เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 6. วิตักกติกะ 1. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตก
วิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ 3 และวิตก
อาศัยขันธ์ 1 ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ 2 และ
วิตกอาศัยขันธ์ 2 และหทัยวัตถุเกิดขึ้น ขันธ์ 2 และวิตกอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น
เพราะวิปปยุตตปัจจัย (6)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัย
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ 3 และวิตกอาศัยขันธ์ 1 ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ 2 และวิตกอาศัยขันธ์ 2 และหทัยวัตถุเกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่มีทั้ง
วิตกวิจารและอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ขันธ์และวิตกอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะ
วิปปยุตตปัจจัย กฏัตตารูปอาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (7)
[18] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
และที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัย
วิตกและหทัยวัตถุเกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและ
ที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ 3 อาศัยขันธ์ 1 ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและ
อาศัยวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ 2 ฯลฯ ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะ
วิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ 3 อาศัยขันธ์ 1 ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
และอาศัยวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ 2 ฯลฯ ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น
เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ 3 อาศัยขันธ์ 1 ที่ไม่มีวิตกมีเพียง
วิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ 2 ฯลฯ ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุ
เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่
ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและ
อาศัยวิจารเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์และวิจารเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น จิตต-

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :16 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 6. วิตักกติกะ 1. ปฏิจจวาร
สมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยวิตกและ
มหาภูตรูปเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยวิตกเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ใน
ปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยวิจารเกิดขึ้น
กฏัตตารูปอาศัยขันธ์และวิจารเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ
กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น กฏัตตารูป
อาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูปอาศัยวิตกและ
มหาภูตรูปเกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัยวิตกเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิ-
ขณะ วิจารอาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น วิจารอาศัย
หทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (3)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมี
เพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยวิตกและหทัยวัตถุเกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัยวิตกและ
มหาภูตรูปเกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย กฏัตตารูป
อาศัยวิตกเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (4)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มี
วิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ 3 และจิตตสมุฏฐานรูป
อาศัยขันธ์ 1 ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์อาศัย
หทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์และวิจารเกิดขึ้น
เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ 3 และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ 1 ที่
ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะ
วิปปยุตตปัจจัย กฏัตตารูปอาศัยขันธ์และวิจารเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ใน
ปฏิสนธิขณะ ขันธ์ 3 อาศัยขันธ์ 1 ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยหทัยวัตถุ
เกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ 2 ฯลฯ กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและ
อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย กฏัตตา-
รูปอาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ 3 และวิจาร
อาศัยขันธ์ 1 ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ 2
ฯลฯ ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (5)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :17 }