เมนู

5. จุนฺทสุตฺตวณฺณนา

[83] ปุจฺฉามิ มุนิํ ปหูตปญฺญนฺติ จุนฺทสุตฺตํฯ กา อุปฺปตฺติ? สงฺเขปโต ตาว อตฺตชฺฌาสยปรชฺฌาสยอฏฺฐุปฺปตฺติปุจฺฉาวสิกเภทโต จตูสุ อุปฺปตฺตีสุ อิมสฺส สุตฺตสฺส ปุจฺฉาวสิกา อุปฺปตฺติฯ วิตฺถารโต ปน เอกํ สมยํ ภควา มลฺเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ เยน ปาวา ตทวสริฯ ตตฺร สุทํ ภควา ปาวายํ วิหรติ จุนฺทสฺส กมฺมารปุตฺตสฺส อมฺพวเนฯ อิโต ปภุติ ยาว ‘‘อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธิํ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน จุนฺทสฺส กมฺมารปุตฺตสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีที’’ติ (ที. นิ. 2.189), ตาว สุตฺเต อาคตนเยเนว วิตฺถาเรตพฺพํฯ

เอวํ ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ นิสินฺเน ภควติ จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริวิสนฺโต พฺยญฺชนสูปาทิคหณตฺถํ ภิกฺขูนํ สุวณฺณภาชนานิ อุปนาเมสิฯ อปญฺญตฺเต สิกฺขาปเท เกจิ ภิกฺขู สุวณฺณภาชนานิ ปฏิจฺฉิํสุ เกจิ น ปฏิจฺฉิํสุฯ ภควโต ปน เอกเมว ภาชนํ อตฺตโน เสลมยํ ปตฺตํ, ทุติยภาชนํ พุทฺธา น คณฺหนฺติฯ ตตฺถ อญฺญตโร ปาปภิกฺขุ สหสฺสคฺฆนกํ สุวณฺณภาชนํ อตฺตโน โภชนตฺถาย สมฺปตฺตํ เถยฺยจิตฺเตน กุญฺจิกตฺถวิกาย ปกฺขิปิฯ จุนฺโท ปริวิสิตฺวา หตฺถปาทํ โธวิตฺวา ภควนฺตํ นมสฺสมาโน ภิกฺขุสงฺฆํ โอโลเกนฺโต ตํ ภิกฺขุํ อทฺทส, ทิสฺวา จ ปน อปสฺสมาโน วิย หุตฺวา น นํ กิญฺจิ อภณิ ภควติ เถเรสุ จ คารเวน, อปิจ ‘‘มิจฺฉาทิฏฺฐิกานํ วจนปโถ มา อโหสี’’ติฯ โส ‘‘กิํ นุ โข สํวรยุตฺตาเยว สมณา, อุทาหุ ภินฺนสํวรา อีทิสาปิ สมณา’’ติ ญาตุกาโม สายนฺหสมเย ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา อาห ‘‘ปุจฺฉามิ มุนิ’’นฺติฯ

ตตฺถ ปุจฺฉามีติ อิทํ ‘‘ติสฺโส ปุจฺฉา อทิฏฺฐโชตนา ปุจฺฉา’’ติอาทินา (จูฬนิ. ปุณฺณกมาณวปุจฺฉานิทฺเทส 12) นเยน นิทฺเทเส วุตฺตนยเมวฯ มุนินฺติ เอตมฺปิ ‘‘โมนํ วุจฺจติ ญาณํฯ ยา ปญฺญา ปชานนา…เป.… สมฺมาทิฏฺฐิ, เตน ญาเณน สมนฺนาคโต มุนิ, โมนปฺปตฺโตติ, ตีณิ โมเนยฺยานิ กายโมเนยฺย’’นฺติอาทินา (มหานิ. 14) นเยน ตตฺเถว วุตฺตนยเมว ฯ อยมฺปเนตฺถ สงฺเขโปฯ ปุจฺฉามีติ โอกาสํ กาเรนฺโต มุนินฺติ มุนิมุนิํ ภควนฺตํ อาลปติฯ ปหูตปญฺญนฺติอาทีนิ ถุติวจนานิ, เตหิ ตํ มุนิํ ถุนาติฯ ตตฺถ ปหูตปญฺญนฺติ วิปุลปญฺญํฯ เญยฺยปริยนฺติกตฺตา จสฺส วิปุลตา เวทิตพฺพาฯ อิติ จุนฺโท กมฺมารปุตฺโตติ อิทํ ทฺวยํ ธนิยสุตฺเต วุตฺตนยเมวฯ อิโต ปรํ ปน เอตฺตกมฺปิ อวตฺวา สพฺพํ วุตฺตนยํ ฉฑฺเฑตฺวา อวุตฺตนยเมว วณฺณยิสฺสามฯ

