เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 6. วิตักกติกะ 7. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
โดยอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่
วิตกที่เกิดหลัง ๆ โดยอาเสวนปัจจัย บริกรรมฌานที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็น
ปัจจัยแก่ฌานที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารโดยอาเสวนปัจจัย โคตรภูเป็นปัจจัยแก่มรรคที่
ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารโดยอาเสวนปัจจัย โวทานเป็นปัจจัยแก่มรรคที่ไม่มีวิตกมีเพียง
วิจารโดยอาเสวนปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
โดยอาเสวนปัจจัย ได้แก่ บริกรรมทุติยฌานเป็นปัจจัยแก่วิจารในทุติยฌานโดย
อาเสวนปัจจัย บริกรรมตติยฌานเป็นปัจจัยแก่ตติยฌาน ฯลฯ บริกรรมจตุตถฌาน
เป็นปัจจัยแก่จตุตถฌาน ฯลฯ บริกรรมอากาสานัญจายตนะเป็นปัจจัยแก่อากาสา-
นัญจายตนะ ฯลฯ บริกรรมวิญญาณัญจายตนะเป็นปัจจัยแก่วิญญาณัญจายตนะ
ฯลฯ บริกรรมอากิญจัญญายตนะเป็นปัจจัยแก่อากิญจัญญายตนะ ฯลฯ บริกรรม
เนวสัญญานาสัญญายตนะเป็นปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนะ ฯลฯ บริกรรม
ทิพพจักขุเป็นปัจจัยแก่ทิพพจักขุ ฯลฯ บริกรรมทิพพโสตธาตุเป็นปัจจัยแก่ทิพพ-
โสตธาตุ ฯลฯ บริกรรมอิทธิวิธญาณ ฯลฯ บริกรรมเจโตปริยญาณ ฯลฯ บริกรรม
ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ฯลฯ บริกรรมยถากัมมูปคญาณ ฯลฯ บริกรรม
อนาคตังสญาณ ฯลฯ โคตรภูเป็นปัจจัยแก่มรรคที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารและวิจาร ฯลฯ
โวทานเป็นปัจจัยแก่มรรคที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารและวิจารโดยอาเสวนปัจจัย (3)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
และที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารโดยอาเสวนปัจจัย ได้แก่ บริกรรมฌานที่ไม่มีวิตกมีเพียง
วิจารเป็นปัจจัยแก่ฌานที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและวิจารโดยอาเสวนปัจจัย โคตรภู
เป็นปัจจัยแก่มรรคที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและวิจาร ฯลฯ โวทานเป็นปัจจัยแก่มรรค
ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและวิจารโดยอาเสวนปัจจัย (4)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่
ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารโดยอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารซึ่งเกิด
ก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารซึ่งเกิดหลัง ๆ และวิตกโดยอาเสวนปัจจัย
อนุโลมเป็นปัจจัยแก่โคตรภูและวิตก ... อนุโลมเป็นปัจจัยแก่โวทานและวิตก ...

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :92 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 6. วิตักกติกะ 7. ปัญหาวาร
โคตรภูเป็นปัจจัยแก่มรรคที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตก ... โวทานเป็นปัจจัยแก่มรรคที่
มีทั้งวิตกวิจารและวิตกโดยอาเสวนปัจจัย (5)
[110] สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีวิตก
มีเพียงวิจารโดยอาเสวนปัจจัย ได้แก่ วิตกที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่วิตกซึ่งเกิดหลัง
ๆ โดยอาเสวนปัจจัย ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่
ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอาเสวนปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจาร
โดยอาเสวนปัจจัย ได้แก่ วิตกที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจาร
ซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอาเสวนปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
โดยอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่
วิจารซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอาเสวนปัจจัย (3)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียง
วิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารโดยอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
ซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารซึ่งเกิดหลัง ๆ และวิจารโดย
อาเสวนปัจจัย (4)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและ
ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารโดยอาเสวนปัจจัย ได้แก่ วิตกที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารซึ่งเกิดหลัง ๆ และวิตกโดยอาเสวนปัจจัย (5)
[111] สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีทั้ง
วิตกและวิจารโดยอาเสวนปัจจัย ได้แก่ วิจารที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่วิจารซึ่ง
เกิดหลัง ๆ โดยอาเสวนปัจจัย ขันธ์ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัย
แก่ขันธ์ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอาเสวนปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
โดยอาเสวนปัจจัย ได้แก่ วิจารที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียง
วิจารซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอาเสวนปัจจัย (2)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :93 }