เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 9. ทัสสเนนปหาตัพพเหตุกติกะ 7. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 และที่มีเหตุไม่ต้อง
ประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีเหตุ
ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 โดยปัจฉาชาตปัจจัย มี
อย่างเดียว คือ ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะและโมหะเป็นปัจจัย
แก่กายนี้ที่เกิดก่อนโดยปัจฉาชาตปัจจัย (1)

อาเสวนปัจจัย
[95] สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัยแก่สภาว-
ธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคโดยอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่
มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่มีเหตุต้อง
ประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคซึ่งเกิดหลังๆ โดยอาเสวนปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 โดยอาเสวนปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่โมหะที่เกิดหลัง ๆ
โดยอาเสวนปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติ-
มรรคและมรรคเบื้องบน 3 โดยอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา
ซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาซึ่งเกิดหลัง ๆ และโมหะโดย
อาเสวนปัจจัย
สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 (ย่อ) มี 3 วาระ
สภาวธรรมที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3
ฯลฯ (ในวาระที่มีอาเสวนปัจจัยเป็นมูล วุฏฐานะและอาวัชชนจิตพึงละไว้ 17
วาระ บริบูรณ์แล้ว เหมือนกับอนันตรปัจจัย)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :291 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 9. ทัสสเนนปหาตัพพเหตุกติกะ 7. ปัญหาวาร
กัมมปัจจัย
[96] สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัยแก่สภาว-
ธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคโดยกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่มีเหตุ
ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยกัมมปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 โดยกัมมปัจจัย
มี 2 อย่าง คือ สหชาตะและนานาขณิกะ
สหชาตะ ได้แก่ เจตนาที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัย
แก่โมหะและจิตตสมุฏฐานรูปโดยกัมมปัจจัย
นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัย
แก่ขันธ์ที่เป็นวิบากและกฏัตตารูปโดยกัมมปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค
และมรรคเบื้องบน 3 โดยกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่มีเหตุต้องประหาณด้วย
โสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โมหะและจิตตสมุฏฐานรูปโดยกัมมปัจจัย (3)
[97] สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 เป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 โดยกัมมปัจจัย ได้แก่
เจตนาที่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดย
กัมมปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 โดยกัมมปัจจัย
ได้แก่ เจตนาที่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 เป็นปัจจัยแก่โมหะและ
จิตตสมุฏฐานรูปโดยกัมมปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 และที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดา-

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :292 }