พุทฺธนฺติ ตีสุ พุทฺเธสุ ตติยพุทฺธํฯ ธมฺมสฺสามินฺติ มคฺคธมฺมสฺส ชนกตฺตา ปุตฺตสฺเสว ปิตรํ อตฺตนา อุปฺปาทิตสิปฺปายตนาทีนํ วิย จ อาจริยํ ธมฺมสฺส สามิํ, ธมฺมิสฺสรํ ธมฺมราชํ ธมฺมวสวตฺตินฺติ อตฺโถฯ วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘โส หิ, พฺราหฺมณ, ภควา อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา, อสญฺชาตสฺส มคฺคสฺส สญฺชเนตา, อนกฺขาตสฺส มคฺคสฺส อกฺขาตา, มคฺคญฺญู, มคฺควิทู, มคฺคโกวิโทฯ มคฺคานุคา จ ปน เอตรหิ สาวกา วิหรนฺติ ปจฺฉา สมนฺนาคตา’’ติ (ม. นิ. 3.79)ฯ

วีตตณฺหนฺติ วิคตกามภววิภวตณฺหํฯ ทฺวิปทุตฺตมนฺติ ทฺวิปทานํ อุตฺตมํฯ ตตฺถ กิญฺจาปิ ภควา น เกวลํ ทฺวิปทุตฺตโม เอว, อถ โข ยาวตา สตฺตา อปทา วา ทฺวิปทา วา…เป.… เนวสญฺญีนาสญฺญิโน วา, เตสํ สพฺเพสํ อุตฺตโมฯ อถ โข อุกฺกฏฺฐปริจฺเฉทวเสน ทฺวิปทุตฺตโมตฺเวว วุจฺจติฯ ทฺวิปทา หิ สพฺพสตฺตานํ อุกฺกฏฺฐา จกฺกวตฺติมหาสาวกปจฺเจกพุทฺธานํ ตตฺถ อุปฺปตฺติโต, เตสญฺจ อุตฺตโมติ วุตฺเต สพฺพสตฺตุตฺตโมติ วุตฺโตเยว โหติฯ สารถีนํ ปวรนฺติ สาเรตีติ สารถิ, หตฺถิทมกาทีนเมตํ อธิวจนํฯ เตสญฺจ ภควา ปวโร อนุตฺตเรน ทมเนน ปุริสทมฺเม ทเมตุํ สมตฺถภาวโตฯ ยถาห –

‘‘หตฺถิทมเกน, ภิกฺขเว, หตฺถิทมฺโม สาริโต เอกํ เอว ทิสํ ธาวติ ปุรตฺถิมํ วา ปจฺฉิมํ วา อุตฺตรํ วา ทกฺขิณํ วาฯ อสฺสทมเกน, ภิกฺขเว, อสฺสทมฺโม…เป.… โคทมเกน, ภิกฺขเว, โคทมฺโม…เป.… ทกฺขิณํ วาฯ ตถาคเตน หิ, ภิกฺขเว, อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปุริสทมฺโม สาริโต อฏฺฐ ทิสา วิธาวติ, รูปี รูปานิ ปสฺสติ, อยเมกา ทิสา…เป.… สญฺญาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ อฏฺฐมี ทิสา’’ติ (ม. นิ. 3.312)ฯ

กตีติ อตฺถปฺปเภทปุจฺฉาฯ โลเกติ สตฺตโลเกฯ สมณาติ ปุจฺฉิตพฺพอตฺถนิทสฺสนํฯ อิงฺฆาติ ยาจนตฺเถ นิปาโตฯ ตทิงฺฆาติ เต อิงฺฆฯ พฺรูหีติ อาจิกฺข กถยสฺสูติฯ

