เมนู

11. ราหุลสุตฺตวณฺณนา

[338] กจฺจิ อภิณฺหสํวาสาติ ราหุลสุตฺตํฯ กา อุปฺปตฺติ? ภควา สมฺมาสมฺโพธิํ อภิสมฺพุชฺฌิตฺวา โพธิมณฺฑโต อนุปุพฺเพน กปิลวตฺถุํ คนฺตฺวา ตตฺถ ราหุลกุมาเรน ‘‘ทายชฺชํ เม สมณ เทหี’’ติ ทายชฺชํ ยาจิโต สาริปุตฺตตฺเถรํ อาณาเปสิ – ‘‘ราหุลกุมารํ ปพฺพาเชหี’’ติฯ ตํ สพฺพํ ขนฺธกฏฺฐกถายํ (มหาว. อฏฺฐ. 105) วุตฺตนเยเนว คเหตพฺพํฯ เอวํ ปพฺพชิตํ ปน ราหุลกุมารํ วุฑฺฒิปฺปตฺตํ สาริปุตฺตตฺเถโรว อุปสมฺปาเทสิ, มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร อสฺส กมฺมวาจาจริโย อโหสิฯ ตํ ภควา ‘‘อยํ กุมาโร ชาติอาทิสมฺปนฺโน, โส ชาติโคตฺตกุลวณฺณโปกฺขรตาทีนิ นิสฺสาย มานํ วา มทํ วา มา อกาสี’’ติ ทหรกาลโต ปภุติ ยาว น อริยภูมิํ ปาปุณิ, ตาว โอวทนฺโต อภิณฺหํ อิมํ สุตฺตมภาสิฯ ตสฺมา เจตํ สุตฺตปริโยสาเนปิ วุตฺตํ ‘‘อิตฺถํ สุทํ ภควา อายสฺมนฺตํ ราหุลํ อิมาหิ คาถาหิ อภิณฺหํ โอวทตี’’ติฯ ตตฺถ ปฐมคาถายํ อยํ สงฺเขปตฺโถ ‘‘กจฺจิ ตฺวํ, ราหุล, อภิณฺหํ สํวาสเหตุ ชาติอาทีนํ อญฺญตเรน วตฺถุนา น ปริภวสิ ปณฺฑิตํ, ญาณปทีปสฺส ธมฺมเทสนาปทีปสฺส จ ธารณโต อุกฺกาธาโร มนุสฺสานํ กจฺจิ อปจิโต ตยา, กจฺจิ นิจฺจํ ปูชิโต ตยา’’ติ อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ สนฺธาย ภณติฯ

[339] เอวํ วุตฺเต อายสฺมา ราหุโล ‘‘นาหํ ภควา นีจปุริโส วิย สํวาสเหตุ มานํ วา มทํ วา กโรมี’’ติ ทีเปนฺโต อิมํ ปฏิคาถมาห ‘‘นาหํ อภิณฺหสํวาสา’’ติฯ สา อุตฺตานตฺถา เอวฯ

[340] ตโต นํ ภควา อุตฺตริํ โอวทนฺโต ปญฺจ กามคุเณติอาทิกา อวเสสคาถาโย อาหฯ ตตฺถ ยสฺมา ปญฺจ กามคุณา สตฺตานํ ปิยรูปา ปิยชาติกา อติวิย สตฺเตหิ อิจฺฉิตา ปตฺถิตา , มโน จ เนสํ รมยนฺติ, เต จายสฺมา ราหุโล หิตฺวา สทฺธาย ฆรา นิกฺขนฺโต, น ราชาภินีโต, น โจราภินีโต, น อิณฏฺโฏ, น ภยฏฺโฏ, น ชีวิกาปกโต, ตสฺมา นํ ภควา ‘‘ปญฺจ กามคุเณ หิตฺวา, ปิยรูเป มโนรเม, สทฺธาย ฆรา นิกฺขมฺมา’’ติ สมุตฺเตเชตฺวา อิมสฺส เนกฺขมฺมสฺส ปติรูปาย ปฏิปตฺติยา นิโยเชนฺโต อาห – ‘‘ทุกฺขสฺสนฺตกโร ภวา’’ติฯ

