พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 28.คันถสัมปยุตตทุกะ 3.ปัจจยวาร
3. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ
[53] นอารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี 3 วาระ
นอธิปติปัจจัย มี 9 วาระ
(พึงนับอย่างนี้ ย่อ)
โนวิคตปัจจัย มี 3 วาระ
4. ปัจจยปัจจนียานุโลม
[54] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี 1 วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย มี 1 วาระ
(แม้สหชาตวารก็พึงทำอย่างนี้)
28. คันถสัมปยุตตทุกะ 3. ปัจจยวาร
1. ปัจจยานุโลม 1. วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[55] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยคันถะทำสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยคันถะให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย มี 3 วาระ (เหมือนกับปฏิจจวาร)
สภาวธรรมที่วิปปยุตจากคันถะทำสภาวธรรมที่วิปปยุตจากคันถะให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ... ทำขันธ์ 1 ที่วิปปยุตจากคันถะ ฯลฯ ใน
ปฏิสนธิขณะ ฯลฯ หทัยวัตถุทำขันธ์ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ... ทำมหาภูตรูป 1 ฯลฯ ขันธ์ที่วิปปยุตจากคันถะทำหทัยวัตถุให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (1)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยคันถะทำสภาวธรรมที่วิปปยุตจากคันถะให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยคันถะทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น สัมปยุตตขันธ์ทำโลภะที่วิปปยุตจากทิฏฐิให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น สัมปยุตตขันธ์
ทำปฏิฆะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (2)
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 28.คันถสัมปยุตตทุกะ 3.ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยคันถะและที่วิปปยุตจากคันถะทำสภาวธรรมที่วิปปยุต
จากคันถะให้เป็นป้จจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยคันถะทำ
หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปทำโลภะที่วิปปยุตจากทิฏฐิให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปทำปฏิฆะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่วิปปยุตจาก
ทิฏฐิและโลภะทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่สหรคตด้วยโทมนัสและปฏิฆะ
ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (3)
[56] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยคันถะทำสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยคันถะและที่
วิปปยุตจากคันถะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 ทำขันธ์ 1
ที่สัมปยุตด้วยคันถะและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำขันธ์ 2 ฯลฯ
ขันธ์ 3 ทำขันธ์ 1 ที่สหรคตด้วยโลภะซึ่งวิปปยุตจากทิฏฐิทำหทัยวัตถุและโลภะให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำขันธ์ 2 ฯลฯ ขันธ์ 3 ทำขันธ์ 1 ที่สหรคตด้วย
โทมนัสทำหทัยวัตถุและปฏิฆะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำขันธ์ 2 ฯลฯ (1)
สภาวธรรมที่วิปปยุตจากคันถะทำสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยคันถะและที่วิปปยุต
จากคันถะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่
สัมปยุตด้วยคันถะและทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่
สหรคตด้วยโลภะซึ่งวิปปยุตจากทิฏฐิและทำโลภะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตต-
สมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่สหรคตด้วยโทมนัสและทำปฏิฆะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น โลภะทำ
ขันธ์ที่สหรคตด้วยโลภะซึ่งวิปปยุตจากทิฏฐิและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
โลภะทำขันธ์ที่สหรคตด้วยโทมนัสและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ปฏิฆะทำ
ขันธ์ที่สหรคตด้วยโทมนัสและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (2)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยคันถะและที่วิปปยุตจากคันถะทำสภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยคันถะและที่วิปปยุตจากคันถะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3
ทำขันธ์ 1 ที่สัมปยุตด้วยคันถะและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำ
ขันธ์ 2 ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่สัมปยุตด้วยคันถะและทำมหาภูตรูปให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ 3 และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ 1 ที่สหรคตด้วยโลภะซึ่งวิปปยุต