[84] เอวํ วุตฺเต ภควา จุนฺทํ กมฺมารปุตฺตํ ‘‘กิํ, ภนฺเต, กุสลํ, กิํ อกุสล’’นฺติอาทินา (ม. นิ. 3.296) นเยน คิหิปญฺหํ อปุจฺฉิตฺวา สมณปญฺหํ ปุจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อาวชฺเชนฺโต ‘‘ตํ ปาปภิกฺขุํ สนฺธาย อยํ ปุจฺฉตี’’ติ ญตฺวา ตสฺส อญฺญตฺร โวหารมตฺตา อสฺสมณภาวํ ทีเปนฺโต อาห ‘‘จตุโร สมณา’’ติฯ ตตฺถ จตุโรติ สงฺขฺยาปริจฺเฉโทฯ

สมณาติ กทาจิ ภควา ติตฺถิเย สมณวาเทน วทติ; ยถาห – ‘‘ยานิ ตานิ ปุถุสมณพฺราหฺมณานํ วตโกตูหลมงฺคลานี’’ติ (ม. นิ. 1.407)ฯ กทาจิ ปุถุชฺชเน; ยถาห – ‘‘สมณา สมณาติ โข, ภิกฺขเว, ชโน สญฺชานาตี’’ติ (ม. นิ. 1.435)ฯ กทาจิ เสกฺเข; ยถาห – ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ, อิธ ทุติโย สมโณ’’ติ (ม. นิ. 1.139; ที. นิ. 2.214; อ. นิ. 4.241)ฯ กทาจิ ขีณาสเว; ยถาห – ‘‘อาสวานํ ขยา สมโณ โหตี’’ติ (ม. นิ. 1.438)ฯ กทาจิ อตฺตานํเยว; ยถาห – ‘‘สมโณติ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ (อ. นิ. 8.85)ฯ อิธ ปน ตีหิ ปเทหิ สพฺเพปิ อริเย สีลวนฺตํ ปุถุชฺชนญฺจ , จตุตฺเถน อิตรํ อสฺสมณมฺปิ ภณฺฑุํ กาสาวกณฺฐํ เกวลํ โวหารมตฺตเกน สมโณติ สงฺคณฺหิตฺวา ‘‘จตุโร สมณา’’ติ อาหฯ น ปญฺจมตฺถีติ อิมสฺมิํ ธมฺมวินเย โวหารมตฺตเกน ปฏิญฺญามตฺตเกนาปิ ปญฺจโม สมโณ นาม นตฺถิฯ

เต เต อาวิกโรมีติ เต จตุโร สมเณ ตว ปากเฏ กโรมิฯ สกฺขิปุฏฺโฐติ สมฺมุขา ปุจฺฉิโตฯ มคฺคชิโนติ มคฺเคน สพฺพกิเลเส วิชิตาวีติ อตฺโถฯ มคฺคเทสโกติ ปเรสํ มคฺคํ เทเสตาฯ มคฺเค ชีวตีติ สตฺตสุ เสกฺเขสุ โย โกจิ เสกฺโข อปริโยสิตมคฺควาสตฺตา โลกุตฺตเร, สีลวนฺตปุถุชฺชโน จ โลกิเย มคฺเค ชีวติ นาม, สีลวนฺตปุถุชฺชโน วา โลกุตฺตรมคฺคนิมิตฺตํ ชีวนโตปิ มคฺเค ชีวตีติ เวทิตพฺโพฯ โย จ มคฺคทูสีติ โย จ ทุสฺสีโล มิจฺฉาทิฏฺฐิ มคฺคปฏิโลมาย ปฏิปตฺติยา มคฺคทูสโกติ อตฺโถฯ

[85] ‘‘อิเม เต จตุโร สมณา’’ติ เอวํ ภควตา สงฺเขเปน อุทฺทิฏฺเฐ จตุโร สมเณ ‘‘อยํ นาเมตฺถ มคฺคชิโน, อยํ มคฺคเทสโก, อยํ มคฺเค ชีวติ, อยํ มคฺคทูสี’’ติ เอวํ ปฏิวิชฺฌิตุํ อสกฺโกนฺโต ปุน ปุจฺฉิตุํ จุนฺโท อาห ‘‘กํ มคฺคชิน’’นฺติฯ ตตฺถ มคฺเค ชีวติ เมติ โย โส มคฺเค ชีวติ, ตํ เม พฺรูหิ ปุฏฺโฐติฯ เสสํ ปากฏเมวฯ

