เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 9. ทัสสเนนปหาตัพพเหตุกติกะ 3. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 ทำสภาวธรรมที่มีเหตุ
ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 และที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค
และมรรคเบื้องบน 3 ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 ทำ
ขันธ์ 1 ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 และทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น ฯลฯ มี 3 วาระ (เหมือนกับบทว่าโสดาปัตติมรรค) เพราะอนันตรปัจจัย
เพราะสมนันตรปัจจัย

สหชาตปัจจัย
[43] สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคทำสภาวธรรมที่มีเหตุ
ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคให้เป็นเกิดขึ้นเพราะสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3
ทำขันธ์ 1 ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ (1)
สภาวธรรมที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3
ทำสภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
สหชาตปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติ-
มรรคให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่
สหรคตด้วยวิจิกิจฉาให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (2)
สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและที่มีเหตุไม่ต้องประหาณ
ด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 ทำสภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วย
โสดาปัตติมรรคให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 และจิตต-
สมุฏฐานรูปทำขันธ์ 1 ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
ฯลฯ ขันธ์ 3 โมหะและจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ 1 ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ 2 ฯลฯ (3)
... ทำสภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 ... มี 3 วาระ
(ย่อ) (เหมือนกับบทว่าโสดาปัตติมรรค)
[44] สภาวธรรมที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน
3 ทำสภาวธรรมที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :250 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 9. ทัสสเนนปหาตัพพเหตุกติกะ 3. ปัจจยวาร
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 และจิตตสมุฏฐานรูปทำ
ขันธ์ 1 ที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 ให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปทำโมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคต
ด้วยอุทธัจจะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ หทัยวัตถุทำขันธ์ให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น มหาภูตรูป 3 ทำมหาภูตรูป 1
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ สําหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม ฯลฯ จักขุวิญญาณทำ
จักขายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ กายวิญญาณทำกายายตนะให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น ขันธ์ที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 ทำ
หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (1)
สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคทำสภาวธรรมที่มีเหตุไม่ต้อง
ประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและและมรรคเบื้องบน 3 ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
สหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคทำหทัยวัตถุให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น สัมปยุตตขันธ์ทำโมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (2)
สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 ทำสภาวธรรมที่มีเหตุไม่
ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
สหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 ทำหทัยวัตถุ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น สัมปยุตตขันธ์ทำโมหะที่สหรคตด้วยอุทธัจจะให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น (3)
สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและที่มีเหตุไม่ต้องประหาณ
ด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 ทำสภาวธรรมที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วย
โสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะสหชาตปัจจัย ได้แก่
ขันธ์ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
จิตตสมุฏฐานรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐาน-
รูปทำโมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา
และโมหะทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (4)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :251 }