เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 6. วิตักกติกะ 7. ปัญหาวาร
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและมหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่จิตต-
สมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและมหาภูตรูป
เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและกวฬิงการาหารเป็นปัจจัยแก่
กายนี้ที่เกิดก่อนโดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและรูปชีวิตินทรีย์เป็นปัจจัยแก่
กฏัตตารูปโดยอัตถิปัจจัย (3)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีทั้ง
วิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารโดยอัตถิปัจจัย มี 2 อย่าง คือ สหชาตะ
และปุเรชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ 1 ที่มีทั้งวิตกวิจารและหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 3
และวิตกโดยอัตถิปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ 2 และหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 2 และ
วิตกโดยอัตถิปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (4)
[134] สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารโดยอัตถิปัจจัย มี 2 อย่าง คือ สหชาตะและปุเรชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ วิตกและหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารโดย
อัตถิปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ วิตกและหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจาร
โดยอัตถิปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารโดยอัตถิปัจจัย มี 2 อย่าง คือ สหชาตะ และปุเรชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ 1 ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและวิจารเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 3
โดยอัตถิปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ 2 และวิจารเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 2 ฯลฯ ขันธ์ 1 ที่
ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 3 โดยอัตถิปัจจัย ฯลฯ
ขันธ์ 2 และหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 2 โดยอัตถิปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ 1 ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและวิจารเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 3 โดยอัตถิปัจจัย ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :114 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 6. วิตักกติกะ 7. ปัญหาวาร
ขันธ์ 2 และวิจารเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 2 ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ 1 ที่ไม่มีวิตก
มีเพียงวิจารและหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 3 ฯลฯ ขันธ์ 2 และหทัยวัตถุเป็น
ปัจจัยแก่ขันธ์ 2 โดยอัตถิปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารโดยอัตถิปัจจัย มี 5 อย่าง คือ สหชาตะ ปุเรชาตะ
ปัจฉาชาตะ อาหาระ และอินทรียะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและวิจารเป็นปัจจัยแก่
จิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและมหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่
จิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย
สหชาตะ ได้แก่ วิตกและมหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดย
อัตถิปัจจัย
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่วิจาร
โดยอัตถิปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและวิจารเป็นปัจจัยแก่
กฏัตตารูปโดยอัตถิปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและมหาภูต-
รูปเป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยอัตถิปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ วิตกและมหาภูตรูปเป็น
ปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยอัตถิปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและ
หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่วิจารโดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและวิจารเป็นปัจจัยแก่กายนี้
ที่เกิดก่อนโดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร วิตกและกวฬิงการาหารเป็น
ปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนโดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร วิตกและรูปชีวิตินทรีย์เป็น
ปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยอัตถิปัจจัย (3)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :115 }