เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 9. ทัสสเนนปหาตัพพเหตุกติกะ 3. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคทำสภาวธรรมที่มีเหตุไม่
ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
นกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคทำหทัยวัตถุให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น สัมปยุตตเจตนาทำโมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น (2)
สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 ทำสภาวธรรมที่มีเหตุ
ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
นกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 ทำหทัยวัตถุ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น สัมปยุตตเจตนาทำโมหะที่สหรคตด้วยอุทธัจจะให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น (3)
[58] สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคทำสภาวธรรมที่มี
เหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค
และมรรคเบื้องบน 3 ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่มีเหตุ
ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคทำขันธ์ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค
และทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น สัมปยุตตเจตนาทำขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา
และทำโมหะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (1)
สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 ทำสภาวธรรมที่มีเหตุ
ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 และที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค
และมรรคเบื้องบน 3 ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่มีเหตุ
ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 ทำขันธ์ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3
และทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น สัมปยุตตเจตนาทำขันธ์ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ
และทำโมหะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (1)

นวิปากปัจจัยเป็นต้น
[59] สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคทำสภาวธรรมที่มีเหตุ
ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนวิปากปัจจัย (บริบูรณ์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :262 }