[86] อิทานิสฺส ภควา จตุโรปิ สมเณ จตูหิ คาถาหิ นิทฺทิสนฺโต อาห ‘‘โย ติณฺณกถํกโถ วิสลฺโล’’ติฯ ตตฺถ ติณฺณกถํกโถ วิสลฺโลติ เอตํ อุรคสุตฺเต วุตฺตนยเมวฯ อยํ ปน วิเสโสฯ

ยสฺมา อิมาย คาถาย มคฺคชิโนติ พุทฺธสมโณ อธิปฺเปโต, ตสฺมา สพฺพญฺญุตญฺญาเณน กถํกถาปติรูปกสฺส สพฺพธมฺเมสุ อญฺญาณสฺส ติณฺณตฺตาปิ ‘‘ติณฺณกถํกโถ’’ติ เวทิตพฺโพฯ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน หิ ติณฺณกถํกถาปิ โสตาปนฺนาทโย ปจฺเจกพุทฺธปริโยสานา สกทาคามิวิสยาทีสุ พุทฺธวิสยปริโยสาเนสุ ปฏิหตญาณปฺปภาวตฺตา ปริยาเยน อติณฺณกถํกถาว โหนฺติฯ ภควา ปน สพฺพปฺปกาเรน ติณฺณกถํกโถติฯ นิพฺพานาภิรโตติ นิพฺพาเน อภิรโต, ผลสมาปตฺติวเสน สทา นิพฺพานนินฺนจิตฺโตติ อตฺโถฯ ตาทิโส จ ภควาฯ ยถาห –

‘‘โส โข อหํ, อคฺคิเวสฺสน, ตสฺสา เอว กถาย ปริโยสาเน, ตสฺมิํเยว ปุริมสฺมิํ สมาธินิมิตฺเต อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ สณฺฐเปมิ, สนฺนิสาเทมิ, เอโกทิํ กโรมิ, สมาทหามี’’ติ (ม. นิ. 1.387)ฯ

อนานุคิทฺโธติ กญฺจิ ธมฺมํ ตณฺหาเคเธน อนนุคิชฺฌนฺโตฯ โลกสฺส สเทวกสฺส เนตาติ อาสยานุสยานุโลเมน ธมฺมํ เทเสตฺวา ปารายนมหาสมยาทีสุ อเนเกสุ สุตฺตนฺเตสุ อปริมาณานํ เทวมนุสฺสานํ สจฺจปฏิเวธสมฺปาทเนน สเทวกสฺส โลกสฺส เนตา, คมยิตา, ตาเรตา, ปารํ สมฺปาเปตาติ อตฺโถฯ ตาทินฺติ ตาทิสํ ยถาวุตฺตปฺปการโลกธมฺเมหิ นิพฺพิการนฺติ อตฺโถฯ เสสเมตฺถ ปากฏเมวฯ

[87] เอวํ ภควา อิมาย คาถาย ‘‘มคฺคชิน’’นฺติ พุทฺธสมณํ นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ ขีณาสวสมณํ นิทฺทิสนฺโต อาห ‘‘ปรมํ ปรมนฺตี’’ติฯ ตตฺถ ปรมํ นาม นิพฺพานํ, สพฺพธมฺมานํ อคฺคํ อุตฺตมนฺติ อตฺโถฯ ปรมนฺติ โยธ ญตฺวาติ ตํ ปรมํ ปรมมิจฺเจว โย อิธ สาสเน ญตฺวา ปจฺจเวกฺขณญาเณนฯ อกฺขาติ วิภชเต อิเธว ธมฺมนฺติ นิพฺพานธมฺมํ อกฺขาติ, อตฺตนา ปฏิวิทฺธตฺตา ปเรสํ ปากฏํ กโรติ ‘‘อิทํ นิพฺพาน’’นฺติ, มคฺคธมฺมํ วิภชติ ‘‘อิเม จตฺตาโร สติปฏฺฐานา…เป.… อริโย อฏฺฐงฺคิโก มคฺโค’’ติฯ อุภยมฺปิ วา อุคฺฆฏิตญฺญูนํ สงฺเขปเทสนาย อาจิกฺขติ, วิปญฺจิตญฺญูนํ วิตฺถารเทสนาย วิภชติฯ เอวํ อาจิกฺขนฺโต วิภชนฺโต จ ‘‘อิเธว สาสเน อยํ ธมฺโม, น อิโต พหิทฺธา’’ติ สีหนาทํ นทนฺโต อกฺขาติ จ วิภชติ จฯ เตน วุตฺตํ ‘‘อกฺขาติ วิภชเต อิเธว ธมฺม’’นฺติฯ

