เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 12. ปริตตติกะ 3. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่เป็นอัปปมาณะทำสภาวธรรมที่เป็นอัปปมาณะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ อธิบดีธรรมที่เป็นอัปปมาณะทำขันธ์ที่เป็นอัปปมาณะ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (1)
[37] สภาวธรรมที่เป็นอัปปมาณะทำสภาวธรรมที่เป็นปริตตะและที่เป็น
อัปปมาณะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ อธิบดีธรรมที่เป็น
อัปปมาณะทำขันธ์ที่เป็นอัปปมาณะและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (1)
สภาวธรรมที่เป็นปริตตะทำสภาวธรรมที่เป็นปริตตะและที่เป็นมหัคคตะให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่ง
เป็นมหัคคตะและทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (1)
สภาวธรรมที่เป็นมหัคคตะทำสภาวธรรมที่เป็นปริตตะและที่เป็นมหัคคตะให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ อธิบดีธรรมที่เป็นมหัคคตะทำขันธ์ที่
เป็นมหัคคตะและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ 3 ทำขันธ์ 1 ที่เป็น
วิบากซึ่งเป็นมหัคคตะและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำขันธ์ 2 ฯลฯ
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (2)
สภาวธรรมที่เป็นปริตตะและที่เป็นมหัคคตะทำสภาวธรรมที่เป็นปริตตะและที่
เป็นมหัคคตะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 ทำขันธ์ 1
ที่เป็นวิบากซึ่งเป็นมหัคคตะและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำขันธ์ 2
ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่งเป็นมหัคคตะและทำมหาภูตรูปให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ 3 ทำขันธ์ 1 ที่เป็นวิบากซึ่งเป็นมหัคคตะ
และทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำขันธ์ 2 ฯลฯ กฏัตตารูปทำขันธ์
ที่เป็นวิบากซึ่งเป็นมหัคคตะและทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (3)

นอนันตรปัจจัยเป็นต้น
[38] สภาวธรรมที่เป็นปริตตะทำสภาวธรรมที่เป็นปริตตะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะนอนันตรปัจจัย เพราะนสมนันตรปัจจัย เพราะนอัญญมัญญปัจจัย เพราะ
นอุปนิสสยปัจจัย เพราะนปุเรชาตปัจจัย (เหมือนกับปฏิจจวาร มี 12 วาระ)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :427 }