เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 12. ปริตตติกะ 1. ปฏิจจวาร
12. ปริตตติกะ 1. ปฏิจจวาร
1. ปัจจยานุโลม 1. วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[1] สภาวธรรมที่เป็นปริตตะอาศัยสภาวธรรมที่เป็นปริตตะเกิดขึ้นเพราะเหตุ
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ 1 ที่เป็นปริตตะเกิดขึ้น ฯลฯ
อาศัยขันธ์ 2 ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ 3 และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ 1 ที่เป็น
ปริตตะเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ 2 ฯลฯ หทัยวัตถุอาศัยขันธ์เกิดขึ้น ขันธ์อาศัย
หทัยวัตถุเกิดขึ้น มหาภูตรูป 3 อาศัยมหาภูตรูป 1 เกิดขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูป
อาศัยมหาภูตรูป 2 เกิดขึ้น ฯลฯ (1)
สภาวธรรมที่เป็นมหัคคตะอาศัยสภาวธรรมที่เป็นปริตตะเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย
ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นมหัคคตะอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น (2)
สภาวธรรมที่เป็นปริตตะและที่เป็นมหัคคตะอาศัยสภาวธรรมที่เป็นปริตตะเกิด
ขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นมหัคคตะอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น
กฏัตตารูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (3)
[2] สภาวธรรมที่เป็นมหัคคตะอาศัยสภาวธรรมที่เป็นมหัคคตะเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 อาศัยขันธ์ 1 ที่เป็นมหัคคตะเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัย
ขันธ์ 2 ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (1)
สภาวธรรมที่เป็นปริตตะอาศัยสภาวธรรมที่เป็นมหัคคตะเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย
ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นมหัคคตะเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป
อาศัยขันธ์ที่เป็นมหัคคตะเกิดขึ้น (2)
สภาวธรรมที่เป็นปริตตะและที่เป็นมหัคคตะอาศัยสภาวธรรมที่เป็นมหัคคตะ
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ 1 ที่เป็น
มหัคคตะเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ 3 และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ 1 ที่เป็น
มหัคคตะเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ 2 ฯลฯ (3)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :407 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 12. ปริตตติกะ 1. ปฏิจจวาร
[3] สภาวธรรมที่เป็นอัปปมาณะอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัปปมาณะเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 อาศัยขันธ์ 1 ที่เป็นอัปปมาณะเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัย
ขันธ์ 2 ฯลฯ (1)
สภาวธรรมที่เป็นปริตตะอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัปปมาณะเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย
ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอัปปมาณะเกิดขึ้น (2)
สภาวธรรมที่เป็นปริตตะและที่เป็นอัปปมาณะอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัปปมาณะ
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ 1 ที่
เป็นอัปปมาณะเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ 2 ฯลฯ (3)
[4] สภาวธรรมที่เป็นปริตตะอาศัยสภาวธรรมที่เป็นปริตตะและที่เป็นอัปปมาณะ
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอัปปมาณะและอาศัย
มหาภูตรูปเกิดขึ้น (1)
สภาวธรรมที่เป็นปริตตะอาศัยสภาวธรรมที่เป็นปริตตะและที่เป็นมหัคคตะเกิด
ขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นมหัคคตะและอาศัย
มหาภูตรูปเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (1)
สภาวธรรมที่เป็นมหัคคตะอาศัยสภาวธรรมที่เป็นปริตตะและที่เป็นมหัคคตะเกิด
ขึ้นพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ 3 อาศัยขันธ์ 1 ที่เป็นมหัคคตะ
และอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ 2 ฯลฯ (2)
สภาวธรรมที่เป็นปริตตะและที่เป็นมหัคคตะอาศัยสภาวธรรมที่เป็นปริตตะและที่
เป็นมหัคคตะเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ 3 อาศัยขันธ์ 1
ที่เป็นมหัคคตะและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ 2 ฯลฯ กฏัตตารูป
อาศัยขันธ์ที่เป็นมหัคคตะและอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (3)

อารัมมณปัจจัย
[5] สภาวธรรมที่เป็นปริตตะอาศัยสภาวธรรมที่เป็นปริตตะเกิดขึ้นเพราะ
อารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 อาศัยขันธ์ 1 ที่เป็นปริตตะเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัย
ขันธ์ 2 ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น (1)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :408 }