ตตฺถ สิยา ‘‘นนุ จายสฺมา ทายชฺชํ ปตฺเถนฺโต พลกฺกาเรน ปพฺพาชิโต, อถ กสฺมา ภควา อาห – ‘สทฺธาย ฆรา นิกฺขมฺมา’’’ติ วุจฺจเต – เนกฺขมฺมาธิมุตฺตตฺตาฯ อยญฺหิ อายสฺมา ทีฆรตฺตํ เนกฺขมฺมาธิมุตฺโต ปทุมุตฺตรสมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปุตฺตํ อุปเรวตํ นาม สามเณรํ ทิสฺวา สงฺโข นาม นาคราชา หุตฺวา สตฺต ทิวเส ทานํ ทตฺวา ตถาภาวํ ปตฺเถตฺวา ตโต ปภุติ ปตฺถนาสมฺปนฺโน อภินีหารสมฺปนฺโน สตสหสฺสกปฺเป ปารมิโย ปูเรตฺวา อนฺติมภวํ อุปปนฺโนฯ เอวํ เนกฺขมฺมาธิมุตฺตตญฺจสฺส ภควา ชานาติฯ ตถาคตพลญฺญตรญฺหิ เอตํ ญาณํฯ ตสฺมา อาห – ‘‘สทฺธาย ฆรา นิกฺขมฺมา’’ติฯ อถ วา ทีฆรตฺตํ สทฺธาเยว ฆรา นิกฺขมฺม อิทานิ ทุกฺขสฺสนฺตกโร ภวาติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโยฯ

[341] อิทานิสฺส อาทิโต ปภุติ วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตกิริยาย ปฏิปตฺติํ ทสฺเสตุํ ‘‘มิตฺเต ภชสฺสุ กลฺยาเณ’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ สีลาทีหิ อธิกา กลฺยาณมิตฺตา นาม, เต ภชนฺโต หิมวนฺตํ นิสฺสาย มหาสาลา มูลาทีหิ วิย สีลาทีหิ วฑฺฒติฯ เตนาห – ‘‘มิตฺเต ภชสฺสุ กลฺยาเณ’’ติฯ

ปนฺตญฺจ สยนาสนํ, วิวิตฺตํ อปฺปนิคฺโฆสนฺติ ยญฺจ สยนาสนํ ปนฺตํ ทูรํ วิวิตฺตํ อปฺปากิณฺณํ อปฺปนิคฺโฆสํ, ยตฺถ มิคสูกราทิสทฺเทน อรญฺญสญฺญา อุปฺปชฺชติ, ตถารูปํ สยนาสนญฺจ ภชสฺสุฯ มตฺตญฺญู โหหิ โภชเนติ ปมาณญฺญู โหหิ, ปฏิคฺคหณมตฺตํ ปริโภคมตฺตญฺจ ชานาหีติ อตฺโถฯ ตตฺถ ปฏิคฺคหณมตฺตญฺญุนา เทยฺยธมฺเมปิ อปฺเป ทายเกปิ อปฺปํ ทาตุกาเม อปฺปเมว คเหตพฺพํ, เทยฺยธมฺเม อปฺเป ทายเก ปน พหุํ ทาตุกาเมปิ อปฺปเมว คเหตพฺพํ, เทยฺยธมฺเม ปน พหุตเร ทายเกปิ อปฺปํ ทาตุกาเม อปฺปเมว คเหตพฺพํ, เทยฺยธมฺเมปิ พหุตเร ทายเกปิ พหุํ ทาตุกาเม อตฺตโน พลํ ชานิตฺวา คเหตพฺพํฯ อปิจ มตฺตาเยว วณฺณิตา ภควตาติ ปริโภคมตฺตญฺญุนา ปุตฺตมํสํ วิย อกฺขพฺภญฺชนมิว จ โยนิโส มนสิ กริตฺวา โภชนํ ปริภุญฺชิตพฺพนฺติฯ

