
[180] สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุ
แต่มีเหตุโดยสมนันตรปัจจัย เป็นปัจจัยโดยสหชาตปัจจัย (ในปัจจัยนี้ไม่มีฆฏนา มี
7 วาระ) เป็นปัจจัยโดยอัญญมัญญปัจจัย มี 6 วาระ เป็นปัจจัยโดยนิสสยปัจจัย
(ปวัตติกาลและปฏิสนธิกาล มี 7 วาระ ในปัจจัยนี้ไม่มีฆฏนา)

อุปนิสสยปัจจัย
[181] สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุ
แต่มีเหตุโดยอุปนิสสยปัจจัย มี 3 อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ
และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธาแล้วให้ทาน ฯลฯ มีมานะ ถือทิฏฐิ
อาศัยศีล ฯลฯ ความปรารถนาแล้วให้ทาน ฯลฯ ทำลายสงฆ์ ศรัทธา ฯลฯ
ความปรารถนาเป็นปัจจัยแก่ศรัทธา ฯลฯ ความปรารถนา มรรค และผลสมาบัติ
โดยอุปนิสสยปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุและไม่มี
เหตุโดยอุปนิสสยปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อนันตรูปนิสสยะและปกตูปนิสสยะ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 42 หน้า :98 }