ตํ กงฺขฉิทํ มุนิํ อเนชนฺติ ตํ เอวรูปํ จตุสจฺจปฏิเวเธน อตฺตโน, เทสนาย จ ปเรสํ กงฺขจฺเฉทเนน กงฺขจฺฉิทํ , โมเนยฺยสมนฺนาคเมน มุนิํ, เอชาสงฺขาตาย ตณฺหาย อภาวโต อเนชํ ทุติยํ ภิกฺขุนมาหุ มคฺคเทสินฺติฯ

[88] เอวํ อิมาย คาถาย สยํ อนุตฺตรํ มคฺคํ อุปฺปาเทตฺวา เทสนาย อนุตฺตโร มคฺคเทสี สมาโนปิ ทูตมิว เลขวาจกมิว จ รญฺโญ อตฺตโน สาสนหรํ สาสนโชตกญฺจ ‘‘มคฺคเทสิ’’นฺติ ขีณาสวสมณํ นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ เสกฺขสมณญฺจ สีลวนฺตปุถุชฺชนสมณญฺจ นิทฺทิสนฺโต อาห ‘‘โย ธมฺมปเท’’ติฯ ตตฺถ ปทวณฺณนา ปากฏาเยวฯ อยํ ปเนตฺถ อตฺถวณฺณนา – โย นิพฺพานธมฺมสฺส ปทตฺตา ธมฺมปเท, อุโภ อนฺเต อนุปคมฺม เทสิตตฺตา อาสยานุรูปโต วา สติปฏฺฐานาทินานปฺปกาเรหิ เทสิตตฺตา สุเทสิเต, มคฺคสมงฺคีปิ อนวสิตมคฺคกิจฺจตฺตา มคฺเค ชีวติ, สีลสํยเมน สญฺญโต, กายาทีสุ สูปฏฺฐิตาย จิรกตาทิสรณาย วา สติยา สติมา, อณุมตฺตสฺสาปิ วชฺชสฺส อภาวโต อนวชฺชตฺตา, โกฏฺฐาสภาเวน จ ปทตฺตา สตฺตติํสโพธิปกฺขิยธมฺมสงฺขาตานิ อนวชฺชปทานิ ภงฺคญาณโต ปภุติ ภาวนาเสวนาย เสวมาโน, ตํ ภิกฺขุนํ ตติยํ มคฺคชีวินฺติ อาหูติฯ

[89] เอวํ ภควา อิมาย คาถาย ‘‘มคฺคชีวิ’’นฺติ เสกฺขสมณํ สีลวนฺตปุถุชฺชนสมณญฺจ นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ ตํ ภณฺฑุํ กาสาวกณฺฐํ เกวลํ โวหารมตฺตสมณํ นิทฺทิสนฺโต อาห ‘‘ฉทนํ กตฺวานา’’ติฯ ตตฺถ ฉทนํ กตฺวานาติ ปติรูปํ กริตฺวา, เวสํ คเหตฺวา, ลิงฺคํ ธาเรตฺวาติ อตฺโถฯ สุพฺพตานนฺติ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธสาวกานํฯ เตสญฺหิ สุนฺทรานิ วตานิ, ตสฺมา เต สุพฺพตาติ วุจฺจนฺติฯ ปกฺขนฺทีติ ปกฺขนฺทโก, อนฺโต ปวิสโกติ อตฺโถฯ ทุสฺสีโล หิ คูถปฏิจฺฉาทนตฺถํ ติณปณฺณาทิจฺฉทนํ วิย อตฺตโน ทุสฺสีลภาวํ ปฏิจฺฉาทนตฺถํ สุพฺพตานํ ฉทนํ กตฺวา ‘‘อหมฺปิ ภิกฺขู’’ติ ภิกฺขุมชฺเฌ ปกฺขนฺทติ, ‘‘เอตฺตกวสฺเสน ภิกฺขุนา คเหตพฺพํ เอต’’นฺติ ลาเภ ทียมาเน ‘‘อหํ เอตฺตกวสฺโส’’ติ คณฺหิตุํ ปกฺขนฺทติ, เตน วุจฺจติ ‘‘ฉทนํ กตฺวาน สุพฺพตานํ ปกฺขนฺที’’ติฯ จตุนฺนมฺปิ ขตฺติยาทิกุลานํ อุปฺปนฺนํ ปสาทํ อนนุรูปปฏิปตฺติยา ทูเสตีติ กุลทูสโกฯ ปคพฺโภติ อฏฺฐฏฺฐาเนน กายปาคพฺภิเยน, จตุฏฺฐาเนน วจีปาคพฺภิเยน, อเนกฏฺฐาเนน มโนปาคพฺภิเยน จ สมนฺนาคโตติ อตฺโถฯ อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารํ ปน เมตฺตสุตฺตวณฺณนายํ วกฺขามฯ

