เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 9. ทัสสเนนปหาตัพพเหตุกติกะ 7. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค
และมรรคเบื้องบน 3 โดยอาหารปัจจัย ได้แก่ อาหารที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดา-
ปัตติมรรคเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โมหะและจิตตสมุฏฐานรูปโดยอาหารปัจจัย (3)
สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 ... มี 3 วาระ
(เหมือนกับบทว่าโสดาปัตติมรรค)
สภาวธรรมที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3
เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน
3 โดยอาหารปัจจัย ได้แก่ อาหารที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและ
มรรคเบื้องบน 3 เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอาหารปัจจัย
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ กวฬิงการาหารเป็นปัจจัยแก่กายนี้โดยอาหารปัจจัย

อินทรียปัจจัยเป็นต้น
[101] สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคโดยอินทรียปัจจัย มี 3 วาระ
(ปัจจัยนี้เหมือนกับอาหารปัจจัย พึงเพิ่มโมหะเข้าด้วย)
สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 ... มี 3 วาระ
สภาวธรรมที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3
เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้อง
บน 3 โดยอินทรียปัจจัย ได้แก่ อินทรีย์ที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติ-
มรรคและมรรคเบื้องบน 3 เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ ฯลฯ จักขุนทรีย์เป็นปัจจัย
แก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ กายินทรีย์เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ ฯลฯ รูปชีวิตินทรีย์
เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยอินทรียปัจจัย เป็นปัจจัยโดยฌานปัจจัย เป็นปัจจัยโดย
มัคคปัจจัย (พึงทําปัจจัยเหล่านี้ให้เป็นปัจจัยที่มีเหตุ) เป็นปัจจัยโดยสัมปยุตตปัจจัย
(เหมือนกับสัมปยุตตวารในปฏิจจวาร)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :294 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 9. ทัสสเนนปหาตัพพเหตุกติกะ 7. ปัญหาวาร
วิปปยุตตปัจจัย
[102] สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 โดย
วิปปยุตตปัจจัย มี 2 อย่าง คือ สหชาตะและปัจฉาชาตะ (เหมือนกับทัสสนติกะ)
สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 โดยวิปปยุตตปัจจัย
มี 2 อย่าง คือ สหชาตะและปัจฉาชาตะ (เหมือนกับทัสสนติกะ)
สภาวธรรมที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3
เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน
3 โดยวิปปยุตตปัจจัยมี 3 อย่าง คือ สหชาตะ ปุเรชาตะ และปัจฉาชาตะ (เหมือน
กับทัสสนติกะ)
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรค
เบื้องบน 3 และโมหะเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อน ฯลฯ (1)
สภาวธรรมที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3
เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคโดยวิปปยุตตปัจจัย
มีอย่างเดียว คือ ปุเรชาตะ ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่มีเหตุต้องประหาณ
ด้วยโสดาปัตติมรรค ฯลฯ (2)
สภาวธรรมที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3
เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 โดยวิปปยุตต-
ปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปุเรชาตะ ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่มีเหตุต้อง
ประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 ฯลฯ (3)
สภาวธรรมที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3
เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและที่มีเหตุไม่ต้อง
ประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 โดยวิปปยุตตปัจจัย มีอย่างเดียว
คือ ปุเรชาตะ ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและโมหะ
โดยวิปปยุตตปัจจัย (4)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :295 }