เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 8. ทัสสเนนปหาตัพพติกะ 7. ปัญหาวาร
อนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3
ซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้อง
บน 3 ซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย อนุโลมเป็นปัจจัยแก่โคตรภู อนุโลมเป็น
ปัจจัยแก่โวทาน โคตรภูเป็นปัจจัยแก่มรรค โวทานเป็นปัจจัยแก่มรรค มรรคเป็น
ปัจจัยแก่ผล ผลเป็นปัจจัยแก่ผล อนุโลมเป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติ เนวสัญญา-
นาสัญญายตนะของท่านผู้ออกจากนิโรธเป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติโดยอนันตรปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 เป็น
ปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค ฯลฯ อาวัชชนจิตเป็น
ปัจจัยแก่ขันธ์ที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคโดยอนันตรปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 เป็น
ปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 โดยอนันตรปัจจัย ได้แก่
อาวัชชนจิตเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 โดยอนันตร-
ปัจจัย (3)

สมนันตรปัจจัย
[78] สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคโดยสมนันตรปัจจัย (ปัจจัยนี้เหมือนกับอนันตร-
ปัจจัย)

สหชาตปัจจัย
[79] สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคโดยสหชาตปัจจัย มี 3 วาระ
สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 มี 3 วาระ
สภาวธรรมที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 เป็น
ปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 โดย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :204 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 8. ทัสสเนนปหาตัพพติกะ 7. ปัญหาวาร
สหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 1 ที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้อง
บน 3 เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 3 และจิตตสมุฏฐานรูปโดยสหชาตปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ 2
ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ ขันธ์เป็นปัจจัยแก่หทัยวัตถุโดยสหชาตปัจจัย หทัยวัตถุ
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ฯลฯ มหาภูตรูป 1 เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป 3 ฯลฯ มหาภูต-
รูปเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป ฯลฯ ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน
... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สําหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม ฯลฯ (1)
สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดา-
ปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่ต้องประหาณด้วย
โสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 โดยสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่ต้องประหาณ
ด้วยโสดาปัตติมรรคและมหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยสหชาตปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 และที่ไม่ต้องประหาณด้วย
โสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่ต้องประหาณ
ด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 โดยสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่ต้อง
ประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 และมหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดย
สหชาตปัจจัย (1)

อัญญมัญญปัจจัย
[80] สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคโดยอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 1 ที่ต้อง
ประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 3 ฯลฯ (1)
สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 ฯลฯ ขันธ์ 1 ที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน
3 เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 3 ฯลฯ (1)
สภาวธรรมที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 เป็น
ปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 ฯลฯ
ขันธ์ 1 ที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 เป็นปัจจัยแก่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :205 }