เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 7. ปีติติกะ 7. ปัญหาวาร
เพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินขันธ์นั้น ราคะที่สหรคตด้วยอุเบกขา
จึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น วิจิกิจฉาจึงเกิดขึ้น อุทธัจจะจึงเกิดขึ้น บุคคลรู้จิตของ
บุคคลผู้มีความพรั่งพร้อมด้วยจิตที่สหรคตด้วยปีติด้วยเจโตปริยญาณ ขันธ์ที่สหรคต
ด้วยปีติเป็นปัจจัยแก่เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ยถากัมมูปคญาณ
อนาคตังสญาณ และอาวัชชนจิตโดยอารัมมณปัจจัย เพราะปรารภขันธ์ที่สหรคต
ด้วยปีติ ขันธ์ที่สหรคตด้วยอุเบกขาจึงเกิดขึ้น (3)
สภาวธรรมที่สหรคตด้วยปีติเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สหรคตด้วยปีติและที่สหรคต
ด้วยสุขโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลมีจิตสหรคตด้วยปีติให้ทาน สมาทาน
ศีล รักษาอุโบสถแล้วพิจารณากุศลนั้นด้วยจิตที่สหรคตด้วยปีติและที่สหรคตด้วยสุข
ออกจากฌานที่สหรคตด้วยปีติ ออกจากมรรค ออกจากผลแล้ว พิจารณาฌาน
เป็นต้นนั้นด้วยจิตที่สหรคตด้วยปีติและที่สหรคตด้วยสุข พระอริยะมีจิตสหรคตด้วย
ปีติและที่สหรคตด้วยสุขพิจารณากิเลสที่สหรคตด้วยปีติซึ่งละได้แล้ว พิจารณากิเลส
ที่ข่มได้แล้ว รู้กิเลสที่เคยเกิดขึ้น บุคคลมีจิตสหรคตด้วยปีติและที่สหรคตด้วยสุข
เห็นแจ้งขันธ์ที่สหรคตด้วยปีติโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดี
เพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินขันธ์นั้น ราคะที่สหรคตด้วยปีติ
และที่สหรคตด้วยสุขจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น เพราะปรารภขันธ์ที่สหรคตด้วยปีติ
ขันธ์ที่สหรคตด้วยปีติและที่สหรคตด้วยสุขจึงเกิดขึ้น (4)
[20] สภาวธรรมที่สหรคตด้วยสุขเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สหรคตด้วยสุข
โดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ สภาวธรรมที่สหรคตด้วยสุขเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
สหรคตด้วยปีติ ฯลฯ สภาวธรรมที่สหรคตด้วยอุเบกขา ฯลฯ เป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่สหรคตด้วยปีติและที่สหรคตด้วยสุขโดยอารัมมณปัจจัย เพราะปรารภ
ขันธ์ที่สหรคตด้วยสุข ขันธ์ที่สหรคตด้วยปีติและที่สหรคตด้วยสุขจึงเกิดขึ้น (4)
สภาวธรรมที่สหรคตด้วยอุเบกขาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สหรคตด้วยอุเบกขา
โดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลมีจิตสหรคตด้วยอุเบกขาให้ทาน สมาทานศีล
รักษาอุโบสถแล้ว พิจารณากุศลนั้นด้วยจิตที่สหรคตด้วยอุเบกขา ออกจากฌานที่
สหรคตด้วยอุเบกขา ออกจากมรรค ออกจากผลแล้วพิจารณาฌานเป็นต้นนั้นด้วยจิต

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :136 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 7. ปีติติกะ 7. ปัญหาวาร
ที่สหรคตด้วยอุเบกขา พระอริยะมีจิตสหรคตด้วยอุเบกขาพิจารณากิเลสที่สหรคตด้วย
อุเบกขาซึ่งละได้แล้ว พิจารณากิเลสที่ข่มได้แล้ว รู้กิเลสที่เคยเกิดขึ้น บุคคลมีจิตสหรคต
ด้วยอุเบกขาเห็นแจ้งขันธ์ที่สหรคตด้วยอุเบกขาโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์
เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินขันธ์นั้น ราคะที่
สหรคตด้วยอุเบกขาจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น วิจิกิจฉาจึงเกิดขึ้น อุทธัจจะจึงเกิดขึ้น
บุคคลรู้จิตของบุคคลผู้มีความพรั่งพร้อมด้วยจิตที่สหรคตด้วยอุเบกขาด้วย เจโต-
ปริยญาณ อากาสานัญจายตนะเป็นปัจจัยแก่วิญญาณัญจายตนะโดยอารัมมณปัจจัย
ฯลฯ อากิญจัญญายตนะเป็นปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนะโดยอารัมมณปัจจัย
ขันธ์ที่สหรคตด้วยอุเบกขาเป็นปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณ เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสา-
นุสสติญาณ ยถากัมมูปคญาณ อนาคตังสญาณ และอาวัชชนจิตโดยอารัมมณปัจจัย
เพราะปรารภขันธ์ที่สหรคตด้วยอุเบกขา ขันธ์ที่สหรคตด้วยอุเบกขาจึงเกิดขึ้น (1)
สภาวธรรมที่สหรคตด้วยอุเบกขาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สหรคตด้วยปีติ ฯลฯ
สภาวธรรมที่สหรคตด้วยสุข ฯลฯ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สหรคตด้วยปีติและที่
สหรคตด้วยสุขโดยอารัมมณปัจจัย บุคคลมีจิตสหรคตด้วยอุเบกขาให้ทาน สมาทาน
ศีล รักษาอุโบสถแล้ว พิจารณากุศลนั้นด้วยจิตที่สหรคตด้วยปีติและที่สหรคตด้วยสุข
ออกจากฌานที่สหรคตด้วยอุเบกขา ออกจากมรรค ออกจากผลแล้วพิจารณาฌาน
เป็นต้นนั้นด้วยจิตที่สหรคตด้วยปีติและที่สหรคตด้วยสุข พระอริยะมีจิตสหรคตด้วย
ปีติและที่สหรคตด้วยสุขพิจารณากิเลสที่สหรคตด้วยอุเบกขาซึ่งละได้แล้ว พิจารณา
กิเลสที่ข่มได้แล้ว รู้กิเลสที่เคยเกิดขึ้น บุคคลมีจิตสหรคตด้วยปีติและที่สหรคตด้วย
สุขเห็นแจ้งขันธ์ที่สหรคตด้วยอุเบกขาโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินขันธ์นั้น ราคะที่สหรคตด้วยปีติ
และที่สหรคตด้วยสุขจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น เพราะปรารภขันธ์ที่สหรคตด้วย
อุเบกขา ขันธ์ที่สหรคตด้วยปีติและที่สหรคตด้วยสุขจึงเกิดขึ้น (4)
[21] สภาวธรรมที่สหรคตด้วยปีติและที่สหรคตด้วยสุขเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่สหรคตด้วยปีติ ฯลฯ แก่สภาวธรรมที่สหรคตด้วยสุข ฯลฯ เป็นปัจจัยแก่สภาว-
ธรรมที่สหรคตด้วยอุเบกขาโดยอารัมมณปัจจัย บุคคลมีจิตสหรคตด้วยปีติและ
สหรคตด้วยสุขให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถ ฯลฯ บุคคลมีจิตสหรคตด้วย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :137 }