[342] เอวมิมาย คาถาย พฺรหฺมจริยสฺส อุปการภูตาย กลฺยาณมิตฺตเสวนาย นิโยเชตฺวา เสนาสนโภชนมุเขน จ ปจฺจยปริโภคปาริสุทฺธิสีเล สมาทเปตฺวา อิทานิ ยสฺมา จีวราทีสุ ตณฺหาย มิจฺฉาอาชีโว โหติ, ตสฺมา ตํ ปฏิเสเธตฺวา อาชีวปาริสุทฺธิสีเล สมาทเปนฺโต ‘‘จีวเร ปิณฺฑปาเต จา’’ติ อิมํ คาถมาหฯ ตตฺถ ปจฺจเยติ คิลานปฺปจฺจเยฯ เอเตสูติ เอเตสุ จตูสุ จีวราทีสุ ภิกฺขูนํ ตณฺหุปฺปาทวตฺถูสุฯ ตณฺหํ มากาสีติ ‘‘หิริโกปีนปฏิจฺฉาทนาทิอตฺถเมว เต จตฺตาโร ปจฺจยา นิจฺจาตุรานํ ปุริสานํ ปฏิการภูตา ชชฺชรฆรสฺเสวิมสฺส อติทุพฺพลสฺส กายสฺส อุปตฺถมฺภภูตา’’ติอาทินา นเยน อาทีนวํ ปสฺสนฺโต ตณฺหํ มา ชเนสิ, อชเนนฺโต อนุปฺปาเทนฺโต วิหราหีติ วุตฺตํ โหติฯ กิํ การณํ? มา โลกํ ปุนราคมิฯ เอเตสุ หิ ตณฺหํ กโรนฺโต ตณฺหาย อากฑฺฒิยมาโน ปุนปิ อิมํ โลกํ อาคจฺฉติฯ โส ตฺวํ เอเตสุ ตณฺหํ มากาสิ, เอวํ สนฺเต น ปุน อิมํ โลกํ อาคมิสฺสสีติฯ

เอวํ วุตฺเต อายสฺมา ราหุโล ‘‘จีวเร ตณฺหํ มากาสีติ มํ ภควา อาหา’’ติ จีวรปฏิสํยุตฺตานิ ทฺเว ธุตงฺคานิ สมาทิยิ ปํสุกูลิกงฺคญฺจ, เตจีวริกงฺคญฺจฯ ‘‘ปิณฺฑปาเต ตณฺหํ มากาสีติ มํ ภควา อาหา’’ติ ปิณฺฑปาตปฏิสํยุตฺตานิ ปญฺจ ธุตงฺคานิ สมาทิยิ – ปิณฺฑปาติกงฺคํ, สปทานจาริกงฺคํ, เอกาสนิกงฺคํ, ปตฺตปิณฺฑิกงฺคํ, ขลุปจฺฉาภตฺติกงฺคนฺติฯ

‘‘เสนาสเน ตณฺหํ มากาสีติ มํ ภควา อาหา’’ติ เสนาสนปฏิสํยุตฺตานิ ฉ ธุตงฺคานิ สมาทิยิ – อารญฺญิกงฺคํ, อพฺโภกาสิกงฺคํ, รุกฺขมูลิกงฺคํ, ยถาสนฺถติกงฺคํ, โสสานิกงฺคํ, เนสชฺชิกงฺคนฺติฯ ‘‘คิลานปฺปจฺจเย ตณฺหํ มากาสีติ มํ ภควา อาหา’’ติ สพฺพปฺปจฺจเยสุ ยถาลาภํ ยถาพลํ ยถาสารุปฺปนฺติ ตีหิ สนฺโตเสหิ สนฺตุฏฺโฐ อโหสิ, ยถา ตํ สุพฺพโจ กุลปุตฺโต ปทกฺขิณคฺคาหี อนุสาสนินฺติฯ

[343] เอวํ ภควา อายสฺมนฺตํ ราหุลํ อาชีวปาริสุทฺธิสีเล สมาทเปตฺวา อิทานิ อวเสสสีเล สมถวิปสฺสนาสุ จ สมาทเปตุํ ‘‘สํวุโต ปาติโมกฺขสฺมิ’’นฺติอาทิมาหฯ ตตฺถ สํวุโต ปาติโมกฺขสฺมินฺติ เอตฺถ ภวสฺสูติ ปาฐเสโสฯ ภวาติ อนฺติมปเทน วา สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ, ตถา ทุติยปเทฯ เอวเมเตหิ ทฺวีหิ วจเนหิ ปาติโมกฺขสํวรสีเล, อินฺทฺริยสํวรสีเล จ สมาทเปสิฯ ปากฏวเสน เจตฺถ ปญฺจินฺทฺริยานิ วุตฺตานิฯ ลกฺขณโต ปน ฉฏฺฐมฺปิ วุตฺตํเยว โหตีติ เวทิตพฺพํฯ สติ กายคตา ตฺยตฺถูติ เอวํ จตุปาริสุทฺธิสีเล ปติฏฺฐิตสฺส ตุยฺหํ จตุธาตุววตฺถานจตุพฺพิธสมฺปชญฺญานาปานสฺสติอาหาเรปฏิกูลสญฺญาภาวนาทิเภทา กายคตา สติ อตฺถุ ภวตุ, ภาเวหิ นนฺติ อตฺโถฯ นิพฺพิทาพหุโล ภวาติ สํสารวฏฺเฏ อุกฺกณฺฐนพหุโล สพฺพโลเก อนภิรตสญฺญี โหหีติ อตฺโถฯ