กตปฏิจฺฉาทนลกฺขณาย มายาย สมนฺนาคตตฺตา มายาวีฯ สีลสํยมาภาเวน อสญฺญโตฯ ปลาปสทิสตฺตา ปลาโปฯ ยถา หิ ปลาโป อนฺโต ตณฺฑุลรหิโตปิ พหิ ถุเสน วีหิ วิย ทิสฺสติ, เอวมิเธกจฺโจ อนฺโต สีลาทิคุณสารวิรหิโตปิ พหิ สุพฺพตจฺฉทเนน สมณเวเสน สมโณ วิย ทิสฺสติฯ โส เอวํ ปลาปสทิสตฺตา ‘‘ปลาโป’’ติ วุจฺจติฯ อานาปานสฺสติสุตฺเต ปน ‘‘อปลาปายํ, ภิกฺขเว, ปริสา, นิปฺปลาปายํ, ภิกฺขเว, ปริสา, สุทฺธา สาเร ปติฏฺฐิตา’’ติ (ม. นิ. 3.146) เอวํ ปุถุชฺชนกลฺยาโณปิ ‘‘ปลาโป’’ติ วุตฺโต ฯ อิธ ปน กปิลสุตฺเต จ ‘‘ตโต ปลาเป วาเหถ, อสฺสมเณ สมณมานิเน’’ติ (สุ. นิ. 284) เอวํ ปราชิตโก ‘‘ปลาโป’’ติ วุตฺโตฯ ปติรูเปน จรํ สมคฺคทูสีติ ตํ สุพฺพตานํ ฉทนํ กตฺวา ยถา จรนฺตํ ‘‘อารญฺญิโก อยํ รุกฺขมูลิโก, ปํสุกูลิโก, ปิณฺฑปาติโก, อปฺปิจฺโฉ, สนฺตุฏฺโฐ’’ติ ชโน ชานาติ, เอวํ ปติรูเปน ยุตฺตรูเปน พาหิรมฏฺเฐน อาจาเรน จรนฺโต ปุคฺคโล อตฺตโน โลกุตฺตรมคฺคสฺส, ปเรสํ สุคติมคฺคสฺส จ ทูสนโต ‘‘มคฺคทูสี’’ติ เวทิตพฺโพฯ

[90] เอวํ อิมาย คาถาย ‘‘มคฺคทูสี’’ติ ทุสฺสีลํ โวหารมตฺตกสมณํ นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ เตสํ อญฺญมญฺญํ อพฺยามิสฺสีภาวํ ทีเปนฺโต อาห ‘‘เอเต จ ปฏิวิชฺฌี’’ติฯ ตสฺสตฺโถ – เอเต จตุโร สมเณ ยถาวุตฺเตน ลกฺขเณน ปฏิวิชฺฌิ อญฺญาสิ สจฺฉากาสิ โย คหฏฺโฐ ขตฺติโย วา พฺราหฺมโณ วา อญฺโญ วา โกจิ, อิเมสํ จตุนฺนํ สมณานํ ลกฺขณสฺสวนมตฺเตน สุตวา, ตสฺเสว ลกฺขณสฺส อริยานํ สนฺติเก สุตตฺตา อริยสาวโก, เตเยว สมเณ ‘‘อยญฺจ อยญฺจ เอวํลกฺขโณ’’ติ ปชานนมตฺเตน สปฺปญฺโญ, ยาทิโส อยํ ปจฺฉา วุตฺโต มคฺคทูสี, อิตเรปิ สพฺเพ เนตาทิสาติ ญตฺวา อิติ ทิสฺวา เอวํ ปาปํ กโรนฺตมฺปิ เอตํ ปาปภิกฺขุํ ทิสฺวาฯ ตตฺถายํ โยชนา – เอเต จ ปฏิวิชฺฌิ โย คหฏฺโฐ สุตวา อริยสาวโก สปฺปญฺโญ, ตสฺส ตาย ปญฺญาย สพฺเพ ‘‘เนตาทิสา’’ติ ญตฺวา วิหรโต อิติ ทิสฺวา น หาเปติ สทฺธา, เอวํ ปาปกมฺมํ กโรนฺตํ ปาปภิกฺขุํ ทิสฺวาปิ น หาเปติ, น หายติ, น นสฺสติ สทฺธาติฯ

