เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 6. วิตักกติกะ 7. ปัญหาวาร
นิพพานให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น นิพพานเป็นปัจจัยแก่โคตรภูและวิตก
โวทานและวิตก มรรคที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตก ผลที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตกโดย
อธิปติปัจจัย บุคคลยินดีเพลิดเพลินจักษุให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ฯลฯ
หทัยวัตถุ ... ขันธ์ที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารและวิจารให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะ
ทําความยินดีเพลิดเพลินจักษุเป็นต้นนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ขันธ์ที่มีทั้ง
วิตกวิจารและวิตกจึงเกิดขึ้น (5)
[77] สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารโดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ
ได้แก่ เพราะทําขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและวิจารให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น
ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารจึงเกิดขึ้น (1)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารโดยอธิปติปัจจัยมีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่
เพราะทําขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและวิจารให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น วิตกจึง
เกิดขึ้น (2)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารโดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ เพราะทําขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและวิจารให้เป็น
อารมณ์อย่างหนักแน่น ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตกจึงเกิดขึ้น (3)
[78] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารโดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ
ได้แก่ เพราะทําขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตกให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ขันธ์ที่
มีทั้งวิตกและวิจารจึงเกิดขึ้น (1)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารโดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่
เพราะทําขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตกให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น วิตกจึง
เกิดขึ้น (2)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :60 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 6. วิตักกติกะ 7. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารโดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ เพราะทําขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตกให้เป็นอารมณ์อย่าง
หนักแน่น ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตกจึงเกิดขึ้น (3)

อนันตรปัจจัย
[79] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและ
วิจารโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัย
แก่ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย อนุโลมเป็นปัจจัยแก่
โคตรภู อนุโลมเป็นปัจจัยแก่โวทาน โคตรภูเป็นปัจจัยแก่มรรคที่มีทั้งวิตกและวิจาร
โวทานเป็นปัจจัยแก่มรรคที่มีทั้งวิตกและวิจาร มรรคที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัย
แก่ผลที่มีทั้งวิตกและวิจาร ผลที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่ผลที่มีทั้งวิตกและ
วิจาร อนุโลมเป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติที่มีทั้งวิตกและวิจารโดยอนันตรปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
โดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่
วิตกซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย จุติจิตที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่
อุปปัตติจิตที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร ฯลฯ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่
วุฏฐานะที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและวิตก ฯลฯ บริกรรมฌานที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
เป็นปัจจัยแก่ฌานที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร โคตรภูเป็นปัจจัยแก่มรรคที่ไม่มีวิตกมี
เพียงวิจาร โวทานเป็นปัจจัยแก่มรรคที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร อนุโลมเป็นปัจจัยแก่
ผลสมาบัติที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร และวิตกโดยอนันตรปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
โดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ จุติจิตที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิตที่ไม่มีทั้ง
วิตกวิจารและวิจารโดยอนันตรปัจจัย อาวัชชนจิตเป็นปัจจัยแก่วิญญาณ 5 โดย
อนันตรปัจจัย ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะที่ไม่มีทั้งวิตกวิจาร
และวิจาร ฯลฯ บริกรรมทุติยฌานเป็นปัจจัยแก่วิจารในทุติยฌานโดยอนันตรปัจจัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :61 }