[344] เอตฺตาวตา นิพฺเพธภาคิยํ อุปจารภูมิํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อปฺปนาภูมิํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นิมิตฺตํ ปริวชฺเชหี’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ นิมิตฺตนฺติ ราคฏฺฐานิยํ สุภนิมิตฺตํฯ เตเนว นํ ปรโต วิเสเสนฺโต อาห – ‘‘สุภํ ราคูปสญฺหิต’’นฺติฯ ปริวชฺเชหีติ อมนสิกาเรน ปริจฺจชาหิฯ อสุภาย จิตฺตํ ภาเวหีติ ยถา สวิญฺญาณเก อวิญฺญาณเก วา กาเย อสุภภาวนา สมฺปชฺชติ, เอวํ จิตฺตํ ภาเวหิฯ เอกคฺคํ สุสมาหิตนฺติ อุปจารสมาธินา เอกคฺคํ, อปฺปนาสมาธินา สุสมาหิตํฯ ยถา เต อีทิสํ จิตฺตํ โหติ, ตถา นํ ภาเวหีติ อตฺโถฯ

[345] เอวมสฺส อปฺปนาภูมิํ ทสฺเสตฺวา วิปสฺสนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนิมิตฺต’’นฺติอาทิมาหฯ ตตฺถ อนิมิตฺตญฺจ ภาเวหีติ เอวํ นิพฺเพธภาคิเยน สมาธินา สมาหิตจิตฺโต วิปสฺสนํ ภาเวหีติ วุตฺตํ โหติฯ

วิปสฺสนา หิ ‘‘อนิจฺจานุปสฺสนาญาณํ นิจฺจนิมิตฺตโต วิมุจฺจตีติ อนิมิตฺโต วิโมกฺโข’’ติอาทินา นเยน ราคนิมิตฺตาทีนํ วา อคฺคหเณน อนิมิตฺตโวหารํ ลภติฯ ยถาห –

‘‘โส ขฺวาหํ, อาวุโส, สพฺพนิมิตฺตานํ อมนสิการา อนิมิตฺตํ เจโตสมาธิํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิฯ ตสฺส มยฺหํ, อาวุโส, อิมินา วิหาเรน วิหรโต นิมิตฺตานุสาริ วิญฺญาณํ โหตี’’ติ (สํ. นิ. 4.340)ฯ

มานานุสยมุชฺชหาติ อิมาย อนิมิตฺตภาวนาย อนิจฺจสญฺญํ ปฏิลภิตฺวา ‘‘อนิจฺจสญฺญิโน, เมฆิย, อนตฺตสญฺญา สณฺฐาติ, อนตฺตสญฺญี อสฺมิมานสมุคฺฆาตํ ปาปุณาตี’’ติ เอวมาทินา (อ. นิ. 9.3; อุทา. 31) อนุกฺกเมน มานานุสยํ อุชฺชห ปชห ปริจฺจชาหีติ อตฺโถฯ ตโต มานาภิสมยา, อุปสนฺโต จริสฺสสีติ อเถวํ อริยมคฺเคน มานสฺส อภิสมยา ขยา วยา ปหานา ปฏินิสฺสคฺคา อุปสนฺโต นิพฺพุโต สีติภูโต สพฺพทรถปริฬาหวิรหิโต ยาว อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพาสิ, ตาว สุญฺญตานิมิตฺตาปฺปณิหิตานํ อญฺญตรญฺญตเรน ผลสมาปตฺติวิหาเรน จริสฺสสิ วิหริสฺสสีติ อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺฐาเปสิฯ

ตโต ปรํ ‘‘อิตฺถํ สุทํ ภควา’’ติอาทิ สงฺคีติการกานํ วจนํฯ ตตฺถ อิตฺถํ สุทนฺติ อิตฺถํ สุ อิทํ, เอวเมวาติ วุตฺตํ โหติฯ เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวฯ เอวํ โอวทิยมาโน จายสฺมา ราหุโล ปริปากคเตสุ วิมุตฺติปริปาจนิเยสุ ธมฺเมสุ จูฬราหุโลวาทสุตฺตปริโยสาเน อเนเกหิ เทวตาสหสฺเสหิ สทฺธิํ อรหตฺเต ปติฏฺฐาสีติฯ

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺฐกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺฐกถาย ราหุลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