เอวํ อิมาย คาถาย เตสํ อพฺยามิสฺสีภาวํ ทีเปตฺวา อิทานิ อิติ ทิสฺวาปิ ‘‘สพฺเพ เนตาทิสา’’ติ ชานนฺตํ อริยสาวกํ ปสํสนฺโต อาห ‘‘กถญฺหิ ทุฏฺเฐนา’’ติฯ ตสฺส สมฺพนฺโธ – เอตเทว จ ยุตฺตํ สุตวโต อริยสาวกสฺส, ยทิทํ เอกจฺจํ ปาปํ กโรนฺตํ อิติ ทิสฺวาปิ สพฺเพ ‘‘เนตาทิสา’’ติ ชานนํฯ กิํ การณา? กถญฺหิ ทุฏฺเฐน อสมฺปทุฏฺฐํ, สุทฺธํ อสุทฺเธน สมํ กเรยฺยาติ? ตสฺสตฺโถ – กถญฺหิ สุตวา อริยสาวโก สปฺปญฺโญ, สีลวิปตฺติยา ทุฏฺเฐน มคฺคทูสินา อทุฏฺฐํ อิตรํ สมณตฺตยํ, สุทฺธํ สมณตฺตยเมวํ อปริสุทฺธกายสมาจารตาทีหิ อสุทฺเธน ปจฺฉิเมน โวหารมตฺตกสมเณน สมํ กเรยฺย สทิสนฺติ ชาเนยฺยาติฯ สุตฺตปริโยสาเน อุปาสกสฺส มคฺโค วา ผลํ วา น กถิตํฯ กงฺขามตฺตเมว หิ ตสฺส ปหีนนฺติฯ

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺฐกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺฐกถาย จุนฺทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

6. ปราภวสุตฺตวณฺณนา

เอวํ เม สุตนฺติ ปราภวสุตฺตํฯ กา อุปฺปตฺติ? มงฺคลสุตฺตํ กิร สุตฺวา เทวานํ เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา มงฺคลสุตฺเต สตฺตานํ วุฑฺฒิญฺจ โสตฺถิญฺจ กถยมาเนน เอกํเสน ภโว เอว กถิโต, โน ปราภโวฯ หนฺท ทานิ เยน สตฺตา ปริหายนฺติ วินสฺสนฺติ, ตํ เนสํ ปราภวมฺปิ ปุจฺฉามา’’ติฯ อถ มงฺคลสุตฺตํ กถิตทิวสโต ทุติยทิวเส ทสสหสฺสจกฺกวาเฬสุ เทวตาโย ปราภวสุตฺตํ โสตุกามา อิมสฺมิํ เอกจกฺกวาเฬ สนฺนิปติตฺวา เอกวาลคฺคโกฏิโอกาสมตฺเต ทสปิ วีสมฺปิ ติํสมฺปิ จตฺตาลีสมฺปิ ปญฺญาสมฺปิ สฏฺฐิปิ สตฺตติปิ อสีติปิ สุขุมตฺตภาเว นิมฺมินิตฺวา สพฺพเทวมารพฺรหฺมาโน สิริยา จ เตเชน จ อธิคยฺห วิโรจมานํ ปญฺญตฺตวรพุทฺธาสเน นิสินฺนํ ภควนฺตํ ปริวาเรตฺวา อฏฺฐํสุฯ ตโต สกฺเกน เทวานมินฺเทน อาณตฺโต อญฺญตโร เทวปุตฺโต ภควนฺตํ ปราภวปญฺหํ ปุจฺฉิฯ อถ ภควา ปุจฺฉาวเสน อิมํ สุตฺตมภาสิฯ