12. นิคฺโรธกปฺปสุตฺต-(วงฺคีสสุตฺต)-วณฺณนา

เอวํ เม สุตนฺติ นิคฺโรธกปฺปสุตฺตํ, ‘‘วงฺคีสสุตฺต’’นฺติปิ วุจฺจติฯ กา อุปฺปตฺติ? อยเมว ยาสฺส นิทาเน วุตฺตาฯ ตตฺถ เอวํ เมติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว, ยโต ตานิ อญฺญานิ จ ตถาวิธานิ ฉฑฺเฑตฺวา อวุตฺตนยเมว วณฺณยิสฺสามฯ อคฺคาฬเว เจติเยติ อาฬวิยํ อคฺคเจติเยฯ อนุปฺปนฺเน หิ ภควติ อคฺคาฬวโคตมกาทีนิ อเนกานิ เจติยานิ อเหสุํ ยกฺขนาคาทีนํ ภวนานิฯ ตานิ อุปฺปนฺเน ภควติ มนุสฺสา วินาเสตฺวา วิหาเร อกํสุ, เตเนว จ นาเมน โวหริํสุฯ ตโต อคฺคาฬวเจติยสงฺขาเต วิหาเร วิหรตีติ วุตฺตํ โหติฯ อายสฺมโต วงฺคีสสฺสาติ เอตฺถ อายสฺมาติ ปิยวจนํ, วงฺคีโสติ ตสฺส เถรสฺส นามํฯ โส ชาติโต ปภุติ เอวํ เวทิตพฺโพ – โส กิร ปริพฺพาชกสฺส ปุตฺโต ปริพฺพาชิกาย กุจฺฉิมฺหิ ชาโต อญฺญตรํ วิชฺชํ ชานาติ, ยสฺสานุภาเวน ฉวสีสํ อาโกเฏตฺวา สตฺตานํ คติํ ชานาติฯ มนุสฺสาปิ สุทํ อตฺตโน ญาตีนํ กาลกตานํ สุสานโต สีสานิ อาเนตฺวา ตํ เตสํ คติํ ปุจฺฉนฺติฯ โส ‘‘อสุกนิรเย นิพฺพตฺโต, อสุกมนุสฺสโลเก’’ติ วทติฯ เต เตน วิมฺหิตา ตสฺส พหุํ ธนํ เทนฺติฯ เอวํ โส สกลชมฺพุทีเป ปากโฏ อโหสิฯ

โส สตสหสฺสกปฺปํ ปูริตปารมี อภินีหารสมฺปนฺโน ปญฺจหิ ปุริสสหสฺเสหิ ปริวุโต คามนิคมชนปทราชธานีสุ วิจรนฺโต สาวตฺถิํ อนุปฺปตฺโตฯ เตน จ สมเยน ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ, สาวตฺถิวาสิโน ปุเรภตฺตํ ทานํ ทตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ สุนิวตฺถา สุปารุตา ปุปฺผคนฺธาทีนิ คเหตฺวา ธมฺมสฺสวนตฺถาย เชตวนํ คจฺฉนฺติฯ โส เต ทิสฺวา ‘‘มหาชนกาโย กุหิํ คจฺฉตี’’ติ ปุจฺฉิฯ อถสฺส เต อาจิกฺขิํสุ – ‘‘พุทฺโธ โลเก อุปฺปนฺโน, โส พหุชนหิตาย ธมฺมํ เทเสติ, ตตฺถ คจฺฉามา’’ติฯ โสปิ เตหิ สทฺธิํ สปริวาโร คนฺตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ อถ นํ ภควา อามนฺเตสิ – ‘‘กิํ, วงฺคีส, ชานาสิ กิร ตาทิสํ วิชฺชํ, ยาย สตฺตานํ ฉวสีสานิ อาโกเฏตฺวา คติํ ปเวเทสี’’ติ? ‘‘เอวํ, โภ โคตม, ชานามี’’ติฯ ภควา นิรเย นิพฺพตฺตสฺส สีสํ อาหราเปตฺวา ทสฺเสสิ, โส นเขน อาโกเฏตฺวา ‘‘นิรเย นิพฺพตฺตสฺส สีสํ โภ โคตมา’’ติ อาหฯ เอวํ สพฺพคตินิพฺพตฺตานํ สีสานิ ทสฺเสสิ, โสปิ ตเถว ญตฺวา อาโรเจสิฯ อถสฺส ภควา ขีณาสวสีสํ ทสฺเสสิ, โส ปุนปฺปุนํ อาโกเฏตฺวา น อญฺญาสิฯ